บทที่ 2
“วิคเตอร์ มาหานายท่านวูฟร์ทำไม”
โรนิลรู้จักกับวิคเตอร์ ผู้เป็นมหาเศรษฐีในทรานซิลวาเนีย เป็นอย่างดี เพราะว่าครั้งหนึ่ง เขาเคยทำงานเป็นเด็กล้างคอกม้าให้กับวิคเตอร์ด้วย
และเมื่อคิดถึงอดีตอันน่าอดสูของตนเอง ขณะทำงานเป็นลูกจ้างของวิคเตอร์ ซึ่งถูกเหยียบหยาม ถูกดูแคลนทั้งจากตัววิคเตอร์ และตัวลูกสาวที่เป็นคุณหนูไฮโซ ไม่เคยเห็นหัวคนจนๆ อย่างเขา ก็ถึงกับกัดฟันกรอด กำมือเข้าหากันแน่น ยืนประจันหน้ารอต้อนรับอดีตนายจ้าง เพราะอยากรู้ว่าอีกฝ่ายมายังปราสาทเดเนี่ยลเพื่อเหตุใด
ทางด้านอาคันตุกะผู้มาเยือน เหยียบคันเร่งแทบมิดตีนตั้งแต่ออกจากบ้านของตัวเองตรงมายังปราสาทเดเนี่ยล ด้วยกลัวว่าจะขับรถมายังปราสาทแห่งนี้ ไม่ทันได้ขายสินค้าราคาแพง ซึ่งนอนตัวอ่อนระทวยหมดแรงอยู่ตรงบริเวณเบาะหลัง
พอขับรถมาจอดด้านหน้าปราสาทเดเนี่ยลได้แล้ว วิคเตอร์ก็กระโดดลงจากรถ กวาดสายตามองคนที่ยืนกอดอกอยู่ ราศีของความร่ำรวย น่าเกรงขามแผ่ออกรอบตัวของบุรุษผู้นี้ ซึ่งเขาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นชายคนนี้ที่ไหนมาก่อน แต่ก็นึกไม่ออกสักที
แม้จะสงสัยในหน้าตาของบุรุษผู้นี้มากเพียงใด วิคเตอร์ก็จำต้องปัดออกไปจากหัวก่อน เพราะนาทีนี้เขาต้องการพบกับวูรฟ์ เดเนี่ยลมากที่สุด
“สวัสดี ท่านวูฟร์อยู่หรือเปล่า”
วิคเตอร์ถามเสียงห้วน เมื่อก้าวมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าบุรุษผู้นี้
โรนิลยังคงยืนกอดอกจ้องมองวิคเตอร์เขม็ง เมื่ออีกฝ่ายถามเสียงแข็งห้วน ก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ไม่แพ้กัน
“ไม่อยู่”
“ท่านวูฟร์ไปไหน”
ขณะถามเสียงแข็งไม่แพ้ครั้งแรก วิคเตอร์ก็กวาดสายตามองรอบๆ บริเวณ เพื่อมองหาผู้เป็นเจ้าของปราสาท ขณะเดียงกันก็ตีสีหน้าเป็นเดือดเป็นร้อน เมื่อหันกลับไปมองที่รถยนต์ของตนเองด้วย
“ไม่รู้” โรนิลโกหก พลางเอ่ยถามต่อ “คุณมาหานายท่านวูฟร์ทำไม”
“ไม่ใช่เรื่องของขี้ข้าอย่างแกต้องรับรู้”
วิคเตอร์เหยียดหยามผ่านถ้อยคำ ดวงตาหรี่เล็กจ้องมองคนตรงหน้าอย่างดูแคลนราวกับไม่ต้องการลดเกียรติมาเสวนาด้วย
โรนิลขบกรามแน่น ซ่อนความแค้นไว้ข้างในกาย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี วิคเตอร์ก็ยังคงดูถูกคนจนเหมือนเดิม
“ฮึ! ไม่บอกก็ไม่เป็นไร เพราะผมก็ไม่จำเป็นต้องบอกคุณเหมือนกันว่านายท่านวูฟร์ไปไหน”
วิคเตอร์หรี่ตามองคนตรงหน้า ชายคนนี้กำลังบอกเป็นนัยๆ เกี่ยวกับเจ้าของปราสาทเดเนี่ยล
“อย่ามาเล่นลิ้น ไอ้ขี้ข้า บอกมาว่าท่านวูฟร์ไปไหน”
“บอกธุระของคุณมาก่อนว่ามาหานายท่านทำไม แล้วผมจะบอกว่านายท่านวูฟร์อยู่ที่ไหน”
โรนิลย้อนกลับเข้าให้ พลางกระตุกยิ้มตรงมุมปากกับการเล่นเกม
เอาชนะวิคเตอร์
วิคเตอร์ไม่ทันได้ตอบคำถาม ก็มีเสียงดังขึ้นจากภายในรถยนต์ ดังติดกันหลายๆ ครั้ง
โครม!
โครม!
โรนิลหันขวับจ้องมองไปในรถยนต์ในทันที และด้วยสงสัยว่าใครอยู่ในรถ จึงก้าวเดินเร็วๆ ตรงไปยังรถยนต์ ชะโงกหน้าดูภายในรถ พอเห็นร่างบางระหงของใครบางคนนอนอยู่ตรงเบาะหลัง ไม่ต่างจากคนไม่ได้สติ ก็กระชากประตูรถเปิดออกเต็มแรง
เพราะเจ้าของร่างบางนอนซบหน้าอยู่กับเบาะรถ ผมยาวนุ่มสลวยกระจายเต็มเบาะปกปิดใบหน้าไว้ โรนิลจึงไม่รู้ว่าเธอผู้นี้คือใคร
“คุณพาใครมาด้วย”
วิคเตอร์ไม่ตอบคำถาม ตรงเข้ามาผลักโรนิลให้ถอยออกห่างจากตัวรถ แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อร่างใหญ่กำยำไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว
“ถอยไป ไอ้ขี้ข้า อย่ายุ่งเรื่องของกู”
“ผมถามว่าคุณพาใครมาด้วย”
โรนิลตะคอกถามเสียงดังลั่น สีหน้าเริ่มเผยอาการโกรธกริ้วให้เห็น
“อย่ามาแส่เรื่องของกู”
วิคเตอร์พยายามผลักร่างใหญ่ให้ถอยออกห่างอีกครั้ง
เมื่อไม่ได้รับคำตอบตามที่ต้องการ โรนิลจึงเอื้อมมือทั้งสองไปคว้าร่างบางระหงมาจากเบาะรถ ยกมือปัดเส้นผมยาวรุงรังให้พ้นทาง พอเห็นใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาว ถึงกับหลุดเสียงเรียกด้วยความลืมตัว
“ไอรินดา!”