ตอนที่ : 12 ฝึกงาน 2
“ดูเธอท่าจะเกลียดฉันมากเลยนะเพียงจันทร์ แล้วทำไมถึงยังอยู่ที่นี่อีกล่ะ เธอทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำพูดและความคิดนะเพียงจันทร์”
“ฉันก็แค่อยากให้คุณรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป และฉันก็คือผู้เสียหาย”
"เหตุผลฟังขึ้นมากเลยนะ เอาล่ะฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอ มันไม่สนุก กลับไปทำงานของเธอได้แล้ว" สามีผู้ใจดำไล่ภรรยาสาวในทันที เพียงจันทร์สะบัดหน้าใส่แล้วเดินกลับโต๊ะทำงานของตัวเองไป ในใจก็นึกสาปส่งผู้ชายคนนี้ต่าง ๆ นานา
พอนั่งลงยังเก้าอี้ทำงานของตัวเอง อารมณ์ในการทำงานของเพียงจันทร์ก็แทบจะหายหด หญิงสาวเหลือบตาขึ้นมองเขาอยู่เป็นระยะ ในเวลาที่เขาเปิดแฟ้มเอกสารเพื่ออ่านทำความเข้าใจ บุคลิคช่างเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ดูสุขุมมาดนิ่ง ภาพลวงตาเสียละมั้ง คิดแบบนั้นหญิงสาวก็ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป
“เพียงจันทร์ฉันอ่านจบแล้ว” ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงชาลก็เอ่ยขึ้น อีกคนหันมามองหน้าเขาแล้วทำหน้าเหมือนอยากจะถามว่าแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ
“เธอช่วยตามพี่ชันให้หน่อยฉันพร้อมจะเรียนรู้งานแล้ว”
“คุณชันไม่เข้ามาในออฟฟิศแล้วค่ะวันนี้” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยตอบสามี ชาลเพิ่งมีโอกาสมองสำรวจภรรยาตัวเองอย่างชัดเจนก็ตอนนี้ เพียงจันทร์เป็นคนที่มีรูปร่างสมส่วน ผมยาวแค่ระดับไหล่ถูกรวบตึงเอาไว้ ดวงตาเรียวรีแววตานิ่งคล้ายคนมีอะไรบางอย่างเก็บกดอยู่ภายใน
“มองอะไรคะ” คนถูกจ้องถามด้วยด้วยน้ำเสียงกระด้าง
“อะไรกันผัวมองเมียตัวเองนี่ผิดด้วยหรือยังไง” เขาแทบอยากจะหัวเราะในท่าทางของภรรยาตัวเอง ชาลลุกขึ้นยืนพร้อมกับแฟ้มเอกสารในมือ สาวเท้าตรงไปหาเพียงจันทร์อย่างช้า ๆ สีหน้าครึ้มใจของเขาทำให้คนถูกมองรู้สึกได้ว่ามันไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย
“นี่เก็บให้ที” เขายื่นแฟ้มเอกสารในมือให้ภรรยา
“อ๊ะ !” เพียงแค่อีกคนยื่นมือมารับเขาก็ดึงร่างของเพียงจันทร์ให้เขามาหา
“ทำอะไรของคุณ ปล่อยนะคุณชาล” เพียงจันทร์พยายามดันแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อภายใต้เนื้อผ้าของเขาออกห่าง แววตาตระหนกตกใจเป็นอย่างยิ่ง ต่อสามีผู้มีแววตากระหยิ่มยิ้มย่องแบบแปลก ๆ
“หยุดนะ !” เขาไม่เพียงแค่ไม่ตอบยังใช้ข้อตรงนิ้วชี้ดันปลายคางของเธอขึ้นอีก ใบหน้าเข้มภายใต้หนวดเคราเบาบางเคลื่อนเข้าไปใกล้คนเป็นภรรยา มือข้างหนึ่งก็ดันเอวคอดเข้าหาริมฝีปากหนายื่นตรงไปใกล้ ๆ กับปากอิ่ม เพียงจันทร์นั้นตื่นตกใจจนดวงตาลุกโตพยายามผลักไสอย่างไรก็ไม่ได้ผล
“คุณชาลหยุดนะ !” เสียงนี้ของเธอถูกตอบแทนด้วยการบีบปลายคางทั้งสองข้างเอาไว้แน่น แต่ก่อนที่จะได้แตะริมฝีปากเข้าหา
“ชาลหยุดนะ !” เสียงเหี้ยม ๆ จากคนเป็นพี่ชายก็ดังขึ้น จังหวะนั้นเพียงจันทร์ก็สะบัดจนหลุดจากเขาแล้ววิ่งไปซ้อนอยู่ด้านหลังของชันชัย
“อะไรกันครับพี่ชันผมจะจูบเมียตัวเองมันผิดมากเลยหรือยังไง” ชาลทำหน้าประหลาดใจใส่พี่ชายตัวเอง
“ไม่ผิดหากว่าเมียแกเขายินยอม”
“มันเป็นสิทธิ์ที่ถูกต้องของสามีนะพี่ชัน” ชาลจบประโยคนี้ มือของเพียงจันทร์ก็ขยุ้มเสื้อด้านหลังของชันชัยเอาไว้แน่น เธอกับเขาเหมือนคนแปลกหน้าต่อกันจริง ๆ
“มานี่สิเพียงจันทร์มาให้สามีจูบเสียดี ๆ” เขาเย้าแหย่แต่คนได้ยินทำตาขุ่นตาเขียวเข้าใส่ เพียงจันทร์แทบจะกอดเอวหนาของชัยเอาไว้แน่นด้วยความหวาดระแวง สายตาจ้องเขม็งไปยังคนเป็นสามีอยู่ตลอดเวลา
