รอยรักบนรอยแค้น บทที่2.....
แอนนาหย่อนก้นลงนั่ง เปิดหนังสือนิยายที่พกมาจากบ้าน เปิดอ่านเพลินๆ ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ กับไอทะเลที่พัดโชยขึ้นมา เกือบชั่วโมงที่เธอจมอยู่ในโลกจินตนาการ เนื้อหาน่าติดตาม จนลืมสนใจสิ่งรอบข้าง
ตืดดด...
สัญญาณโทรศัพท์ดังเตือน เธอเหลือบตามอง แล้วจึงรีบกดรับ
“ลงมาเร็วๆ เลยยัยแอน ฉันสองคนหิวแล้ว”
ทั้งอริสลาและพิมพิสาแย่งกันพูด เสียงแทรกดังเจี้ยวจ้าว จนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง
“ได้ๆ อีก10นาทีเจอกัน”
แอนนามองหน้าปัดนาฬิกา เธอสะดุ้ง!! ไม่คิดว่าตนเองจะจมอยู่ในห้วงเวลาแสนสนุกนานขนาดนี้
นักเขียนคนนี้เป็นนักเขียนคนโปรดของเธอ ปลายปากกาของเขา เธอเฝ้าติดตามมาหลายเรื่อง แต่ละเรื่องแตกต่างจากนักเขียนท่านอื่น มีแฝงข้อคิดไว้ให้คนอ่านได้วิเคราะห์และคิดตาม มีเหตุผลประกอบ ไม่ใช่แค่จินตนาการมั่วๆ มีคำสอนแฝงอยู่หลากหลาย และเธอใช้เป็นสิ่งเตือนใจตนเอง...มันใช้ได้ผลเสียด้วยสิ!!
แอนนาฉวยกระเป๋าสตางค์ ยัดการ์ดเปิดประตูใส่ในกระเป๋ากางเกงขาบานใส่สบาย พร้อมกับเดินเร็วๆ เพื่อจะโดยสารลิฟต์ลงไปชั้นล่าง ให้ทันตามความต้องการของสองสาวที่กำลังตั้งตารอ...
เปล่า...อริสลากับพิมพิสาไม่ได้เร่งแอนนาลงมาด้านล่างเพราะหิวจัด...
แต่เธอสองคนเจอหนุ่มถูกใจ แม้จะดูซอมซ่อไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับผู้ชายที่มีเกลื่อนริมสระ สองหนุ่มหน้าตาดี ในชุดแสนธรรมดา เหมือนนักท่องเที่ยวรายอื่นๆ ผิดตรงที่ว่า...โครงหน้าแบบนั้น หากจับใส่สูทผูกเนกไท...มาดผู้บริหารคงจับเต็มตัว เพียงแต่สองหนุ่มที่สองสาวเล็งมานานนับ30นาที ตั้งแต่สุดหล่อสองคนนี้ เยื้องย่างเข้ามานั่งที่ริมสระ ในมือของเขามีขวดเบียร์ยี่ห้อนอกติดมาด้วย สายตาแพรวพราวนั่น กวาดมองสาวสวยรอบตัวอย่างสนุกสนาน
“เอาน่า...หล่อใช้ได้ เราแค่สนุก ไม่ได้ยึดติดนี่นา”
อริสลาปลอบใจตนเอง เสียดายเหมือนกัน ที่สองหนุ่มนั่นน่าจะดูดีกว่านี้สักหน่อย...คนหนึ่งดูนิ่งๆ ขรึมๆ ดวงตาสีเขียวเหมือนมรกตติดดุจนต้องมองผ่าน อีกคนก็ไม่ได้ด้อยกว่า เพียงแต่เขาลากรองเท้าแตะหูคีบ ใส่กางเกงขาห้าส่วน กับเสื้อยืดสีตุ่นๆ บนตัวช่วงบน มันไร้ราศี...เหมือนฝรั่งนักท่องเที่ยวที่มีเงินใช้จ่ายแบบจำกัด...เพราะหากคะเนอายุจากหน้าตา เขาคงอยู่ในช่วง30 ต้นๆ แค่นั้นเอง
“นั่งนี่มั้ยคะคุณ” ระพัดยิ้มแผล่ ผายมือไปที่เก้าอี้ชายหาด ที่ตนเองเป็นเจ้าของ อริสลายิ้มรับ เธอพยักหน้ารับ เพราะเมื่อยขาเหมือนกัน แถมมุมนี้เธอจะได้ส่องผู้ชายเพลินๆ ไม่มีอะไรมาบดบังสายตา
“มีอาหารบริการด้วยมั้ยจ้ะ”
พิมพิสาเอ่ยถาม เธอหมดแรงที่จะเดินไปหาอาหารอร่อยๆ ใส่ปาก...
“จำพวกยำง่ายๆ ก็พอได้ค่ะ”
ถึงจะเป็นแค่ซุ้มขายเครื่องดื่มหน้าหาด แต่บางครั้งลูกค้าก็ต้องการกับแกล้มด้วย ระพัดเลยเตรียมของสดเผื่อไว้ และมันก็สร้างรายได้ให้เธอด้วยเหมือนกัน
“เอาโค๊กสามขวด ส่วนอาหาร... รอเพื่อนฉันลงมาสมทบค่อยสั่งนะจ๊ะ” อริสลาตัดสินใจแทนเพื่อน เมื่อทำเลตรงนี้ ก็ดีกว่าการเดินกรีดกรายไปมา เหมือนก่อนหน้านี้
“มากันแค่สามคนเหรอคะคุณ”
แม่ค้าสาวชวนคุย แอบชื่นชมลูกค้าหน้าตาดีที่กึ่งนั่ง กึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ชายหาด
“อืม...” อาจจะเป็นเพราะเห็นว่าเป็นเพศเดียวกัน อริสลาจึงไม่ระแวง เธอตอบคำถามนั่นแบบเต็มใจ “เรามากันสามคน... ไร้แฟนจ้ะ เพราะมัวแต่เรียนไม่ได้มองหาผู้ชายให้ตัวเอง พอเริ่มงานก็เลยเคว้งแบบนี้ไงล่ะ”
“สวยๆ แบบนี้ อีกไม่นานก็หาได้ค่ะ ถ้าไม่เลือกนะคะ”
ระพัดตอบพร้อมกับยิ้ม ไม่ใช่แค่สองสาวที่เป็นลูกค้าหรอกที่ไร้คนข้างกาย เธอเองก็เช่นกัน...
แอนนาหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ชายหาดตัวหนึ่ง
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้กัน ไหนว่าส่องผู้ชายอยู่ที่ริมสระไง”
“เบื่อแล้ว...ส่องจนเพลีย มันไม่แหล่เราสักคน”
อริสลาตอบเสียงเพลียสุดขีด นั่งอ่อยนานนับชั่วโมง ไร้ผู้ชายสนใจ ขนาดอวดโฉมแทบหมดหน้าตัก ฝรั่งเหล่านั้นกลับแหล่สาวตัวดำ ผอมแห้งแทนเสียนี่
“สงสัยพิมกับยัยอริสไม่ใช่สเปคของฝรั่ง ดูแต่ละนางที่พวกนั้นรุมแทะสิ...ไม่ดำ ก็ผอมกะหร่อง” พิมพิสาบ่นอุบ