ตอนที่ 2 ชะตาลงทัณฑ์
พินอาภาตัวสั่น ลุคส์ก้าวเข้าหา หญิงสาวรีบถอยหนี ทว่าไม่ทันได้ดั่งใจลุคส์กระชากร่างบางเข้าหา เธอกรีดร้องดิ้นทุรนทุรายด้วยความหวาดกลัว ปรางค์ปรียามองหน้าเพื่อนด้วยความสงสารริมฝีปากบางเม้มแน่น
หญิงสาวใช้เท้าที่ว่างอยู่ยันไปที่เขา ส่งผลให้ร่างสูงใหญ่เซลงไปเล็กน้อย ชายหนุ่มชะงักเพราะไม่ทันตั้งตัวเขาหันไปมองด้วยความโกรธ
“ไม่เข็ดเลยใช่ไหม!”เขาตวาดลั่น
พินอาภารีบรั้งท่อนแขนเพื่อนไว้ แต่คนอย่างปรางค์ปรียาไม่กลัวอะไรอยู่แล้วชีวิตเธอไม่มีอะไรจะเสีย แต่สำหรับพินอาภาชีวิตของเพื่อนเธอยังมีคนมากมายที่รออยู่ และเธอก็เป็นหนี้ชีวิตเพื่อนคนนี้มากมายจนแทบชดใช้ไม่หมด เธอจะไม่มีวันยอมให้เพื่อนเป็นอะไรเป็นอันขาด หากมีคนต้องตายเธอควรเป็นคนแรก
“แกมันโง่ หลานลุงไมเคิลคือฉันไม่ใช่เพื่อนของฉัน!”
คำพูดที่ออกมาจากปรางค์ปรียาทำให้เขาหยุดชะงักไปชั่วครู่ จ้องมองคนพูดทันที
“เธอเป็นหลานของไอ้ไมเคิล แล้วยังกล้าดีมาหลอกฉันอย่างนั้นเหรอ!”ชายหนุ่มตวาด
ร่างบางถูกกระชากให้ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเขา
เพียะ!
ฝ่ามือเขาฟาดลงไปบนแก้มเนียนจนนูนขึ้นเป็นรอยนิ้วทั้งห้า ปรางค์ปรียาทรุดกายลงกับพื้นตามแรงฝ่ามือของเขา
“ปรางค์!”พินอาภาร้องเรียกเพื่อนตนเองแล้วรีบผวาเข้ามาหา
“อย่าทำร้ายเพื่อนฉัน เขาไม่ใช่หลาน...”
“หยุดนะพิน!”หญิงสาวตวาดลั่นเพื่อป้องกันไม่ให้พินอาภาเปิดเผยเรื่องที่ ต้องการปกปิดออกมา
“ปรางค์...”
หญิงสาวส่ายหน้า สบตาเพื่อน เธอยินดียอมรับโชคชะตานี้
“ฉันจะปล่อยเพื่อนเธอไป แต่เธอต้องอยู่กับฉัน ฉันจะจัดการให้เธอยอมเปิดปากเรื่องไมเคิลเอง!”
มาติชรีบลากพินอาภาออกไป หญิงสาวดิ้นรนทั้งน้ำตา
“อย่าทำแบบนี้ปรางค์ เราไม่ได้ต้องการให้ทำแบบนี้...”พินอาภาสะอื้นออกมาอย่างหนัก สายตาของเธอจดจำได้แค่เพียงสีหน้าของเพื่อนที่หันมายิ้มให้ ก่อนโดนลากออกมาจากห้องนั้น
ลุคส์สั่งให้บอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดออกจากห้อง ห้องทั้งห้องเหลือเพียงความเงียบงัน ปรางค์ปรียากัดฟันแน่น เธอต้องข่มความรู้สึกของตนเองแม้กายกำลังสั่นสะท้านด้วยความกลัวก็ตาม ชายหนุ่มหรี่ตามองหยิบปืนที่เหน็บอยู่ออกมาจอ
“บอกฉันมาซะว่าลุงของแกอยู่ที่ไหน!”เขาตวาดกร้าวเป็นภาษาที่เธอเข้าใจ
เธอนั่งนิ่งไม่ยอมเปิดปากพูดอะไร พูดก็ตาย ไม่พูดก็ตาย หากเป็นเช่นนั้นเธอขอไม่พูดมันออกมาจะดีกว่า เพราะไม่ว่าเลือกทางไหน ก็ไม่รอดอยู่ดี
“จะบอกหรือไม่บอก!”เขาขู่
“ไม่! ฉันไม่มีวันบอกอะไรกับคนอย่างแก ต่อให้ฉันรู้ก็ตาม”เธอจ้องมองเขาด้วยสายตาไม่เกรงกลัว
“นี่เธอไม่กลัวตายหรือยังไงกัน!”
