ตอนที่ : 11 ฝึกงาน
6
ฝึกงาน
หลายวันต่อมาชาลก็ยังไม่สนใจในเรื่องการฝึกงานแบบจริง ๆ จัง ๆ เสียที คนเป็นพี่ชายเริ่มจะทนต่อไปไม่ได้ ต้องเดินเข้าไปสะกิดเตือนความรู้สึกของน้องชาย
"แกไม่คิดจะช่วยงานฉันจริง ๆ ใช่ไหม" ชันชัยเอ่ยเสียงดังขึ้นใส่คนที่นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่น ในมือของชาลมีไอแพดรุ่นล่าสุดอยู่
"พี่ว่าอะไรนะ" ชาลละสายตาจากจอไอแพดแล้วดึงหูฟังออก
"ฉันถามว่าแกไม่คิดจะช่วยงานฉันหรือยังไง แกเห็นนี่ไหมฉันทำคนเดียวไม่ไหว ขนาดคุณนิ้งมาช่วยก็ยังจะไม่รอด" ชันชัยชูแฟ้มเอกสารจำนวนห้าแฟ้มในมือให้เขาดู เพราะว่าปู่ของพวกเขาไม่ชอบให้งานสำคัญตกอยู่ในมือของคนอื่น ทุกอย่างจึงมากองสุมอยู่ที่หลานชายคนโตกับสะใภ้คนเล็กแทน
"เงินก็มีไปจ้างคนเก่ง ๆ มาทำก็สิ้นเรื่อง"
"แกก็รู้ว่าปู่เราเป็นคนยังไง"
"ก็เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ยังไงล่ะพี่ชัน"
"ชาลเลิกลามปามปู่ได้แล้ว ตกลงจะทำไหมงานหรือจะอยู่ลอยชายไปวัน ๆ แบบนี้ ถามจริง ๆ เถอะแกไม่สงสารพี่สงสารคุณนิ้งบ้างหรือยังไง ฟาร์มชาลีกำลังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว สินค้าของเรากำลังจะส่งออกไปนอกประเทศนะ สองคนแค่นี้ดูแลไม่ทั่วถึงหรอกรู้ไหม" ตลอดห้าปีที่ผ่านมาฟาร์มแห่งนี้ประสบความสำเร็จในด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นายชูจึงได้จัดทำโรงงานสำหรับแปรรูปนมสดเป็นสินค้าที่สามารถส่งออกได้ด้วย
"ตกลงครับ"
"แกว่าอะไรนะ" เสียงถามย้ำคนที่นั่งฟังนิ่งอยู่ตรงหน้า
"ก็พี่เหนื่อยมากขนาดนี้ ผมเป็นน้องก็สมควรจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือถูกไหมครับ"
"ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แกไม่ต้องยื่นมือของแกมาหรอกแกมาทั้งตัวและใจเลยดีที่สุด" บางครั้งพี่ชายอย่างเขาก็ไม่เข้าใจคนเป็นน้องเลยจริง ๆ ในหัวของชาลคิดอะไรอยู่ไม่มีทางเดาได้เลย
"ก็ได้ครับแต่มีข้อแม้ ผมไม่ฝึกงานกับยัยนั่น"
"ยัยนั่นของแก คือเมียที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายนะ"
"ผมไม่ชอบพวกเห็นแก่เงิน"
"ฉันไม่เข้าใจแกเลยชาล คุณนิ้งเขาหน้าตาออกจะดีไม่มีอะไรเตะตาต้องใจแกบ้างเลยหรือยังไง" ชันชัยเกิดนึกสงสัยในเรื่องนี้ขึ้นมา
"ไม่เถียงว่าเขาสวย แต่ว่ามีบางคนที่สวยกว่าเขา" ชาลพูดประโยคนี้ออกมาใบหน้าของอรุณนารีก็ลอยมาให้เห็น แถมมุมปากทั้งสองข้างก็ยกขึ้นอีก 'เป็นเอามากแฮะเรา'
"นี่แกไปแอบรักใครเข้าแล้วรึไง" เห็นท่าชวนฝันของน้องชายแล้วเขาก็อดนึกในแง่นี้ไม่ได้
"ก็ไม่เชิง" คนตอบอมยิ้ม
"ว่าไงนะ"
"แปลว่ายังไม่แน่ใจ ถ้าแน่ใจเมื่อไหร่เดี๋ยวพี่ชันก็จะรู้เอง ไหนงานที่จะสอนผมเต็มที่เลยพี่ชายพร้อมแล้ว" ชาลพูดด้วยท่าทางกระตือรือร้นขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ บทจะง่ายก็ง่ายเหลือเกิน คนเป็นพี่ชายเองก็ยากจะเข้าใจเขาได้
"ก็ดี แต่เดี๋ยวนะเมื่อกี้แกบอกว่า ก็ไม่เชิงไม่แน่ใจ นี่แสดงว่าแกไปติดสาวที่ไหนจริง ๆ ใช่ไหม ไม่ได้เลยนะชาลแกมีคุณนิ้งอยู่แล้วทั้งคนนะ" ชันชัยโวยวายใส่อย่างไม่พอใจ
"ไม่เกี่ยวกับยัยนั่น พี่เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ไหนล่ะเรื่องงานอยากจะฝึกเต็มทีแล้ว" เขาเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง
"ตกลงฉันจะเป็นคนสอนแกเอง แต่บางเรื่องก็ต้องเรียนรู้กับคุณนิ้งเขานะ เพราะว่าฉันเองก็ไม่ค่อยถนัดเช่นพวกประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอะไรพวกนี้ ส่วนเรื่องสินค้ากับการบริหารฉันสอนให้เอง"
"แบบนั้นก็ได้" เขาเองก็เบื่อจะยื้อเรื่องนี้อีกต่อไป ยังไงก็ต้องเผชิญหน้ากับเพียงจันทร์อยู่ดี ขนาดหลีกเลี่ยงกันมาโดยตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ก็ยังไม่พ้นความอึดอัดใจที่มีต่อกันทุกครั้งที่เจอหน้า
"งั้นแกก็แวะเข้าไปศึกษาเอกสารในออฟฟิศก่อน ฉันมีธุระต้องไปติดต่อกับลูกค้าฝากเอาแฟ้มพวกนี้ไปเก็บด้วย"
"ได้แค่เอาไปเก็บใช่ไหม"
"เอาไปให้คุณนิ้งเธอจะเป็นคนเก็บเอง" พูดจบก็ยัดแฟ้มทั้งหมดใส่มือน้องชายแล้วเดินจากไป คนรับแฟ้มเอกสารมาอย่างงง ๆ ได้แต่มองตามแผ่นหลังพี่ชายไปจนลับสายตา
ภายในสำนักงานใหญ่ของฟาร์มชาลี เพียงจันทร์ที่อยู่ในชุดคาวบอยสาวกำลังง่วนอยู่กับการจัดตารางการเข้าเยี่ยมชมพื้นที่ของทางฟาร์ม
"นกจัดรอบการเยี่ยมชมให้กับลูกค้ารายนี้ด่วนนะ เป็นลูกค้าใหญ่ของเราเขาจะพาพนักงานมาเยี่ยมฟาร์มในเดือนหน้า" หญิงสาวยื่นเอกสารงานในมือให้คนไปดูแล ก่อนจะสะดุดสายตาเข้ากับร่างสูงของสามีตัวเอง
"นกไปได้แล้วจ้ะ"
"ค่ะคุณนิ้ง"
"พี่ชันบอกว่าให้เอาแฟ้มมาให้เธอ" เขาเดินตรงมายังโต๊ะที่เพียงจันทร์ทำงาน หลังจากคนงานสาวคนดังกล่าวออกพ้นประตูห้องทำงานไปแล้ว
โครม ! จู่ ๆ ชาลก็โยนแฟ้มเอกสารทั้งหมดลงบนโต๊ะของเจ้าตัวอย่างแรง เพียงจันทร์เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเลี่ยงด้วยการเก็บแฟ้มเอกสารทั้งหมดเข้าตู้ที่อยู่ด้านหลัง
"เธอได้นั่งทำงานห้องเดียวกับพี่ชายฉันเลยเหรอนี่เส้นใหญ่ไม่ใช่เล่น"
