ตอนที่ 10 - ขอความช่วยเหลือ
“พลอยใส พอจะมีเพื่อนหรือคนรู้จักอยากรับจ๊อบช่วงค่ำบ้างรึเปล่า” ใบเตยเอ่ยถามกับพลอยใสขณะที่พวกเธอกำลังอ่านอีเมลของบริษัททัวร์ที่ติดต่อเข้ามาจองห้องพัก
“งานอะไรเหรอคะพี่ใบเตย” พลอยใสละจากหน้าจอหันไปถามสาวรุ่นพี่ที่อยู่โต๊ะติดกัน
“เป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรมเรานี่แหละ พอดีคนที่ทำประจำขอลากลับบ้านหนึ่งอาทิตย์น่ะ เลยอยากหาคนไปทำแทน ทำแค่ห้าโมงครึงถึงสามทุ่มแค่นั้นเอง ส่วนกลางวันจะมีพนักงานอีกคนมาช่วยทำไปก่อน” ใบเตยบอกรายละเอียดงานที่ต้องการคนช่วย
พลอยใสเห็นว่าน่าสนใจดีไปทำแค่อาทิตย์เดียวเอง เป็นการเพิ่มรายได้ให้เธอมากขึ้นอีกหน่อยก็ยังดี เพราะยังไงตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้ทำโอทีเหมือนพวกรุ่นพี่ที่อยู่มานาน รอผ่านสี่เดือนไปแล้วและเธอได้ผ่านทดลองงานก็คงจะไปรับงานพิเศษแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
โรงแรมแห่งนี้ดีกว่าหลายๆ ที่อยู่หน่อย ตรงที่ว่าถ้ามีลูกค้าเยอะ แล้วพนักงานต้องอยู่เกินเวลาทำงานปกติ เขาก็จะคิดเป็นโอทีให้ รวมถึงพนักงานฝ่ายบริหารเช่นเดียวกัน
“พลอยใสไปได้มั้ยคะ เลิกงานที่นี่ก็ลงไปต่อข้างล่างเลย”
“อยากทำจริงๆ เหรอ” ใบเตยถามให้แน่ใจอีกครั้ง
“อยากทำคะ แค่อาทิตย์เดียวเอง พี่ใบเตยให้พลอยใสไปทำนะคะ” พลอยใสทำหน้าอ้อนกระพริบตาปริบๆ ให้กับสาวรุ่นพี่
ใบเตยเห็นว่าพลอยใสสนใจก็เลยตกปากรับคำไปทันที
หลังจากเลิกงานของเย็นอีกวัน พลอยใสก็ลงไปทำงานต่อในแผนกต้อนรับร่วมกับอีกสองสาวที่ชื่อ กอบัว กับ ใยไหม
ทั้งสองสาวนี้ก็รู้จักกับพลอยใสอยู่แล้ว เพราะอายุห่างกันแค่ปีเดียว แทบทุกเช้าที่พลอยใสเดินเข้ามาในโรงแรมก็มักจะเห็นสองคนนี้ยืนทำหน้าสวยๆ ส่งยิ้มหวานยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ และพลอยใสก็มักจะแวะทักทาย บางครั้งก็จะเอาขนมจากที่บ้านมาฝากทั้งสองสาวอยู่บ่อยครั้งจนสนิทกัน
“พลอยใสนึกยังไงถึงมารับงานนี้เหรอ” ใยไหมเอ่ยถาม
“งานดูน่าสนใจดี อีกอย่างทำแค่อาทิตย์เดียวเองก็ถือว่าช่วยๆ กันไป” พลอยใสตอบพลางคลี่ยิ้มให้กับสองสาว
พลอยใสปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับได้เป็นอย่างดี ทั้งการให้ข้อมูล การตอบคำถาม คอยเช็กอินเช็กเอาต์ของแขกที่มาเข้าพักด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอยิ้มให้กับแขกทุกคนโดยไม่รู้สึกว่าเป็นฝืนเลยสักนิด เพราะเธอเข้าใจดีว่าการให้บริการที่ดีคืออะไร
ในทุกๆ เช้าก่อนจะขึ้นไปชั้นบนพลอยใสจะแวะทักทายสองสาวแผนกต้อนรับเสียก่อน พอขึ้นไปบนชั้นสองก็พบกับป้าวรรณา แม่บ้านที่มาคอยทำความสะอาดออฟฟิศ ตกเย็นก็ลงไปทำงานพิเศษที่ชั้นล่าง ทำแบบนี้จนครบหนึ่งอาทิตย์ และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะมาทำงานแทนคนที่ขาดไป
ในช่วงใกล้จะเลิกงานป้าวรรณาก็โทรเข้ามาหาเบอร์ของโรงแรม และขอสายคุยกับพลอยใส ปกติป้าวรรณาไม่เคยโทรมาหาแบบนี้เลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าคืนนี้มีเรื่องอะไร
“ค่ะป้า” พลอยใสขานรับอีกฝ่ายที่โทรเข้ามา
(หนูพลอยใส ป้ามีเรื่องอยากจะรบกวนหน่อยค่ะ ป้านี่มันไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ไม่น่าลืมเรื่องสำคัญเลย)