“เลิกทำบ้า ๆ สักทีนะชาล” ชันชัยนั้นโกรธแทบลมออกหู หากเขาไม่รู้สึกเป็นห่วงที่ต้องปล่อยให้เพียงจันทร์อยู่กับน้องชายเพียงลำพัง จนต้องตัดสินใจกลับมาดู คงไม่ทันได้เห็นการกระทำอันหยาบคายของชาลเป็นแน่
“ทำบ้า ๆ พี่ชันเอาอะไรมาพูดผมก็แค่จะจูบเมียตัวเอง มันผิดตรงไหน” ท่าทางของเขาช่างกวนโทสะให้แก่คนเป็นพี่ชาย
“ไอ้ชาลแก” ชันชัยง้างกำปั้นขึ้นหมายจะต่อยน้องชายด้วยความฉุนจัด
“อย่าเลยค่ะคุณชัน” เพียงจันทร์ดึงเสื้อของคนที่กำลังจะถลาเข้าไปหาน้องชายเอาไว้ได้ทัน
“เอาสิครับพี่ชันจะต่อยผมเพราะว่าผมจะจูบเมียตัวเองนี่นะ ถ้าพี่ทำแล้วไม่รู้สึกผิดอะไรก็ทำเลยครับ” ชาลแบมือออกทั้งสองฝั่งเป็นการเชื้อเชิญ
“คุณกลับไปก่อนเถอะค่ะคุณชาล ฉันไม่อยากให้พวกคุณต้องมาทะเลาะกันกับเรื่องไร้สาระ” เพียงจันทร์ชักเริ่มรู้สึกไม่สู้ดีนักต่อสถานการณ์ตรงหน้า เรื่องแบบนี้หากคนข้างนอกได้รับรู้คงเป็นมีแต่ความเสื่อมเสียมาสู่ทุกคน
“ผัวจะจูบเมียนี่เธอบอกว่าไร้สาระอย่างนั้นหรือเพียงจันทร์”
“อย่ามาทำเป็นพูดดีชาล แกเกลียดคุณนิ้งถึงขนาดไล่เขาออกจากห้อง แล้วนี่ผีเข้าหรือยังไงถึงได้ทำแบบนี้เขาคุณนิ้งเขาได้”
“นั่นก็ใช่ แต่นี่ก็อยากลอง” คนเห็นแก่ตัวพูดเอาแต่ได้เข้าตัวเอง
“แกออกไปจากออฟฟิศได้แล้วก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหว” ชันชัยถึงกับร่างสั่นเทิ้มไปด้วยความโกรธจ้องหน้าน้องชายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ คนถูกไล่ยักไหล่ขึ้นทั้งสองข้างอย่างไม่แยแส ก่อนจะก้าวเท้าผ่านพี่ชายไปชาลก็หยุดชะงักแล้วกระซิบเบา ๆ ว่า
“ข้างหลังพี่น่ะเมียผมนะครับ” ทิ้งคำพูดที่คนฟังต้องสะอึกแล้วจากไปพร้อมกับรอยยิ้มแสนน่าชัง ชันชัยรู้สึกเหมือนถูกน้องชายต่อยตรงหน้าท้องด้วยหมัดหนัก ๆ ทำให้รู้สึกเจ็บและจุกในเวลาเดียวกัน
“คุณนิ้งเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ลับหลังน้องชายเขาก็รีบหันหลังกลับมาดูน้องสะใภ้ หน้าตาซีดเซียวของเพียงจันทร์นั้นทำให้คนเห็นรู้สึกโกรธคนทำเป็นสองเท่า
“นิ้งไม่เป็นไรค่ะคุณชัน” เอ่ยแล้วก็ก้มหน้าต่ำลง
“ผมจะช่วยอะไรคุณได้ไหม”
“ช่วยหรือคะ คุณชาลไม่ผิดสักนิดเขาเป็นสามี” เพียงจันทร์เอ่ยแล้วรีบหลับตาลงแน่น ความรู้สึกเหมือนจะแตกสลายลงไปด้วยความร้าวราน ทั้งที่ทำใจไว้ก่อนแล้วว่าเขาคือสามี แต่ว่าท่าทางเมื่อครู่เธอไม่รู้สึกว่าอันตรายเหลือเกิน
“ผมต้องขอโทษแทนเจ้าชาลมันด้วยนะครับที่ทำอะไรบุ่มบ่ามเอาแต่ใจแบบนั้น”
“ไม่ต้องขอโทษนิ้งหรอกค่ะคุณชาล นิ้งขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” หญิงสาวพยายามกลั้นหยาดน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เดินตัวตรงกลับไปทำงานของตัวเองต่อ เพียงจันทร์พยายามทำทุกอย่างให้ปกติ ทั้งที่ภายในนั้นหวาดกลัวต่อท่าทีคุกคามของสามีอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มอีกคนเห็นแล้วก็ได้แต่รู้สึกสงสาร แต่จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อทั้งคู่คือสามีและภรรยา
หลังจากนั้นชันชัยไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเท้าออกจากออฟฟิศ เขาโทรศัพท์ไปฝากงานลูกน้องคนสนิทให้ทำแทน แล้วตัวเองก็นั่งโต๊ะทำงานที่อยู่ตรงกลางห้อง ในใจกลัวเหลือเกินว่าน้องชายตัวดีจะหวนกลับมา แล้วทำบางอย่างน่ากลัวเหมือนเมื่อครู่นี้อีก บางครั้งเพียงจันทร์ก็ดูเหมือนจะเข้มแข็ง แต่บางเวลาก็หลุดความอ่อนแอออกมาเหมือนกัน กำแพงบาง ๆ ที่เจ้าตัวกั้นขึ้นตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่ ทำให้เขาไม่อาจเข้าถึงความนึกคิดที่แท้จริงของหญิงสาวได้