บท
ตั้งค่า

บทที่๖...ตามสืบหาความจริง (๑)

ตามสืบหาความจริง

คำถามของเขาทำให้หล่อนพยายามเก็บพิรุธ ยิ้มหวานเพื่อปกปิดความกลัวแล้วรีบกอดแขนหนาให้มั่น ปิญชาน์ไม่มีทางรู้ว่าคนชื่อเป็นพริกแกงเป็นใคร ที่เขาถามก็เพราะสงสัยเท่านั้น เธอเตือนตัวเองก่อนจะส่ายศีรษะ

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเก็บเรื่องสำคัญให้เป็นความลับสุดยอด ชายหนุ่มจะไม่มีทางรู้เด็ดขาดว่าคนที่เขาแต่งงานด้วย ไม่ใช่อรลภัสญาตัวจริง หล่อนเริ่มหวงแหนชีวิตที่มีเขาข้างกายเสียแล้ว แววตารักใคร่ที่ได้รับจากเพศตรงข้ามอย่างที่ไม่มีใครเคยให้มาก่อน

กลายเป็นความโลภที่อยากครอบครองแต่เพียงผู้เดียว

“พริมก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ น่าจะเป็นใครสักคนมั้งคะ...เราเข้าไปในงานดีกว่าคนอื่นน่าจะรอ” ทำหน้าซื่อตาใส เมื่อกระโดดลงมาเล่นเกมนี้ก็ต้องไปให้สุด สงสัยคราวหน้าต้องระวังตัวมากกว่าเดิม ถึงใครจะเข้ามาทักอย่างไรก็ควรยืนยันเป็นมั่นเหมาะ

ว่าตนคือพริม...ภรรยาของปิญชาน์และเป็นคุณผู้หญิงของบ้านดำรงฤทธิ์!

“ค่ะ” ตอบรับรวดเร็วแล้วพาเธอเข้าไปในงาน

นั่งประจำที่ของตัวเองแล้วงานก็เริ่มเสิร์ฟไวน์พร้อมพูดถึงประวัติอันยาวนาน แต่ดูเหมือนว่าวิมาลาจะไม่ได้ฟัง เธอเอาแต่เหม่อแล้วหันไปพยักหน้าให้สามีที่นานทีจะหันมาชวนคุย เพราะเขากำลังสนุกยามได้พูดคุยถึงเรื่องธุรกิจกับเพื่อนที่นั่งข้างกัน

วิมาลารู้สึกถึงความแตกต่างในโลกใบใหม่ที่ตนได้มาใช้ชีวิต ถึงจะเป็นการสวมรอยและเรียนรู้ทุกอย่างเพื่อให้เข้ากับสังคมนี้ได้ แต่ลึกในใจเธอรู้ดีว่าไม่อาจเป็นอรลภัสญาได้ตลอดไป วันหนึ่งความจริงอาจปรากฏ

แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ขอเพียงแค่ให้ชายข้างกายรักเธอหมดหัวใจและยอมอภัยในเรื่องที่ผ่านมาก็พอแล้ว

“หนูพริม...” ออกจากงานก็มีรถตู้มาจอดรอรับอยู่ด้านหน้า เธอขึ้นนั่งเบาะด้านในโดยที่สามีนั่งข้างนอก ระหว่างนั้นก็นิ่งเงียบตลอดทางไม่พูดจา ตกอยู่ในภวังค์แห่งห้วงความคิดของตัวเอง จมดิ่งจนไม่อาจได้ยินว่าคนข้างกายเรียก

“หนูพริม” จนเขาต้องแตะแขนเธอจึงผินหน้าเหลียวมอง แววตาเหม่อลอยต่างจากทุกครั้งจนชายหนุ่มนึกสงสัย

ตั้งแต่ออกมาจากงานการกุศลอรลภัสญาก็เงียบและมีสีหน้าไม่ใคร่จะสู้ดีนัก ตอนรับประทานอาหารในงานเขากำลังดื่มด่ำกับรสชาติของไวน์ที่อร่อยจนซื้อกลับบ้านอีกสองขวด ไหนจะคุยกับเพื่อนถูกคอจึงลืมภรรยาไปชั่วขณะ

ทว่าเมื่ออยู่ด้วยกันสองคนเธอกลับเอาแต่เงียบใส่...หรือกำลังน้อยใจ

คิดไม่ตกแต่คาดว่าไม่น่าจะใช่เพราะความน้อยใจหรอก หญิงสาวอาจมีเรื่องอื่นให้คิดหรือเปล่า เขาคงต้องถามสักหน่อยแล้ว เผื่อจะคลายความกลัดกลุ้มให้หล่อนได้บ้าง

โดยไม่รู้เลยว่าเธอกำลังกลุ้มเพราะเขา...

