ตอนที่ 1 ชะตาลงทัณฑ์
“ปรางค์ไปเที่ยวฝรั่งเศสกับเราไหม?”
คำถามของเพื่อนสาวทำให้หญิงสาวถึงกับหันไปให้ความสนใจไม่น้อย
“ไปจริงเหรอ?”
“จริงซิ เราจะไปเยี่ยมลุงของเรา”
ปราค์ปรียาใช้ความคิดแล้วลอบยิ้มออกมา เธอเองก็อยากไปเที่ยวฝรั่งเศสนานแล้วแต่ไม่มีโอกาสเสียที เพราะเธอไม่มีเงินมากพอที่จะไปที่นั้น
“แต่ว่าเราไม่มีเงินหรอกนะพิน”หญิงสาวบอกเพื่อนเสียงเศร้า
“เราออกให้ ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะปรางค์เพราะเราเองก็อยากมีเพื่อนไปเที่ยวด้วยกันอยู่พอดีเลย”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็พร้อมจะไปเป็นเพื่อนอยู่แล้วละพิน”
ลุคส์พลิกหน้ากระดาษไปมาด้วยความงุนงง เพราะเวลานี้เขาจำต้องเรียนภาษาไทย บริษัทรถยนต์ของเขากำลังไปเปิดตลาดที่นั้น เขาพอเข้าใจภาษาพูด แต่เขียนแล้วก็อ่านนี่สิที่ยาก
ร่างสูงปิดหนังสือลงเมื่อจบบทเรียนแล้วรีบสาวเท้าไปที่รถด้วยความหงุดหงิด บอดี้การ์ดคนสนิทส่งแฟ้มเอกสารให้ ข้างในมีข้อมูลของผู้ที่ทรยศกับบริษัท
“ไอ้สาวเลว กล้าหักหลังฉันเหรอ!”ลุคส์สบถแล้วเหวี่ยงแฟ้มลงพื้นด้วยความเดือดดาล
“จะเอายังไงดีครับนาย?”มาติชถามเจ้านาย
“ฆ่ามันซะ!”
“จะดีเหรอครับนาย?”
“ฉันบอกให้ทำอะไรแกก็ทำเถอะมาติช หากมันอยู่กันยากนักก็ฆ่ามันซะก็สิ้นเรื่อง จะได้ไม่มาแว้งกัดเราลับหลังอีก!”เขาบอกเสียงกร้าว
ไมเคิลรีบเก็บข้าวของเพื่อจะหนีออกจากประเทศ เพราะเวลานี้เขามั่นใจว่าลุคส์คงรู้ความจริงเรื่องที่เขาเอาความลับของบริษัทไปขาย และไมเคิลเชื่อว่ายังไงเสียคนอย่างลุคส์ฉายาปีศาจน้ำแข็งคงไม่มีวันปล่อยเขาไปเด็ดขาด
ปรางค์ปรียายืนนิ่งอยู่ด้านหน้าหอไอเฟลเธอยิ้มกว้างให้เพื่อนสาวถ่ายรูปด้วย พิมอาภาหัวเราะร่าเมื่อพบว่าหน้าเพื่อนตนเองบูดเบี้ยวเพราะฝีมือการถ่ายรูปของหล่อนเอง
“เราไม่ไปที่บ้านลุงก่อนเหรอพิน?”ปรางค์ปรียาถามเพื่อนเพื่อความแน่ใจ
“โอ้ย! ไม่เป็นไรหรอก เราโทรมาบอกลุงนานแล้ว”
“แล้วเดี๋ยวเราจะไปที่ไหนต่อดีล่ะ”
“ไปหาอะไรกินกันเถอะหิวแล้ว”พินอาภาบอกก่อนจะลากเพื่อนสาวไป
หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปในร้าน สาวเอเชียสองคนเรียกความสนใจจากผู้คนไม่น้อย พินอาภาเป็นสาวผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้าของเธอคมน่ามอง ส่วนปรางค์ปรียวผิวขาวเนียนละเอียด ใบหน้าของหญิงสาวดูหวานละมุนชวนหลงใหล
สองสาวเลือกนั่งโต๊ะริมหน้าต่างพวกเธอสั่งอาหารมาทานสองสามอย่าง ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในร้านอาหาร ซึ่งชอบมาทานประจำและจัดการนั่งลงประจำมุมที่ตัวเองชอบ ชายหนุ่มทอดสายตามองวิวรอบๆ กวาดตามองดูผู้คนภายในร้าน แต่เขากลับสะดุดตากับสาวเอเชียสองคนที่กำลังทานอาหารอยู่ไม่ไกล นัยน์ตาสีฟ้าดุจน้ำทะเลจ้องมองสาวผิวคล้ำหน้าตาคมคาย และจับจ้องสาวเอเชียผิวขาวหน้าตาชวนหลงใหล ชายหนุ่มนิ่งงันอยู่นานจนกระทั่งอาหารถูกนำมาเสริฟ์ให้
สองสาวทานอาหารจนอิ่ม พินอาภารีบจูงมือเพื่อนสาวออกนอกร้านแล้วพากันไปเดินในแหล่งช็อปปิ้งถนนคนเดินในเมือง ลุคส์มองแผ่นหลังของสาวเอเชียผิวขาวเนียนละเอียดจนลับสายตาไป แล้วหันกลับมาสนใจอาหารตรงหน้าเขาแทน แม้จะรู้สึกถูกใจผู้หญิงคนนั้นไม่น้อยเลยแต่น่าเสียดายที่เขาคงไม่มีเวลามากพอจะไปทำความรู้จักหรือขอซื้อเธอมานอนด้วยเพราะเวลานี้เขาคงต้องจัดการเรื่องวุ่นวายในบริษัทให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
พินอาภาพาเพื่อนสาวท่องเที่ยวจนเกือบพลบค่ำถึงพากันมาหาลุงที่บ้าน แต่ทันทีที่เห็นบ้านของลุงสองสาวอ้าปากค้าง กระจกทุกบานแตกละเอียดเมื่อเดินสำรวจเข้าไปด้านในพบว่าข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจายไปหมด
“เกิดอะไรขึ้นพิน?”ปราค์ปรียาถามเพื่อนสาวเสียงสั่น
“เราก็ไม่รู้เหมือนกันปรางค์...”
มาติชเดินออกมาจากบ้านของไมเคิล บอดี้การ์ดหนุ่มรีบมารายงานความคืบหน้าให้กับเจ้านายตนเองทราบ ลุคส์ชะงักมือจากเอกสารกรามถูกขบสันนูน เขาแทบอยากจะฆ่าไอ้คนทรยศเสียจริงมันกล้าดียังไง เอาแบบรถรุ่นใหม่ไปขายให้กับคู่แข่ง
“ไอ้บัดซบไมเคิล แกกล้าดียังไงหักหลังฉัน!”ชายหนุ่มสบถ
มาติชไมองดูโทรศัพท์ที่วางสายจากเจ้านาย เขาถอนหายใจหนักออกมา ไมเคิลได้ตายสมใจแน่ เพราะเจ้านายคงไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆ
สองสาวรีบเดินเข้าไปสำรวจด้านในแต่ละห้องด้วยความงุนงง เกิดอะไรขึ้นกับลุงไมเคิลทำไมบ้านถึงถูกรื้อค้นจนเละไปหมดแบบนี้ แล้วตอนนี้ลุงอยู่ที่ไหนกัน พินอาภาเริ่มเป็นห่วง
ลูกน้องของมาติชกลับเข้ามาตรวจค้นบ้านอีกรอบเพื่อหาหลักฐานอีกครั้ง แต่พวกเขากลับชะงักเมื่อพบสองสาวเดินอยู่ในบ้าน
“พวกคุณเป็นใคร?”
สองสาวหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นชายใส่ชุดสูทสีดำ เดินอยู่ในบ้านแถมยังถามเธอเสียอีกว่าเป็นใคร
“พวกคุณละเป็นใครมาเดินอยู่ในบ้านลุงฉันได้ยังไง!”พินอาภาเริ่มกังวล
“คุณเป็นหลานสาวไมเคิลใช่ไหม!”
“ใช่!”
สองสาวถูกพวกเขาจับตัวไว้ทันที ปรางปรียารีบมองไปที่เพื่อนสาวของตนเองด้วยความตกใจ
“พวกคุณเป็นใครจะทำอะไร!”
“พวกเขาจะทำอะไรพวกเราพิน!”ปรางค์ปรียาถามเพื่อนสาว
“ปล่อยนะ ปล่อยพวกฉันเดี๋ยวนี้!”พินอาภาร้องพยายามดิ้นรน
ทั้งสองถูกลากไปพบกับมาติช บอดี้การ์ดหนุ่มมองด้วยสายตาไม่เข้าใจ
“สองคนนี้บอกว่าเป็นหลานของไอ้ไมเคิลครับ”ลูกน้องรายงาน
มาติชมองสองสาวเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปรายงานเจ้านายตนเอง ลุคส์ขบกรามแน่นสั่งให้มาติชพาสองสาวไปที่บ้านของเขา
ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาภายในบ้าน เขาทอดกายนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับจ้องมองไปยังทั้งคู่ เขาชะงักเมื่อพบว่าหนึ่งในสองคนนั้นคือสาวที่เขาเคยให้ความสนใจ แต่เขาไม่มีความปราณีให้ใคร เมื่อไมเคิลบังอาจเล่นตลกกับเขา ก็จะไม่ปราณีต่อหลานสาวของมันเช่นกัน
“พวกคุณเป็นใครจับเรามาทำไม?” พินอาภาถามเขาเสียงสั่น
ปรางค์ปรียานั่งมองหนุ่มหน้าตาคมเข้มนัยน์ตาสีฟ้าดุจน้ำทะเล หากเธอเห็นตามท้องถนน คงคิดว่าเขาเป็นนายแบบแน่นอน แต่สถานการณ์ตอนนี้ เธอกลับไม่คิดว่ามันเป็นเช่นนั้นเพราะสายตาที่เขาส่งมามันทำให้เธอรู้สึกกลัว
“พิน...พวกเขาต้องการอะไรถึงพาตัวเรามา” หญิงสาวกระซิบถามเพื่อน
ลุคส์หรี่ตามองเมื่อได้ยินเสียงกระซิบของหญิงสาว พวกเธอเป็นคนไทย... เขามีเรื่องมากมายอยากจะถาม แต่ไม่คิดว่าตัวเองใจดีพอที่จะไม่ทำอะไร หากต้องเค้นถามกันก็จะทำ เพราะเขาไม่สนว่าจะเป็นหญิงหรือชาย หากทำให้เขาไม่พอใจก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเหมือนกัน
“พวกเธอเข้าไปทำอะไรกันที่บ้านหลังนั้น” เขาถามเสียงเย็น
พินอาภาหน้าซีดปากสั่น แววตาของเขา ทำให้เธอรู้สึกกลัวจับใจ แข้งขาสั่นและอ่อนแรง มือไม้แทบยกไม่ขึ้น
“อย่าให้ฉันถามซ้ำครั้งที่สอง เพราะไม่อย่างนั้นเธออาจจะไม่มีปากไว้ตอบฉันอีกก็ได้!” เสียงกร้าวตามมา
“ฉันไปหาลุง บ้านหลังนั้นเป็นของลุงฉัน!” เธอรีบตอบ
“เธอสินะที่เป็นหลานไอ้ไมเคิล!”ลุคส์เปรยแล้วสบตากับพินอาภา คนถูกสบตาหวาดกลัวร่างกายสั่นเทา
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับสาวเท้ามาหยุดตรงหน้าพินอาภา คว้าท่อนแขนกระชากร่างเข้ามาหาตนเอง ปรางค์ปรียาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ รีบถลาเข้าขวาง
“อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉัน!” เธอตวาดเขาลั่น
ชายหนุ่มมองสายตากร้าว ผลักร่างหญิงสาวจนล้มลงกระแทกพื้นอย่างไม่แยแส ออกแรงบีบท่อนแขนพินอาภาไว้แน่น แล้วโน้มใบหน้าเข้าหา สั่งเสียงกร้าว
“ติดต่อลุงเธอซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เธอได้ลิ้มรสความกลัวจนถึงขั้วหัวใจเลยล่ะ!”
พินอาภารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาลุง ใบหน้าเธอซีดเซียวมือสั่น แต่มันไม่ได้ผล เครื่องถูกปิด
“ติดต่อลุงเธอได้ไหม?”เขาถามแล้วยิ้มเหี้ยมออกมา
“ฉะ...ฉันติดต่อไม่ได้ค่ะ”หญิงสาวตอบเขาน้ำตาคลอ
เขาถอนหายใจแล้วยิ้มออกมาราวกับปีศาจ คนกลัวมองหน้าน้ำตาไหลริน ลุคส์จับท่อนแขนเธอไว้แน่น แล้วลากให้ร่างของพินอาภา หญิงสาวรีบขืนตัวเอาไว้ แต่เรี่ยวแรงกลับสู้เขาไม่ได้เลย ลูกน้องลุคส์ยืนดูเงียบ
ปรางค์ปรียารีบวิ่งตามเพื่อนไป โถมกายกระแทกจนชายหนุ่มเซ
“ปล่อยเพื่อนฉันนะไอ้สารเลว!”ปรางค์ปรียาตวาดเขา สายตาจ้องไปอย่างไม่เกรงกลัว
ชายหนุ่มขบกรามแน่น มองหญิงที่เคยประทับใจ มันหมดแล้วความรู้สึกนั้น จับปลายคางแล้วบีบแน่น จนหญิงสาวเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ปากดีนักนะ อยากช่วยเพื่อน เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ อยู่เฉยๆ ก็ไม่มีปัญหาแล้วแส่หาเรื่องดีนัก!”เขาบอกแล้วสะบัดมือออกจากปลายคางมน ก่อนหันไปสนใจพินอาภาอีกครั้ง