“ทำไมฉันต้องกลัวในเมื่อสุดท้ายแล้วฉันก็ตายอยู่ดี!”
“ปากเก่งแบบนี้ฉันชอบ!”ลุคส์บอกพลางเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวมากขึ้น
“คุณจะทำอะไร!”หญิงสาวถาม มองเขาด้วยความหวาดกลัว
“บอกมาซะว่าลุงของเธออยู่ที่ไหน!”
ชายหนุ่มกระชากท่อนแขน รั้งร่างบางเข้ามาหาตนเอง ใบหน้าใกล้กันผสานสายตา แล้วยิ้มเหี้ยมออกมา ลมหายใจกำลังรดใบหน้าทำให้หญิงสาวเริ่มหวาดกลัว ลุคส์หรี่ตามองเมื่อเห็นปฏิกิริยารังเกียจการสัมผัสและจับต้องตัวเขา ยิ่งรู้สึกได้ใจเมื่อสามารถหาจุดอ่อนผู้หญิงไม่กลัวตายคนนี้ได้
“เธอจะบอกไหมว่าลุงเธออยู่ที่ไหน...”เขาบอกเสียงพร่าชิดใบหู
“ฉะ...ฉันไม่รู้”หญิงสาวตอบเขาเสียงสั่นเครือ
ชายหนุ่มรีบรั้งกายสาวเข้ามาใกล้จนอกอวบอิ่มเบียดชิดแผงอกกว้างอย่างจงใจ อ้อมกอดรัดแน่นเสียจนแทบหายใจไม่ออก ลุคส์รู้สึกว่ากายเขากำลังร้อนผ่าวเมื่อได้ใกล้ชิดร่างนุ่มนิ่มในอ้อมแขน
ปรางค์ปรียาดิ้นรนเพื่อให้เขาปล่อยแต่กลับไม่เป็นผล เมื่อเขาจงใจรัดร่างเธอแน่นยิ่งกว่าเดิม หญิงสาวสูดหายใจเต็มปอด ออกแรงผลักสุดกำลัง ส่งผลให้ร่างสูงใหญ่เซออกไปเล็กน้อย สบโอกาสหญิงสาวรีบวิ่งหนี
ลุคส์ยิ้มเหี้ยมคว้าคอเสื้อเธอจากด้านหลัง
แควก!
เขากระชากเสื้อเธอจนขาดติดมือ
“ว้าย!” เธอหวีดร้องด้วยความตกใจ
แผ่นหลังขาวเนียนเผยต่อสายตา เขายืนนิ่งแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก ปรางค์ปรียารีบตะเกียกตะกายหนีเธอหวังให้เขาฆ่าเธอซะ และอย่าได้ทำในสิ่งที่เธอกำลังกลัวอยู่ในเวลานี้
ชายหนุ่มเข้าถึงตัวหญิงสาวได้โดยง่าย กระชากร่างบางมาหาอีกครั้งแล้วกอดรัดไว้แน่น จะไม่หลงกลให้หนีไปได้อีกแล้ว
“ฉันจะถามอีกครั้งว่าลุงเธออยู่ที่ไหน!”
“ฉันไม่รู้จริงๆ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ...”หญิงสาวพยายามอ้อนวอน เมินมองทางอื่น
ลุคส์จับข้อมือแล้วกระชากให้หลานศัตรูก้าวตาม เธอพยายามขืนตัวเองไม่ให้เขาลากไปได้ง่ายๆ แต่เมื่อไหร่ที่เขาออกแรงกระชาก ร่างก็เซตามแรงโดยง่าย สองร่างหยุดยืนหน้าห้อง มือที่ยังเหลืออีกข้างจับลูกบิดประตูแล้วเปิดออก
ปรางค์ปรียาหน้าซีดเผือด เธอพยายามเกาะมือเขาที่รัดแน่นอยู่ หญิงสาวน้ำตาคลอส่ายหน้าไม่ยอมเข้าไป แต่เขาออกแรงลากเธอได้สำเร็จ พอเข้าด้านในร่างบางถูกเหวี่ยงไว้บนเตียง
ทันทีที่หลังแตะฟูกหนา ปรางค์ปรียารีบทะลึ่งพรวดลุกขึ้นแล้วตะเกียกตะกายหนีอย่างไม่คิดชีวิต แต่เขากลับจับข้อเท้าแล้วลากเธอกลับมา ปลายนิ้วเรียวจิกลงบนฟูก พยายามขืนตัวไม่ให้เขาลากได้สำเร็จ แต่ไม่เป็นผลเรี่ยวแรงอันมหาศาลทำให้ร่างเธอถูกดึงไปหาโดยง่ายได้สำเร็จ
“ไม่!”เธอกรีดร้องใน ในขณะที่ร่างกายกำลังถูกลากเข้าหาอีกฝ่าย
เขาจับหญิงสาวพลิกตัวให้หันมาเผชิญหน้า กดตรึงร่างบางแนบกับเตียง ดวงตาสีน้ำทะเลจ้องมองมายังใบหน้าเรียวสวยด้วยสายตาเกรี้ยวกราด
“เธอจะไม่ยอมบอกฉันใช่ไหม ว่าลุงเธออยู่ที่ไหน!”ชายหนุ่มตวาดกร้าวอีกครั้ง
“ฉะ...ฉันไม่รู้จริงๆ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ”เธอบอกเขาแล้วสะอื้นออกมา น้ำตาที่กำลังไหลอาบแก้มไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอะไรเลยสักนิด
“ถ้าเธอไม่ยอมบอกว่าลุงเธออยู่ที่ไหน เธอได้กลายเป็นอีตัวแน่!”