“คะ ว่าไงคะอาชาน์”

“เหม่ออะไรคะ มีเรื่องอะไรทำให้หนูพริมของอาไม่สบายใจหรือเปล่า บอกอาได้เลยนะ เดี๋ยวอาจะคอยรับฟังเอง” คว้ามือของเธอมากอบกุมเอาไว้ แต่หญิงสาวก็ไม่ตอบอะไรทำเพียงจ้องดวงหน้าคมด้วยแววตาหวาดหวั่น

ยามเขาอยู่ท่ามกลางผู้คนทำให้รู้ว่าชายหนุ่มเป็นที่ต้องการมากแค่ไหน ระดับปิญชาน์มีผู้หญิงจ้องตาเป็นมัน แต่เขากลับมองแค่คนเดียวไม่สนใจใครอื่น หากหล่อนคือตัวจริงป่านนี้คงปลื้มปริ่มไปแล้ว แต่เพราะตนเป็นแค่ตัวแทน

ในใจจึงนึกอิจฉาผู้หญิงที่จะได้รับความรักจากเขา คนคนนั้นคงโชคดีมาก

“อาชาน์ใจดีแบบนี้กับทุกคนหรือเปล่าคะ พริมเริ่มจะหึงแล้วนะ” จ้องดวงตาคมไม่ยอมหลบ เห็นแบบนั้นเขาก็ยกมือขึ้นลูบศีรษะมน พูดเพื่อให้เธอได้เชื่อมั่นว่าจะมีเพียงหล่อนเท่านั้นที่ได้รับความรักทั้งหมดจากเขา

“อาใจดีกับหนูพริมคนเดียว คนอื่นอาไม่คิดจะมองด้วยซ้ำ หนูพริมไม่ต้องห่วงนะคะว่าสิ่งที่อาทำให้หนูพริมจะเหมือนคนอื่น ในสายตาของอา...ไม่มีใครเทียบกับหนูพริมได้”

หญิงอื่นเขาไม่เคยสนใจเลยสักครั้ง ชายหนุ่มมีความรักที่มั่นคงและแน่วแน่ จนไม่มีใครสามารถเอาชนะใจได้ ยกเว้นผู้หญิงที่ตนหมายตาเอาไว้แล้วเท่านั้น

“พริมอยากให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป” ฟังจบก็ทำได้เพียงแค่ยิ้ม ไม่อาจโต้ตอบสิ่งใดออกไป เลือกจะจ้องหน้าเขาอย่างโหยหา หวังมาตลอดคำว่านิรันดร์จะคงอยู่กับรักของเราตลอดไป แต่รู้ดีว่าคงไม่มีวันนั้น

ความแตกเมื่อไหร่...วันนั้นเธอคงต้องออกไปจากชีวิตเขา

“เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปค่ะ อาสัญญาว่าจะซื่อสัตย์และรักหนูพริมแค่คนเดียว” หัวใจของเธอยิ่งบีบรัดมากกว่าเดิม เพราะชื่อที่เขาเรียกไม่ใช่ชื่อของเธอ แต่สิ่งที่ทำได้คือยิ้มให้อีกฝ่าย ไม่อาจพูดความจริงให้เขารับรู้

หากบอกไปเรื่องจะยิ่งแย่กว่าเดิม ในใจของหล่อนจึงเหมือนมีหินหนักทับไว้ตลอดเวลา ไม่อาจยกออกไปได้

“อาชาน์คะ...” เรียกเขาเสียงแผ่ว คล้ายจะยอมจำนนกับเรื่องของเราว่าไม่อาจเป็นไปได้

ถ้ายื้ออย่างนี้ต่อไปคนเจ็บคงมีแค่ตน นับวันจะยิ่งรักเขามากขึ้นทุกที ปิญชาน์ดีกับเธอทุกอย่าง เป็นผู้ชายอย่างที่เคยฝันหา เสียดายแค่เรื่องของเราเป็นเพียงภาพมายาที่ไม่อาจเป็นจริงได้ ยอมพูดความจริงออกไปซะตั้งแต่ตอนนี้จะดีหรือเปล่า

“คะ”

บางทีเขาอาจจะไม่เกลียดเธอก็ได้

“...เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร พริมแค่อยากเห็นหน้าสามีของตัวเองชัดๆ เห็นตัวเองในดวงตาของอาชาน์”

