บทที่1.ภาระหนักอึ้งบนสองบ่า..
หลังกลบฝังร่างไร้วัญญาณของมะลิ มาริสายืนทำใจอีกเกือบสามสิบนาที เธอคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าตัวเองต้องเริ่มต้นตรงไหน ทุกอย่างไวจนเธอตั้งตัวไม่ทัน
เธอกลายเป็นแม่ลูกอ่อน มีลูกชายวัยหนึ่งปี
ใครบางคนยัดซองสีน้ำตาลไหม้ใส่มือเธอ เธอกำลังมึนจนสติเลอะเลือน จำหน้าใครไม่ได้สักคน
จนเมื่อสติคืนกลับมาเกือบครบ มาริสาเลยเปิดซองที่กอดไว้แนบอกออกดู ความประหลาดใจเกิดขึ้นทันที ก้นซองมีเอกสารการแจ้งเกิดของเกดจ์ มีใบรับรองบุตรที่มีชื่อเธอเป็นแม่ เธอเงยหน้ามองไปรอบตัว ใครคนนั้นจัดการเรื่องเอกสารพวกนี้ให้เธอ เพื่อเกดจ์จะได้ไม่ถูกส่งไปสถานสงเคราะห์
มาริสามานึกเสียใจตอนนี้ เธอควรตั้งสติให้ได้ก่อนหน้านี้ อย่างน้อยเธอก็ควรรู้บ้าง ใครเป็นคนจัดการเอกสารพวกนี้ และใครคนนั้นก็น่าจะเป็นธุระเรื่องของมะลิ แถมใครคนนั้นอาจจะเป็นพ่อของเกดจ์
เธอนึกได้ตอนที่สายไปเสียแล้ว
รอบตัวเธอมีแต่ความเงียบ มีแค่หลุมฝังศพ และป้ายชื่อเต็มสุสาน
มาริสาลากขาเดินออกจากสุสาน เธอไม่มีเวลาเศร้านานหรอก ภาระที่เธอแบกไว้บ่นบ่ากำลังรออยู่ หนทางที่มืดมนตรงหน้า เหมือนจะมืนมนกว่าเก่า เธอคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง สมองตีบตันและว่างเปล่า เธอควรตั้งหลัก ไม่อย่างนั้นหลานชายของเธอจะอดตาย เธอเดินไปนั่งรอรถบระจำทางที่ป้าย ล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อควานหาเศษสตางค์ไว้สำหรับจ่ายค่ารถ แล้วมาริสาก็นึกขึ้นได้
หากอยากรู้ความจริงเรื่องมะลิ เธอตามจากเอกสารที่เขาให้เธอมาก็ได้ เธอควรรู้อะไรบ้าง ไม่ใช่มืดแปดด้านแบบนี้
คนที่ทำให้เกดจ์เกิดคือใคร? และเพราะอะไรมะลิถึงคิดสั้น
พี่สาวของเธอต้องหมดหวังขนาดไหนถึงฆ่าตัวตาย ทิ้งลูกชายคนเดียวให้เผชิญโลกใบนี้เพียงลำพัง
มาริสาถอนใจ เดินขึ้นรถประจำทางที่จอดตรงป้าย เธอเลือกที่นั่งหลังสุด เหลียวกลับไปมองด้านหลัง สั่งลามะลิครั้งสุดท้าย เธอสัญญากับพี่สาวในใจ เธอจะเข้มแข็ง เป็นตัวแทนมะลิ จนกว่าเกดจ์จะโต
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนตั้งตัวไม่ทัน มาริสาไม่มีเวลาเตรียมตัวเลย เธอรู้สึกเหมือนเป็นตัวคนเดียวบนโลกที่ไร้เสียงพูด รอบตัวเธอเงียบงัน มืดสนิท เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เดินลงจากรถประจำทางเมื่อถึงจุดหมาย อพาร์ทเม้นท์เล็กๆ ที่ซุกหัวนอนของเธอกับพี่สาวและหลานชาย
ต่อไปนี้เหลือแค่เธอกับเด็กชายวัยหนึ่งปีเท่านั้น
เธอแวะดูเอกสารในตู้เลขห้องของมะลิ เธอเจอซองเอกสารบัตรเครดิตหลายใบถูกสอดไว้จนล้น เธอรวบซองทั้งหมดยัดใส่กระเป๋าสะพาย และเดินเลยไปด้านหลัง เพื่อรับหลานชายที่ฝากไว้กับเนอสเซอรี่ เกดจ์ยิ้มแป้นทันทีที่เธอโผล่หน้าเข้าไป เด็กชายคลานเข้าหา มาริสาเลยน้ำตาร่วง
เด็กชายตรงหน้าเพิ่งกลายเป็นเด็กกำพร้า แต่เพราะวัยของเขา เลยทำให้เขายังไม่รู้ เขาเพิ่งสูญเสียมารดาไปหมาดๆ
“ฉันเสียใจด้วยนะคะ เรื่องแม่ของเกดจ์” พี่เลี้ยงเด็กพูดกับเธอด้วยเสียงแผ่วๆ
มาริสาพยักหน้าหงึกหงัก “พอทราบไหมคะ ที่ไหนรับคนงานบ้าง ฉันต้องรีบหางานทำ ก่อนที่เราทั้งคู่จะอดตาย”
เธอไม่เคยกลัวงานหนัก ไม่รู้สึกท้อแท้ มาริสาแค่กำลังเคว้ง เธอยังไม่ชินกับที่นี่ เธอเป็นคนแปลกหน้าในพื้นที่แห่งนี้
บทที่2.พนักงานทำความสะอาดคนใหม่
เพราะคำแนะนำของพี่เลี้ยงที่ทำงานในเนอสเซอรี่ มาริสาเลยมาที่โรงแรมเมดิสัน ที่นี่กำลังเปิดรับคนงานไม่เกี่ยงอายุหรือวุฒิการศึกษา ค่าครองชีพที่นี่สูงมาก เมื่อเทียบกับประเทศถิ่นเกิดของเธอ หากเธอมัวเกี่ยงงาน อีกไม่นานเธอคงอดตาย แค่ทำงานเพิ่มจากคนปกติหนึ่งเท่า แค่นี้ก็น่าจะพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่รออยู่
เกดจ์เองก็รออยู่ เธอมัวโอ้เอ้ หลานชายจะพลอยลำบากไปด้วย
ต่อให้งานหนักกว่านี้มาริสาก็ไม่คิดท้อ ตอนนี้เธอต้องการเงิน เพื่อการดำรงชีวิต เธอชักช้าไม่ได้ หลังสัมภาทษ์งานจบ มาริสานั่งรอด้วยความหวัง เธอเป่าปากดังพรวดเมื่อมีรายชื่อของตนเองในการเป็นพนักงานใหม่ที่โรงแรมเมดิสัน