"ก็ไม่ได้ใช้เส้นอะไรนี่คะฉันเป็นผู้ช่วยคุณชัน ฉันก็ต้องทำงานอยู่ห้องเดียวกับคุณชันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร" เพียงจันทร์โต้เขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
"พี่ชันให้ฉันมาอ่านเอกสารก่อนเริ่มฝึกงาน ไหนเธอช่วยหาให้ฉันหน่อยสิว่ามันอยู่ตรงไหน" เขาก้าวอาด ๆ ไปทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มที่ตั้งอยู่มุมห้อง กองเอกสารเกือบสามตู้ใหญ่ ๆ นั่นทำเอาเขารู้สึกมึนงงอยู่ไม่น้อย เหลือบเห็นเพียงจันทร์เลื่อนเก้าอี้ไปยังตู้หลังแรกแล้วปีนขึ้นไปหยิบแฟ้มเอกสารลงมาสามอัน
"นี่ค่ะแฟ้มโครงสร้างของฟาร์มทั้งหมด ส่วนนี่ก็นโยบายกับบุคลากร อันนี้เป็นผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราค่ะ" หญิงสาวยื่นแฟ้มในมือให้สามี
"ของเรา" เสียงแค่นเหมือนไม่พอใจขณะยื่นมือออกไปรับ เพียงจันทร์ชักสีหน้าเล็กน้อยจะแปลกตรงไหนหากเธอจะเรียกฟาร์มชาลีว่า ของเรา ในเมื่อเธอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาฟาร์มแห่งนี้มาตลอดระยะเวลาห้าปี กลับเป็นเขาเสียอีกที่ไม่เคยกลับมาดูดำดูดีเลยสักครั้งเดียว
"ทำไมเธอถึงไม่ไปเสียที" เป็นครั้งแรกที่ได้อยู่พูดคุยกันเพียงลำพัง เพียงจันทร์มองเขาเหมือนคนแปลกหน้า
"ทำไมต้องไปด้วยคะ" คอตั้งตรงขึ้นอย่างท้าทายมองคนถามด้วยแววตานิ่งเฉย
"ภรรยาที่สามีไม่ต้องการอย่างเธอ ทำไม...ถึงทนอยู่ในฟาร์มของปู่ฉันมาได้ถึงห้าปีเต็ม" เขาเอ่ยแบบยิ้ม ๆ ในใจคิดอะไรได้หลายอย่าง
"แล้วทำไมคะ" เพียงจันทร์ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะมาไม้ไหน
"เปล่าก็แค่แปลกใจว่าความสาวความสวยของเธอก็มีพอตัวทำไมไม่ไปหาผัวใหม่สักที"
"คุณชาล อย่ามาพูดเหมือนไม่รับผิดชอบแบบนี้สิคะ คุณจะให้ผู้ชายดี ๆ ที่ไหนเขามารักผู้หญิงมีตำหนิอย่างฉัน" ภรรยาสาวขึ้นเสียงใส่อย่างนึกฉุนขาดในสิ่งที่ออกมาจากปากของเขา
"ผู้หญิงที่ฉันนอนด้วยทุกคนต่างก็มีตำหนิกันทั้งนั้นแหละ ไม่เห็นว่าเขาจะทำตัวเหมือนเธอเลย ไม่มีใครวิ่งเข้ามาบอกว่าฉันต้องรับผิดชอบเขาเลยสักคนเดียว" ชาลแจงในสิ่งที่คิดว่ามันแสนจะธรรมดา แต่ทำไมความผิดพลาดครั้งเดียวของเขากลับต้องถูกจองจำด้วยทะเบียนสมรส และภรรยาที่ตัวเองไม่ได้รักใคร่สิเน่หาด้วย
"นั่นเป็นผู้หญิงที่เต็มใจแต่ฉันไม่ใช่ คุณก็รู้ดีในเรื่องนี้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะว่าใครกัน" ความโกรธกรุ่นขึ้นในใจ เพียงแค่ได้รับฟังในสิ่งที่เขาเอ่ยออกมาเพียงจันทร์ก็แทบน้ำตาไหล ผู้ชายคนนี้มองผู้หญิงเป็นอะไร แววตาเขม็งจ้องเขาอย่างเคียดแค้นแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านมา