แต่ก็เลือกจะไม่บอกแล้วกล้ำกลืนฝืนทน สวมบทบาทของอรลภัสญาต่อไป ยกมือแตะแก้มสากแล้วจ้องเข้าไปในตาคู่สวยของเขา เห็นเพียงเงาของตัวเองที่เหมือนมีใครอีกคนทาบทับตลอดเวลา

ใจของเธอยิ่งแห้งเหี่ยวมากกว่าเดิม เมื่อคนที่เขารักไม่ใช่ตน

“ตาคู่นี้ของอามีไว้มองแค่หนูพริม”

ไม่ได้พูดเพื่อเอาใจแต่เขาคิดเช่นนั้นจริงๆ ใบหน้าสวยหวานของหล่อนที่เหมือนอดีตคนรักขนาดนี้ เขาจะมีตาไปมองคนอื่นได้อย่างไร

เธอเลือกจะไม่ตอบแล้วยิ้มให้เขาอย่างเดียว กอบกุมมือหนาเอาไว้ก่อนหันกลับมานั่งตัวตรง ไม่ยอมปล่อยมือจากเขา นั่งนิ่งอย่างนั้นตลอดเส้นทางกระทั่งรถคันใหญ่ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจอดหน้ามุข จึงจับจูงมือกันลงจากรถ

“พรุ่งนี้เรามีนัดไปบ้านหนูพริมใช่ไหมคะ” วันว่างของปิญชาน์มีไม่เยอะ แต่ถ้าวันไหนเขาว่างก็มักจะชวนเธอไปทำกิจกรรมหรือพาหญิงสาวกลับบ้าน ซึ่งวิมาลาไม่ค่อยอยากไปบ้านของอรลภัสญาเท่าไหร่ กลัวว่าจะหลุดจนบุพการีจับพิรุธได้

“ค่ะ แต่ถ้าอาชาน์ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะคะ คุณพ่อคุณแม่ท่านเข้าใจ ยังไงอาชาน์เป็นลูกเขยคนโปรดของท่านนี่คะ”

“พูดแบบนี้อิจฉาอาหรือเปล่า” กอดเอวบางพลางจุมพิตที่ขมับหล่อน พอแต่งงานกันแล้วก็ทำทุกอย่างได้ตามใจ เขาจึงคลอเคลียภรรยาไม่ห่างยามอยู่ด้วยกันสองคน

“เปล่าค่ะ พริมจะอิจฉาได้ยังไงล่ะ เพราะพริมก็ได้รับความรักจากอาชาน์มาจนล้น แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ...พอแล้ว” ความต้องการที่เหมือนมักน้อยแต่กลับดูยิ่งใหญ่ในความคิดของหล่อน รักที่ตนไม่มีวันได้ครอบครอง

“อามีความรักจะมอบให้หนูพริมมากกว่านี้อีกนะ” เข้ามากระซิบที่ข้างหูเธอด้วยเสียงพร่า ก่อนขบเม้มติ่งหูแล้วจุมพิตที่ไหล่เนียนระหว่างเดินผ่านห้องโถงใหญ่

“คืนนี้อาจะมอบความรักให้หนูพริม...จนล้นอกเลยดีไหม” พอถึงบันไดก็จัดการอุ้มร่างแบบบางด้วยท่าเจ้าหญิง หล่อนเองก็รีบคว้าลำคอหนาเอาไว้อย่างรวดเร็ว จ้องดวงหน้าคมแล้วถามสิ่งที่ตนใช้เวลาครุ่นคิดมาสักพัก

“เรามีลูกกันดีไหมคะ”

การมีลูกคงจะช่วยรั้งให้เขายอมอยู่กับเธอต่อไปได้

“ดี ดีมากเลย”

“ต่อจากนี้...อาชาน์ต้องเป็นของพริม ของพริมคนนี้คนเดียว”

และคงทำให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกันตลอดไป...

พวกเขานอนกกกอดกันทั้งคืน ชายหนุ่มเปรมปรีดิ์กับเรือนร่างงดงามของภรรยาเกือบครึ่งค่อนคืน เขามีความสุขยามได้ร่วมรักกับหล่อน ยิ่งทำเท่าไหร่ก็เหมือนว่าจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ กินอย่างมูมมามจนพึงพอใจ

สวมกอดเธอเอาไว้โดยที่ไม่ยอมสวมเสื้อผ้าสักชิ้น เนื้อห่มเนื้อก็อุ่นดีเหมือนกัน คล้ายว่าหล่อนเองก็คงจะชอบเพราะยามหลับก็มีรอยยิ้มประดับริมฝีปากเสมอ ส่วนเขาก็ยิ่งกว่าสุขเสียอีก ได้ออกกำลังกายยามค่ำคืนทุกวัน

แบบนี้เชื่อว่าสุขภาพคงดีวันดีคืน

“อาชาน์จะไปไหนคะ” ผวาคว้ากายหนาเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะลุกจากเตียง รีบกอดชายหนุ่มเอาไว้จนทรวงอกหยุ่นถูไถกับแขนแกร่ง

“อาจะไปอาบน้ำค่ะ วันนี้อามีประชุมตอนเช้า” งานที่รัดตัวท่านประธานทำให้ต้องผละจากภรรยา แต่กระนั้นเขาก็โน้มลงมาจุมพิตที่หน้าผากมน มอบรอยยิ้มให้เธอเพื่อต้อนรับรุ่งอรุณ ทว่าหญิงสาวยังคงต้องการมากกว่านั้น

อยากให้เขาอยู่ด้วยกัน...ไม่ต้องการให้ชายหนุ่มไปไหน

หล่อนเอาแต่ใจเกินไปหรือเปล่า คิดในใจแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยสามีให้เป็นอิสระ ดวงตากลมจ้องมองเขาคล้ายจะออดอ้อนอยู่ในที เล่นเอาปิญชาน์ใจอ่อนยวบ ยอมนั่งบนเตียงแล้วคว้าร่างแบบบางขึ้นมานั่งตัก

“อยู่กับพริมก่อนนะคะ”

“หือ...มีอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้อ้อนผิดปกติ อยากได้อะไรคะ” เกยคางไว้ที่ไหล่บาง แล้วเอื้อมมือมาประคองดอกบัวคู่งาม เคล้นคลึงอย่างมันมือพลางเอียงหน้าซุกไซ้ซอกคอขาวขณะที่เธอเองก็เอียงคอให้เขาได้สัมผัสถนัด

“อยากอยู่กับอาชาน์ค่ะ เมื่อคืนพริมฝันร้าย ฝันว่าพริมเป็นใครอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเอง อาชาน์โกรธพริม เกลียดพริม...” เธอไม่ต้องปกปิดแววตาหวาดหวั่น เลือกจะถามเขาด้วยการผลักความจริงให้เป็นเพียงแค่ความฝัน

“อาไม่มีวันเกลียดหนูพริม กลับจะยิ่งรักมากกว่าเมื่อวาน...อย่าคิดมากเลยนะคะ” น้ำเสียงที่จริงใจยิ่งทำให้ใจของหล่อนปวดหนึบ เขาช่างไม่รู้อะไรเอาบ้างเสียเลย

วิมาลาตัดสินใจเปลี่ยนท่านั่งโดยการหันหน้าเข้าหาเขา กายเปลือยเปล่าทั้งสองสัมผัสกัน จนสมองของชายหนุ่มคิดเตลิด เอื้อมมาดันบั้นท้ายงามเอาไว้ ก่อนบีบเคล้นมันมือ คิดว่าวันนี้อาจจะไปประชุมสาย สงสัยคงต้องเลื่อนเวลาหน่อยแล้ว

“แล้วถ้าพริมเป็นคนอื่น อายังจะรักพริมหรือเปล่า รักไหมคะ ยังรักพริมไหม” ถามเสียงอ้อนและเขาก็ตอบในวินาทีนั้น

“หนูพริมจะเป็นคนอื่นได้ยังไงคะ เป็นไปไม่ได้หรอก อย่าคิดมากเลยนะคนสวยของอา มันเป็นแค่ความฝันเท่านั้นแหละค่ะ ความจริงหนูพริมก็คือหนูพริม” กล่อมเธอไม่ให้คิดมาก แต่หญิงสาวก็กอดเขาแล้วซุกหน้าที่แผ่นอกกว้าง

“ค่ะ”

“อาชาน์รักพริมที่ตรงไหนคะ...นิสัยหรือว่าหน้าตา” ถามเสียงเบาขณะที่เขานิ่งคิดไปสักพัก

“อารักที่หนูพริมคือหนูพริม ผู้หญิงที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบ เหมาะสมกับอา”

แต่พริกแกงไม่ได้สมบูรณ์และเพียบพร้อมเหมาะสมกับอาชาน์...ความรักครั้งนี้ของเธอก็คงเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม

“ค่ะ”

ฉะนั้นควรตักตวงช่วงเวลานี้เอาไว้ให้ได้นานที่สุด ขอมีความสุขแบบนี้...อีกสักหน่อยเถอะนะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel