บทที่ 3
ชื่อหลานชายคนกลางของท่านประธาน ส่งผลให้คนมีชนักติดหลังเหงื่อซึมจนศีรษะชื้น เนื่องจากเธอเคยได้ยินพนักงานประชาสัมพันธ์บ่นกันว่าคุณชวินคนนี้โหดกว่าคุณศิชัช พี่ชายของเขาซะอีก
ตายๆ เห็นทีว่างานนี้เธอคงจะรอดยากแล้วล่ะ เตรียมหางานใหม่ไว้รอซองจดหมายสีขาวจากท่านประธานได้เลย
"เอ้อ! จะไปพบเจ๊ดรุณีก็รีบโทรไปแจ้งเลขาเขาไว้ล่ะ เจอยากเจอเย็นจะตายรายนั้นน่ะ ได้คิวเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี หรือถ้าไปเจอหัวหน้าแผนกบริษัทนั้นก็ยิ่งดีใหญ่ คุยง่ายกว่ากันเยอะ"
ชมพูนุชรีบพยักหน้ารับคำแนะนำอย่างแข็งขัน เพราะเศรษฐกิจแบบนี้ไม่มีใครอยากถูกไล่ออกจากงานทั้งนั้นแหละ
"ค่ะ พิ้งค์จะรีบโทรเดี๋ยวนี้แหละค่ะพี่ยา"
...บ่ายวันเดียวกัน...
เจ้าของร่างแบบบางรีบวิ่งกระหืดกระหอบไปยังบันไดหนีไฟของบริษัท เนื่องจากลิฟต์ภายในตัวอาคารปิดปรับปรุงชั่วคราว และบ่ายนี้เธอก็มีนัดกับลูกค้ารายใหญ่ เพื่อให้ได้ไปถึงที่หมายก่อนเวลานัดสำคัญ วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในตอนนี้แล้ว
ทว่า...
"อ่ะ อื้ออ...อ ดีจังค่ะวิน โอ้วว~ ใช้นิ้วเก่งเหมือนเดิมเลยนะคะสุดหล่อของริก้า"
เสียงครวญครางของใครบางคนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันของทางหนีไฟที่เชื่อมไปยังอาคารจอดรถของบริษัท และชมพูนุชก็มั่นใจว่าเสียงนั่นดังมาจากชั้นบนสุดของตัวอาคาร เธอจึงเลือกที่จะก้มหน้าก้มตาเดินลงบันไดไป
"เปลี่ยนจากนิ้วเป็นเอ็นอุ่นๆ ของวินแทนได้ไหมคะ ริก้าคิดถึ๊งคิดถึง อยากให้วินเข้ามาในตัวริก้าจะแย่แล้ว"
ชมพูนุชบิดเบ้ริมฝีปากให้กับประโยคเรียกร้องอย่างไร้ยางอายเมื่อสักครู่ แล้วรีบเดินลงบันไดไปด้วยฝีเท้าที่คิดว่าเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้
ใครจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับใครก็ทำไปเถอะ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาเธอจะไม่ขอร่วมรับรู้ด้วยเด็ดขาด เพราะแค่ส่งใบราคาสินค้าให้ลูกค้าผิดนี่ก็ไม่รู้ว่าจะโดนไล่ออกวันไหนแล้ว
"บรึ๋ยย~ รีบไปดีกว่าเรา"
สาวเจ้าบอกตัวเองเสียงเบาและรีบสาวเท้าลงมาตามขั้นบันไดได้ไม่ถึงสิบก้าว วัตถุบางอย่างที่ให้ความรู้สึกเหนียวๆ ลื่นๆ ก็ตกลงมาบนหลังมือเธอที่กำลังจับกระชับราวบันไดอย่างไม่ทันตั้งตัว
"กรี๊ดดดด!"
คนตัวเล็กหลับหูหลับตากรีดร้องแบบไม่ฟังฟ้าฟังไฟ เพราะเธอคิดว่าสิ่งที่ตกลงมาบนหลังมือของตัวเองคือหนอนหรือสัตว์เลื้อยคลานอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่กล้าลืมตาดู
"เฮ้ย! ฉิบหายแล้ว"
เสียงอุทานดังขึ้นท่ามกลางเสียงกรี๊ดแปดหลอด ก่อนที่เจ้าของวัตถุสีชมพูใสและทั้งเหนียวทั้งลื่นจะวิ่งลงบันไดมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนที่กำลังหลับตาร้องและกระทืบเท้าไปมาเหมือนคนเสียสติ
"เฮ้ย! เบาๆ สิคุณ จะกรี๊ดเสียงดังทำไมเนี่ย เมื่อเช้ากินนกหวีดแทนข้าวมาหรือไง"
ร่างบางหยุดส่งเสียงกรีดร้อง แต่ยังคงสะบัดมือข้างขวาของตัวเองไปมาด้วยความรู้สึกขยะแขยง ถึงแม้ว่าสัตว์เลื้อยคลานในจินตนาการของเธอมันจะกระเด็นไปทางอื่นแล้วก็ตาม
"ตั้งสติหน่อยสิคุณ เกิดมีพนักงานคนอื่นได้ยินแล้วเปิดประตูหนีไฟเข้ามาดูผมจะทำยังไง แค่ถุงยางยังสะดีดสะดิ้งขนาดนี้ ถ้าได้จับของจริงจะขนาดไหนเชียว"
ชมพูนุชหยุดกระโดดไปมาด้วยความขยะแขยง แต่เบิกตาโพลงและอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงให้กับคำพูดของคนตรงหน้าแทน
'ถุงยาง'