ตอนที่ : 13 ซ่อมรั้วแทรกใจ
7
ซ่อมรั้วแทรกใจ
เสียงเอะอะหน้าบ้านแต่เช้าตรู่ทำให้คนบนเตียงนึกรำคาญจนต้องลืมตาตื่นขึ้นมา อรุณนารีเดิมไปแง้มบานหน้าต่างแล้วแหวกผ้าม่านออกดูว่าเกิดอะไรขึ้น ตาที่หยีมองไปยังด้านล่างกะพริบปริบ ๆ สองสามที ก่อนจะยกหลังมือขึ้นขยี้แรง ๆ ด้วยเกรงว่าตัวเองจะตาฝาดไป เห็นชายฉกรรจ์สามคนกำลังขนรั้วสำเร็จรูปสีขาวมาตั้งแทนที่รั้วอันเก่าอยู่ด้านล่าง และตรงซ้ายมือก็มีเขายืนคุมงานอยู่ เหมือนจะรู้ตัวว่าถูกมองชาลมองขึ้นด้านบน ยกมือโบกไปมาให้เจ้าของบ้านอย่างคนอารมณ์ดี
"คนบ้า" หญิงสาวที่อยู่ด้านบนรีบสะบัดปิดผ้าม่านลง อรุณนารีมองซ้ายมองขวาจะหาทางหนีทีไล่ยังไงดี และเมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ก็กระโดดขึ้นเตียงนอนแล้วหลับตาลงเอาเสียดื้อ ๆ
"รุณลงมาดูรั้วใหม่เร็วเข้า" เสียงดังโหวกเหวกนั่นไม่อาจทำให้อีกคนหลับตาลงสนิทได้จริง ๆ
"รุณลงมาเร็วเข้า !" เสียงตะโกนเรียกของเขาทำให้คนที่คลุมโปงอยู่สะบัดผ้าห่มจนหลุดออกจากศีรษะ
"เดี๋ยวอาบน้ำก่อน !" ด้วยความรำคาญเธอจึงตะโกนตอบออกไป ลุกขึ้นมานั่งแล้วเอามือทั้งสองข้างเกาศีรษะแรง ๆ สามที สูดลมหายใจเข้าออกเสียงดังฟืดฟาดอย่างขัดใจ
ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงรั้วที่นำมาติดตั้งให้ใหม่ก็เสร็จสมบูรณ์ ชาลมองดูป้ายสีเหลืองอ่อนตรงกลางรั้วแล้วยิ้ม 'บ้านอรุณนารี' รั้วสีขาวกับป้ายสีเหลืองอ่อนที่ติดชื่อเจ้าของบ้านเอาไว้ ชาลเป็นคนสั่งทำเป็นพิเศษด้วยตัวเอง เหลือบตาขึ้นไปมองบนตัวบ้าน ก็ไม่มีวี่แววว่าอีกคนจะลงมาเสียที คนใจร้อนเลยไม่คิดทนรออีกต่อไป
เจ้าของร่างสูงเดินเข้ามาภายบ้านแล้วขึ้นบันไดสามขั้นตรงระเบียงไป ชาลลองดันบานประตูดูก็เป็นอันต้องตกใจเมื่อมันแง้มเปิดออกอย่างง่ายดาย ตาฉายแววดุหันขึ้นไปบนตัวบ้าน ก่อนจะก้าวฉับตรงไปข้างบนอย่างรวดเร็ว
ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก ! เสียงเคาะคล้ายกระแทกทำให้คนที่กำลังใส่กางเกงอยู่ถึงกับสะดุ้ง อรุณนารีรีบรูดซิปแล้วตะโกนถามออกไป
"ใครกัน" น้ำเสียงสั่นเล็ก ๆ ไม่เข้าใจว่ามีคนขึ้นมาบนนี้ได้อย่างไร
ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก !
"ฉันถามว่าใคร"
"ฉันเองเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ" แค่ได้ยินเสียงหน้าของเขาก็ลอยมาให้เห็น
"คุณชาลคุณจะบ้าเหรอเข้ามาในบ้านของรุณได้ยังไง" อรุณนารีรีบเดินไปเปิดประตูดูด้วยความข้องใจแบบสุด ๆ
"นี่มันบ้านขอ..." ผลัวะ ! หน้าของคนที่ยืนอยู่ด้านนอกนั้นทำให้เธอหยุดถ้อยคำที่จะต่อว่า ยื่นหน้าเข้าไปหาเขาใกล้ ๆ ด้วยความสงสัยว่าทำไมต้องโดนจ้องขนาดนั้นด้วย
"ทำไมไม่ล็อกประตูหน้าบ้าน" แล้วสิ่งที่ค้างคาใจก็ถูกเฉลย
"ประตู"
"ก็เออน่ะสิประตูหน้าบ้านไม่ล็อกแล้วเผื่อเกิดมีโจรผู้ร้ายบุกเข้ามาข่มขืน ไม่สิ อาจจะฆ่าแล้วลืมข่มขืนจะทำยังไง" ถึงจะโกรธแต่ก็ไม่วายเอ่ยติดตลกในตอนท้าย
"ก็เมื่อคืนรุณทำงานดึกไปหน่อยเลยลืม" ความสะเพร่าของเธอทำไมเขาต้องไม่พอใจด้วย
"ฉันไม่รู้จะพูดยังไงกับเธอแล้วอรุณนารี"
"ทำไมคุณชาลต้องโกรธด้วย นี่มันบ้านของรุณไม่มีอะไรเกี่ยวกับคุณเลยนะ"
"เธอว่าไงนะ"
"รุณบอกว่านี่มันบ้านของรุณคุณชาลไม่มีสิทธิ์จะขึ้นมาบนนี้ตามอำเภอใจแบบนี้"
"ยัยบ้า !" ความห่วงใยของเขาถูกตอบแทนด้วยคำพูดเหล่านี้ ชาลถึงกับผลักอรุณนารีเข้าไปในห้อง ปัง !
"จะบ้าเหรอจะทำอะไรรุณ" อรุณนารีถอยหลังไปอย่างช้า ๆ แววตาของเขาในตอนนี้ไม่บอกว่าล้อเล่น
"ทำโทษคนปากดีเสียหน่อย" ไวเท่าความคิดคนที่กำลังจะถูกเขาทำโทษรีบวิ่งอ้อมไปด้านซ้าย
"จะไปไหน" แต่ก็ไม่วายถูกดักทางเอาไว้เสียก่อน อรุณนารีถอยหลังกรูดรวดเดียวเพราะว่าเขาประชิดเข้ามาอย่างรวดเร็วจนแผ่นหลังติดผนังบ้าน สองท่อนแขนที่ยกขึ้นกั้นตัวเธอเอาไว้ เหมือนจะเคยเห็นในละครหลาย ๆ เรื่องว่าจากนั้น...
"ไม่นะ คุณจะบ้าเหรอ !" เธอจะไม่มีวันปล่อยให้เขาแนบริมฝีปากลงมาแน่
"กลัวเหรอ" เขาเยาะหยันใส่ คนกลัวไม่ตอบเอาแต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น มือทั้งสองข้างก็ดันกล้ามเนื้อแน่นตรงแผงอกให้ออกห่าง
"จำเอาไว้ให้ขึ้นใจนะอรุณนารี ถ้าเธอลืมปิดประตูอีกแล้วมีผู้ชายขึ้นมาบนนี้ นึกดูสิสภาพของเธอจะเป็นยังไง" เอ่ยจบก็ยกฝ่ามือตบแปะเบา ๆ ตรงพวงแก้มอิ่มทั้งสองข้าง จากนั้นก็ปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ ชาลมองสำรวจดูห้องนอนแสนกะทัดรัดของอรุณนารี สายตาจ้องไปยังเน็ตบุ๊คตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน
"อย่าแตะมัน" อรุณนารีรีบเดินตรงเข้าไปปิดฝาเครื่องมือทำมาหากินของตัวเองลง เมื่อคืนนี้เธอเพียงแค่จะงีบแป๊บเดียวเท่านั้นเลยไม่ได้ทำการปิดเน็ตบุ๊ค
"ทำเป็นหวงมีอะไรอยู่ในนั้น" เขาเอื้อมมือเข้าไปหมายจะดึงเน็ตบุ๊คออกจากมือของเจ้าของ
"อย่ายุ่ง ! งานของรุณมันสำคัญมาก" เจ้าของบ้านสาวเลี่ยงตัวเองพร้อมกับอุปกรณ์ทำมาหากินไปอีกด้าน จากนั้นก็ยัดเน็ตบุ๊คเก็บใส่ลิ้นชักแล้วล็อกกุญแจอย่างดี ชาลมองตามการกระทำของอีกคนไปด้วยความไม่เข้าใจ
"เธอทำงานอะไรตอนอยู่กรุงเทพฯรุณ" อาการอยากรู้ว่าอีกคนใช้ชีวิตอย่างในตลอดห้าปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นกับชาล
"ก็ทั่ว ๆ ไป" อรุณนารีตอบพร้อมกับหลบสายตาจ้องจับผิดของเขา
"นี่เธอ อย่าบอกนะว่าเธอเป็น..." ชาลตกใจจริง ๆ ในความคิดที่อยู่ในหัวของตัวเอง เขากวาดสายตามองดูอรุณนารีตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า หรี่หางตามองอย่างไม่น่าไว้วางใจ
"อะไร" คนถูกมองยกมือขึ้นปิดหน้าอกเอาไว้โดยอัตโนมัติ
"เธอเป็นสาวไซด์ไลน์ !"
"อีตาบ้า ! เอาหัวหรือเท้าคิดนี่" ถูกข้อกล่าวหาหนักทำเอาอรุณนารีลืมทุกสิ่งอย่าง ผลักร่างของเขาจนแทบกระเด็นพ้นทาง ก่อนจะก้าวฉับ ๆ ลงบ้านไปอย่างโมโห
"อ้าว ใครจะไปรู้ล่ะงานที่เอามาทำที่บ้านผ่านอินเทอร์เน็ตสาวสมัยนี้เขาก็ทำกัน" ชาลอารมณ์ดีขึ้นเป็นกองตะโกนไล่หลังเจ้าของบ้านไป ปฏิกิริยาตอบกลับอย่างรุนแรงของอรุณนารีนั้นย่อมหมายถึงเรื่องดี ๆ อย่างแน่นอน
ชาลเดินตามหลังเจ้าของบ้านลงมาเห็นเจ้าตัวกำลังทำเสียงดังก็อกแก็กอยู่ในห้องครัว จึงเดินตรงไปนั่งที่เก้าอี้มุมรับแขกแสนเล็กน่ารักของตัวบ้าน
"ของฉันกาแฟช้อนครึ่งน้ำตาลสองคอฟฟี่เมทสองนะรุณ"
เคร้ง ! เสียงกระแทกช้อนใส่ถ้วยกาแฟดังออกมาจากคนในห้องครัว ชาลถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี เขาจะรอดูว่าอรุณนารีจะชงกาแฟมาให้ตามที่เขาสั่งหรือเปล่า ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีเจ้าของบ้านก็เดินออกมาจากห้องครัว พร้อมกับถ้วยกาแฟที่อยู่ในมือทั้งสอง
แกร๊ก ! "กาแฟ" เกินความคาดหมายนิด ๆ ที่เขาเห็นถ้วยกาแฟวางอยู่บนโต๊ะไม้ แม้ว่าคนชงจะไม่เต็มใจก็ตาม
"ขอบใจ"
"วันนี้ไม่ต้องมาขอข้าวกินนะรุณขี้เกียจทำ"
"ฉันพูดหรือยังล่ะ"
"ก็บอกไว้ก่อนไง อย่ามาเนียนกินแล้วอย่ามาทวงบุญคุณด้วย รั้วบ้านรุณคุณชาลก็เป็นคนทำพัง การที่คุณชาลจะเอามาเปลี่ยนให้ใหม่มันก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลอยู่แล้ว" พูดจบก็กระดกกาแฟในมือเข้าสู่ลำคออึกแล้วอึกเล่าจนหมดถ้วย ส่วนแขกผู้มาเยือนนั้นได้แต่จิบนิด ๆ หน่อย ๆ พอเป็นพิธี
"ฉันหิว"
"รุณก็บอกแล้วไงว่าขี้เกียจทำ" อรุณนารีเหลือบตาขึ้นด้านบนอย่างหน่ายใจ
"รุณ"
"อะไรอีกล่ะ" น้ำเสียงบอกความเบื่อเต็มทน
"ทำให้หน่อยนะ" เสียงอ้อนแบบนี้เธอไม่ชอบเลยจริง ๆ
"ไม่ กลับบ้านไปให้เมียคุณทำให้กินโน่น"
"เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพูดถึงยัยนั่น" เอ่ยถึงเพียงจันทร์ทีไรเหมือนเจ้าเข้าทุกที อรุณนารีไม่อยากจะคิดว่าความสัมพันธ์ของสามีภรรยาคู่นี้มันเป็นอย่างไรกันแน่