ลุคส์จับสาบเสื้อไว้แล้วยิ้มเหยียด หญิงสาวมองดูเขาด้วยความตกใจ อ้าปากจะร้องขอแต่เขากลับไม่ไยดี
แควก!
เสื้อถูกกระชากจนขาดติดมือ
“กรี๊ด!”หญิงสาวหวีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งแล้วดิ้นรนสุดชีวิต
ทรวงอกอวบอิ่มที่โผล่พ้นบราเซียเผยต่อสายตา ผิวเนื้อขาวเนียนละเอียดน่าสัมผัส แม้กระทั่งเอวคอดกิ่ว ทุกอย่างที่ประกอบในตัวช่างเรียกอารมณ์ดิบได้เป็นอย่างดี ลุคส์ยิ้มเหี้ยมออกมา และครั้งนี้มันน่ากลัวกว่าครั้งไหนๆ ที่เธอได้สัมผัสมามากนัก
“ลุงเธออยู่ที่ไหน!”
“ฉันไม่รู้จริงๆ ขอร้องล่ะปล่อยฉันไปเถอะ...”หญิงสาวพยายามอ้อนวอน
จนรอดจนรอด เธอก็ยังไม่ตอบ แล้วยังมีหน้ามาขอร้องให้ปล่อยไปอย่างนั้นหรือ หมดความอดทน เขาไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรอีก จากนี้ปากที่หุบไม่ยอมเปิด จะต้องสารภาพออกมาเอง
“ฉันจะไม่ถามอะไรเธออีกแล้ว ฉันจะทำมันจนกว่าเธอจะยอมบอกฉัน ว่าลุงเธออยู่ที่ไหน!”
กางเกงถูกกระชากแล้วรูดออกจากเรือนร่าง หญิงสาวพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดสุดชีวิต แม้รู้แก่ใจว่าไม่มีหนทางรอด เพียงเวลาไม่นาน ชิ้นส่วนติดกายกลับหายไปจนหมดสิ้น
เขาก้มลงสำรวจเรือนร่างอย่างไร้ปราณี กายสาวสะท้าน เมื่อเขาตักตวงความหวานด้วยความรุนแรง
“ฉันเจ็บ!” คนใต้ร่างร้องบอกน้ำตาอาบแก้ม
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเสียงกรีดร้องอะไรทั้งสิ้น ในเมื่อกล้าหลอกคนอย่างลุคส์ อัลเบอร์ทีนแล้วละก็มันจะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างสาสมริมฝีปากหนาจูบไล้ไปตามเนื้อนวลพลางลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอย่างถือสิทธิ์
“อย่า! ฉันเจ็บ!” คนถูกกระทำร้อง เมื่อถูกรุกเร้าอย่างหื่นกระหาย
หัวใจกำลังเต้นระรัวด้วยความกลัว เธอเจ็บและทรมานมากเหลือเกิน ทำไมเขาไม่พูดดีๆ หรือถามเธอดีๆ ทำไมเขาไม่ฟังทั้งๆ ที่เธอบอกว่าไม่รู้ ทำไมถึงใช้วิธีป่าเถื่อนทำร้ายกันได้ลงคอ
ทรวงอกอวบถูกครอบครอง มือทำหน้าที่ลูบไล้ทั่วร่างกาย ปรางค์ปรียาไม่อาจต่อต้าน ทำได้แค่ปล่อยให้อีกฝ่ายทำตาใจชอบ ไม่มีทางสู้ ไม่มีหนทางรอด เหตุใดจึงใจร้ายต่อเธอถึงเพยงนี้
ยิ่งเห็นน้ำตา ยิ่งสะใจ ไมเคิลมันจะได้รู้การทรยศเขาคือเรื่องที่มันควรคิดจะทำเป็นอันดับสุดท้ายในชีวิต อย่างน้อยหลานสาวของแกก็ต้องมารับเคราะห์แทน
เรือนกายแกร่งแทรกเข้าหาร่างบางสะท้าน เธอเจ็บปวดราดร้าวไปทั้งร่าง หญิงสาวกรีดร้องดิ้นรนเมื่อความรู้สึกเจ็บปวดที่ได้รับ ในขณะที่เธอไม่ยินยอมมันสร้างความทรมานให้ อย่างร้ายกาจ ร่างบางพยายามขยับกายเพื่อหนี แต่เขากลับกดตรึงร่างงามไว้พร้อมกับแทรกกายเข้าหา โดยไม่สนใจว่าหญิงสาวใต้ร่างจะรู้สึกเช่นไร ปรางค์ปรียาสะอื้นออกมาปลายนิ้วเรียวจิกลงบนฟูกหนาริมฝีปากบางถูกกัดแน่นจนเป็นห่อเลือดเพื่อข่มความเจ็บไว้
“ไม่! อย่า! ได้โปรด... ฉันเจ็บแล้ว ฮือๆๆๆ” น้ำตาไหลรินออกมาอาบแก้ม
ร่างแกร่งแทรกกายเข้าหาจนสุด ขยับกายเร่งเร้าราวกับสาวใต้ร่างเป็นหญิงที่เขาซื้อมาเพื่อบำเรอเรื่องบนเตียง เธอเหมือนจะตายเสียให้ได้ ร่างกายราวกับจะแตกเป็นเสี่ยง ความสาวสูญสิ้นเพราะผู้ชายสารเลวคนหนึ่ง แล้วจะมีหน้าไปมองผู้ชายที่คิดจะมอบใจให้ได้อย่างไรกัน มันจบสิ้นแล้ว!
“ฉันเจ็บ... ขอร้องปล่อยฉันเถอะ!”
“ปล่อยเธอให้โง่สิ ฉันกำลังสนุกเลย เธอยอดเยี่ยมมาก... แบบนี้ถึงคุ้มไอ้ไมเคิลมันมีหลานที่ดีจริงๆ”เขาบอกเสียงพร่าในขณะที่ขยับกาย
จังหวะเร่งเร้าสร้างความทรมานให้ราวกับตายทั้งเป็น เขาไม่ถนอมเลยสักนิด ไม่สนว่าเธอจะไม่เคยผ่านมือชายใด เอาแต่ใจ และทำทุกอย่างตามที่ต้องการ เจ็บจนจุกพูดไม่ออกมีแต่น้ำตาเท่านั้นที่คอยช่วยปลอบประโลม
“หยุดที พอที! ปล่อยฉันไปเถอะได้โปรด...”หญิงสาวพยายามอ้อนวอนเขาทั้งน้ำตา แต่เขากลับทำเมินไม่สนใจราวกับไม่ได้ยินเสียงแห่งความทรมาน
ลุคส์ไม่ได้สนใจเสียงร้องหรือเสียงสะอื้นของผู้หญิงใต้ร่าง แม้ว่าได้ครอบครองเป็นคนแรก เวลานี้ความแค้น กำลังบังตา ชายหนุ่มขยับกายเร็วขึ้นและหยุดลงในที่สุด
มันจบลงแล้วสินะ... เธอบอกตัวเองน้ำตาอาบแก้ม ปรางค์ปรียาค่อยๆ ขยับร่างที่บอบช้ำหันหน้าหนี
“ฉันจะขังเธอไว้ที่นี่จนกว่าจะยอมบอกว่าลุงเธออยู่ที่ไหน!”เขาบอกเสียงกร้าวแล้วผละห่าง
เธอนอนนิ่งปล่อยน้ำตารินไหลไม่ขาด เวลานี้ลมหายใจเขาสม่ำเสมอคงหลับไปแล้ว เธอค่อยๆ พยุงกายอันบอบช้ำลุกจากเตียงกว้าง มือบางรั้งผ้าห่มมาพันรอบกาย อาการเจ็บราวกลางตัวทำให้รู้สึกลำบากในการเดิน หญิงสาวหยิบเศษเสื้อผ้าที่เขากระชากทิ้ง มันใส่ไม่ได้อีกแล้ว รีบเดินไปนั่งอยู่มุมห้องแล้วพิงศีรษะกับผนัง ด้วยความปวดร้าวและทรมาน
มือบางข้างหนึ่งยกขึ้นมาปิดปากไว้ พยายามไม่ให้เสียงเล็ดรอดออกมาให้เขาได้รู้ กลัวเขาจะตื่นขึ้นมาทำร้ายและอาละวาดอีก ความเจ็บปวดที่เธอได้รับมันสุดแสนจะทรมาน หัวใจเขาทำด้วยอะไร เธอผิดถึงขนาดต้องทำร้ายกันรุนแรงแบบนี้เลยหรือ ความอ่อนล้าของร่างกายบวกกับความเหนื่อยอ่อนทำให้เธอหลับไปในที่สุด
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมา รีบควานหาร่างบางแต่แล้วก็ต้องพบแค่เพียงความว่างเปล่า ร่างสูงใหญ่ลุกพรวดกวาดสายตามองหาแล้วก็ต้องชะงักเมื่อพบว่าหญิงสาวที่เขามอบความเป็นสามีให้โดยไม่เต็มใจ กำลังหลับศีรษะพิงผนังห้องอยู่
ลุคส์ขบกรามแน่นพร้อมกับสาวเท้าเดินลงไปกระชากร่าง เธอแทบล้มทั้งยืน ปรางค์ปรียามองเขากายสาวสั่นสะท้านออกมาด้วยความกลัว ร่างสูงใหญ่ลากหญิงสาวไปที่ห้องน้ำแล้วเปิดฝักบัวรดลงไปที่ร่าง หญิงสาวกรีดร้องสำลักน้ำที่เขาเปิดอย่างไม่ลืมหูลืมตา
“หากเธอไม่ยอมเปิดปาก ฉันจะทำกับเธอแบบนี้จนกว่าจะพอใจ!”เขาบอกพร้อมกับกระชากร่างบางให้ยืนขึ้น
มือหนาโอบรัดเอวบางเปลือยเปล่า ปรางค์ปรียากรีดร้องดิ้นรนทุบตีเขาเป็นพัลวัน ร่างสูงใหญ่ตรึงมือบางไว้กับผนังห้องน้ำแล้วยิ้มเหี้ยม
“ปล่อยฉันไปไอ้สารเลว!”
ลุคส์ชะงักกับคำด่า มือหนาบีบปลายคางมน จนหญิงสาวเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บปวด เสียดาย เขาออกจะพอใจเธอไม่น้อย หลังจากที่ได้พบกันครั้งแรก แต่เธอทำลายทุกอย่าง จะไม่มีความปราณีให้กับใครหน้าไหน ที่บังอาจมาคิดคดทรยศเขาเด็ดขาด
“ปากดีนัก!”
ใบหน้าของเขาโน้มเข้าหาแล้วบดขยี้ริมฝีปาก เรือนร่างของหญิงสาวถูกเขาสำรวจอย่างไร้ความปราณี ปรางค์ปรียากรีดร้องสะอื้นอย่างปวดร้าว เธอรู้สึกทรมานเหลือเกินเหมือนจะขาดใจ
“ฆ่าฉันซะ! ฆ่าฉันเดี๋ยวนี้!”
“ฆ่าเธอมันง่ายไป ถ้าเธอบอกว่าลุงเธออยู่ที่ไหนเธอก็ไม่ต้องมาทนรับกรรมแบบนี้!”เขาบอกเสียงกร้าว
“ไอ้สารเลว แกจะต้องเจ็บปวดเหมือนฉัน!”ปรางค์ปรียาอาฆาต
ลุคส์ขบกรามแน่นก้มลงบดขยี้ริมฝีปากบางอวบอิ่มที่ช่างด่าทอเขาได้เจ็บแสบ มือหนาโอบรัดเอวบางรั้งมาแนบชิดสำรวจกายสาวอย่างจงใจให้เจ้าของร่างต้องทรมานกับการกระทำ ปรางค์ปรียาน้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย ไม่มีวันไหนเลยที่เธอไม่เคยร้องไห้
ร่างสูงใหญ่ยืนขึ้นแล้วยิ้มเหยียด หลังจากตักตวงความสุขจากเรือนร่างของเธอไปแล้ว เขาเดินหนีออกมาจากห้องน้ำปล่อยให้ร่างบางนั่งพิงผนังห้องน้ำราวกับคนไร้วิญญาณ เธอเหมือนตายทั้งเป็น
เธอเจ็บ! เจ็บทั้งกายและใจ! ขอสักครั้ง ให้เธอได้เอาคืนผู้ชายคนนี้บ้าง