วรรณาแม่บ้านของโรงแรมร้องขอความช่วยเหลือพร้อมกับต่อว่าตัวเองที่ดันลืมงานที่ธาราเลขาของเจ้านายสั่งเอาไว้ไปเสียสนิท เพิ่งจะนึกขึ้นได้ก็ตอนเกือบสามทุ่ม เธอไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากใคร นึกขึ้นได้แค่พลอยใสที่มักจะอัธยาศัยดี ชอบทักทายและเอาขนมมาฝากเธอเป็นประจำ วรรณาเลยอยากขอร้องให้พลอยใสช่วย
“ป้ามีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ บอกมาได้เลยค่ะ ถ้าช่วยได้หนูก็จะช่วย” พลอยใสฟังน้ำเสียงของอีกฝ่ายที่ดูร้อนรนผิดปกติเลยเสนอตัวเข้าช่วย ถ้ามันเป็นเรื่องที่เธอสามารถจะช่วยได้
(ป้าลืมขึ้นไปทำความสะอาดห้องสวีทค่ะ เป็นห้องที่เจ้านายจะเข้ามาพักในคืนนี้)
แค่เรื่องทำความสะอาดห้อง แล้วอีกอย่างโรงแรมระดับห้าดาวแบบนี้คงไม่มีอะไรให้ต้องทำมากมายอะไร
“แค่กวาดห้องใช่มั้ยคะ” พลอยใสถามกลับอีกฝ่าย
(ห้องไม่ต้องกวาดก็ได้ค่ะป้าเพิ่งกวาดไปเมื่อเช้า แต่ป้าลืมเปลี่ยนผ้าปูที่นอนค่ะ หนูพลอยใสแวะเข้าไปเปลี่ยนให้ป้าหน่อยได้มั้ยคะ)
“ได้เลยค่ะ แล้วผ้าปูกับคีย์การ์ดเข้าห้องล่ะคะ” พลอยใสตกปากรับคำแต่ก็ไม่ลืมที่จะถามให้ชัดเจน
(เข้าไปเอาในห้องแม่บ้านได้เลยค่ะ คีย์การ์ดอยู่ในตู้ล็อกเกอร์ของป้า ส่วนผ้าปูที่นอนอยู่ในตู้ใหญ่ทางขวามือค่ะ)
“แล้วห้องไหนคะ”
(ขึ้นไปที่ชั้นยี่สิบ ออกจากลิฟต์ก็เลี้ยวซ้ายไปที่ห้องสุดท้ายซ้ายมือเลยค่ะ หนูพลอยใสเข้าไปทำตอนนี้ก็ยังทัน กว่าเจ้านายจะเข้ามาพักก็น่าจะหลังเที่ยงคืนนู้นน่ะค่ะ)
“ค่ะป้า เดี๋ยวพลอยใสขึ้นไปจัดการให้นะคะ”
(ขอบคุณหนูพลอยใสมากเลยนะคะ ถ้าไม่ได้หนูป้าคงแย่แน่ ๆ เลย)
“เรื่องแค่นี้เองค่ะ มีอะไรก็ช่วยๆ กัน”
หลังจากฟังจนรู้ความและวางสายไปแล้วก็ได้เวลาเลิกงานของพลอยใสพอดี ดีที่ป้าวรรณาโทรมาหาเธอก่อนที่จะกลับบ้าน ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีใครมาทำแทนให้
พลอยใสเข้าไปในห้องทำงานของแม่บ้าน เธอเดินหาตู้ล็อกเกอร์ของป้าวรรณาแล้วหยิบคีย์การ์ดห้องดังกล่าวออกมา
เธอขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นดังกล่าวแล้วตรงไปยังห้องสุดท้ายที่อยู่ทางซ้ายมือ
เมื่อสแกนคีย์การ์ดเปิดเข้าห้องไป ดวงตาคู่หวานก็มองสำรวจเข้าไปภายในห้องที่มีขนาดใหญ่และถูกแบ่งแยกแต่ละโซนอย่างชัดเจน มีทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การตกแต่งภายในห้องหรูหรามาก พลอยใสรีบเดินเข้าไปในห้องนอน ก็พบกับเตียงขนาดคิงไซซ์วางอยู่กลางห้อง ด้านบนหัวเตียงมีโคมไฟวางอยู่บนโต๊ะเล็กๆ ทั้งสองข้างเตียง
พลอยใสรีบไปดึงผ้าปูที่นอนผืนเก่าออก แล้วจัดการสวมทับด้วยผ้าผืนใหม่ ด้วยความที่เธอไม่เคยเรียนเรื่องการปูผ้าปูที่นอนของโรงแรม ทำให้ใช้เวลาจัดการอยู่นานพอสมควร เพราะมัวแต่หาคลิปสอนวิธีดึงผ้าให้เรียบตึง กว่าจะแล้วเสร็จก็ปาไปสามทุ่มสี่สิบนาที
พลอยใสรีบหอบผ้าปูที่นอนผืนเก่าแล้วก้าวออกมาจากห้องนอน รีบเอาผืนเก่าไปเก็บจะได้รีบกลับบ้าน ป่านนี้ไม่รู้ว่ายายของเธอจะเข้านอนไปแล้ว หรือว่าจะยังรอเธอกลับบ้านอยู่หรือไม่
พลอยใสหันไปปิดประตูห้อง ก่อนจะก้าวเดินมายังประตูทางออก เธอก้าวขาไปได้เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาจากทางด้านนอกจนเธอนั้นรู้สึกตกใจที่อยู่ ๆ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามา