ตอนที่ 2แค่สามวันไม่ใช่สามเดือน
รสรินหน้าบึ้ง เดินกระแทกเท้าเข้าไปในบ้าน แม้หลังไม่ใหญ่โตเท่าบ้านของเธอในภาคเหนือ ถึงกระนั้นแล้วบ้านหลังนี้รวมถึงที่ดินก็มีมูลค่าหลายล้าน ดีไม่ดีก็อาจจะกลายเป็นสิบกว่าล้านทีเดียว
เพราะอยู่ในย่านใจกลางเมือง น้ำไม่ท่วมเวลาฝนตกหนัก ซ้ำยังอยู่ในย่านการค้า บิดาของเธอจึงฝากฝังอาหมอให้ดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่เขากลับทำรุ่มร่าม พอเมามายก็บอกว่าขอหอมแก้มหน่อย
เธอถูกเขากอดแล้วถูกเขาหอมแก้มจนช้ำไปหมด หัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอก็ย่อมต้องอยากครอบครองอาหมอสุดหล่อ แต่ไหงวันนี้ดันพาคุณป้าหน้าหนามาบ้าน จะให้เธอแย้มยิ้มต้อนรับขับสู้อย่างไมตรีนะหรือ ฝันเฟื่องไปแล้วกระมัง
“นนท์คะ หลานสาวคนนี้ไม่น่ารักเอาเสียเลย พลอยมาอยู่แค่ครู่เดียว เด็กคนนี้ก็แสดงกิริยาก้าวร้าว เห็นทีว่านนท์ต้องอบรมเธอสักหน่อยนะคะ ไม่อย่างนั้นทำนิสัยแบบนี้อายเขาแย่ค่ะ” พลอยลดาพูดจากระทบกระทั่ง มองหญิงสาวอ่อนเยาว์เดินขึ้นไปชั้นสอง
แววตาของหล่อนย่อมไม่พอใจนัก จู่ ๆ ก็มีเด็กเมื่อวานซืนมาชี้หน้าด่าเช่นนี้ ไม่ตบสั่งสอนก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว พลอยลดาไม่เคยก้มหัวให้ใครมาก่อน แต่วันนี้กลับต้องยอมเอาใจเด็กผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าคนหนึ่ง
“รสรินก็เป็นแบบนี้ละครับ แค่ผมเข้าใจเธอคนเดียวก็พอ พลอยไม่ต้องวุ่นวายอบรมเธอหรอก ขึ้นไปพักเถอะ” ชายหนุ่มไม่ชอบใจนัก พลอยลดาพูดจามีเหตุผลก็จริง แต่ก็ดูรุนแรงไปหรือเปล่า
รสรินเปิดประตูห้องนอน แล้วปิดลงจนเกิดเสียงดัง ปัง!...ชม้อยกับชิดชนกพากันปิดเปลือกตาสะดุ้งโหยงทีเดียว “หนูรสคงโกรธแล้วล่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปคุยเอง เอาน้ำส้มกับขนมที่ผมซื้อมาเมื่อวานขึ้นไปให้เธอหน่อย” ถึงหลานรักจะโกรธ แต่อาคนนี้ก็ไม่ปล่อยให้คนตัวเล็กกว่าอารมณ์เสียนาน เขามีวิธีทำให้แม่สาวน้อยคนงามหายโกรธได้รวดเร็ว
พลอยลดายิ้มแห้ง เห็นชานนท์อ่อนโยนไม่เหมือนเก่า นึกเสียดายก็สายไปเสียแล้ว หากรู้ว่าตอนนี้เขาจะโด่งดังอย่างนี้ เธอจะไม่เป็นฝ่ายบอกเลิกแน่นอน
เมื่อก่อนชานนท์ไม่ได้ร่ำรวยขนาดนี้ ฐานะทางบ้านก็ค่อนข้างปานกลาง ซ้ำยังต้องกู้เงินเพื่อเรียนต่ออีก เป็นแบบนี้แล้วเธอก็ไม่อยากมานั่งรับใช้หนี้สินที่เธอไม่ได้ก่อน
เมื่อก่อนเขายังต้องทำงานพิเศษเสริมอีก แต่ดูตอนนี้สิ มีรถคันใหญ่ราคาหลายล้าน แล้วยังเป็นอาจารย์หมอ ออกสื่อมากมาย เป็นที่หมายตาของเหล่าสาว ๆ
วันที่พลอยลดาโรงพยาบาลในวันนั้น พยาบาลสาว ๆ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อาจารย์หมอยังโสดสนิท หลายปีมานี้ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่อาจารย์หมอชานนท์สนใจ
กระทั่งนักแสดงสาวยังส่งของขวัญมาให้ คุณหมอชานนท์ก็รีบปฏิเสธไม่ขอรับอะไรทั้งสิ้น หากมีงานเลี้ยงในโรงพยาบาล หรืองานวันเกิดผู้อำนวยการก็ไม่เคยไป
ชมชอบเก็บตัวนอกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็มีแค่ที่บ้านเท่านั้น พอได้ยินแบบนี้เธอก็นึกสงสัย หมอชานนท์คนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร แค่เธอเข้าไปในห้องตรวจก็ต้องตกอกตกใจ
ที่แท้ก็คือชานนท์ เกื้อกูลเจริญกิจนี่เอง นั่นเป็นครั้งแรกหลังจากที่เธอบอกเลิกเขาไป พบกันอีกที ก็กลายเป็นคนไข้ของชานนท์ไปแล้ว
วันนั้นเธอสารภาพว่าถูกสามีตบตี ถูกแตะต่อยจนรู้สึกปวดท้องเลยมาขอตรวจภายใน ชานนท์ไม่พูดอะไร เขาก็ทำตามหน้าที่ของหมอที่ดี ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว
ดังนั้นพลอยลดาจึงตัดสินใจดักรอเขา หวังได้พูดคุยและปรับความเข้าใจกัน วันนี้เธอจึงบากหน้ามาขอความช่วยเหลือ อย่างไรเสียก็คุ้นเคยกันดี ถ่านไฟเก่าอาจลุกขึ้นมาอีกก็เป็นไปได้
พลอยลดามองแผ่นหลังของชานนท์ ที่เร่งรีบนำขนมและน้ำผลไม้ขึ้นไปบนชั้นสอง ปล่อยให้เธอยืนอยู่ตรงนี้กับแม่บ้านสองคน “ป้าชิดคะ พลอยรบกวนด้วยนะคะ” พลอยลดาแสร้งพูดจาเสียงนุ่มนวล
ชิดชนกเบะปาก พูดห้วน ๆ “ค่ะ ตามฉันมา” จากนั้นจึงหอบหิ้วกระเป๋าใบโต อดคันปากไม่ได้จึงถามขึ้น “คุณพลอยจะมาพักที่นี่สามวันหรือสามเดือนกันแน่คะ กระเป๋าถึงได้หนักขนาดนี้”
“แค่สามวันเองค่ะ พลอยรีบเก็บของหนีออกบ้านมา เก็บอะไรก็ใส่มันเข้าไปค่ะ” พลอยลดาโป้ปดคำโต ที่จริงแล้วในกระเป๋านี้ล้วนเป็นชุดที่เอามาไว้ใส่ยั่วชานนท์ต่างหาก ต้องจับเขาให้ได้เท่านั้น เธอไม่มีที่พึ่งพาที่ไหนอีกแล้ว
“ป้าแก่แล้ว หิ้วไม่ไหวหรอกค่ะ รบกวนคุณพลอยหิ้วเองนะคะ ห้องอยู่ตรงนั้นค่ะ ห้องริมสุดเป็นของคุณรสรินค่ะ เธอไม่ชอบให้ใครเสียงดัง ถ้าจะอยู่ก็รบกวนทำเสียงเบา ๆ นะคะ” รสรินไม่ได้เป็นคนปากร้าย
แต่วันนี้คงอดไม่ไหว จึงระเบิดเสียงดังและไม่ไว้หน้าใคร ไม่เคยพูดจาแดกดันอีกด้วย วันนี้คงหมดความอดทนก็เลยระเบิดลงคุณหมอชานนท์ลูกใหญ่
“อ๋อ” นี่ขนาดเสียงเบายังแสบแก้วหูขนาดนี้ ถ้าเสียงดังบ้านไม่แตกไปเลยหรือ ชานนท์ทำไมต้องรับเด็กคนนี้มาดูแล พ่อก็มี แม่ก็มี ทำไมไม่ให้ครอบครัวดูแล แต่กลับดันเอามาฝากไว้กับคนอื่น ญาติก็ไม่ใช่เสียหน่อย
หรือว่ารุ่นพี่คนนั้น คิดจะจับ ชานนท์เป็นลูกเขย เห็นทีไม่ได้การแล้ว ปลาย่างตัวนี้ทั้งเด็กทั้งขาว น่ากินไปหมด ชานนท์อดใจไม่ไหว เกิดหลงกลืนกินเข้าไป งานนี้สิ่งที่พลอยลดาลงทุนไปก็เสียเปล่านะสิ
พลอยลดาหิวกระเป๋าขึ้นไปชั้นสองอย่างทุลักทุเล เล่นทำเอาหน้างาม ๆ เห่อร้อนขึ้นมาทีเดียว “ป้าชิดคะ พลอยรบกวนขอน้ำสักแก้วได้ไหมคะ” น้ำเสียงของเธอฟังแล้วไพเราะ แต่หน้าตานี่สิ เวลาพูดมันไม่แสดงถึงความเคารพนบน้อมอย่างที่ฟังสักนิด
“พี่ม้อยเอาน้ำมาให้คุณพลอยที คราวหน้าหากอย่างดื่มน้ำเข้าห้องครัวนะคะ มีน้ำและมีผลไม้อยู่ในตู้เย็น กับข้าวมื้อเย็นอยู่ในครัวค่ะ” อยากกินก็ต้องลงไป ไม่ใช่ให้คนแก่เดินขึ้น ๆ ลง ๆ บันได
ถึงจะเป็นแค่คนงานในบ้าน แต่เจ้านายของพวกเธอไม่ใช่พลอยลดา ผู้หญิงหน้าเนื้อใจเสือคนนี้ อดีตทำไว้เจ็บแสบทีเดียว พอเดือดร้อนหน่อยก็โผล่หน้ามาขอความช่วยเหลือ ช่างไร้ยางอายสิ้นดี
“งั้นตอนเย็นให้พลอยช่วยนะคะ” หญิงสาวรีบตีสนิท หวังว่าชานนท์จะมองเห็นคุณค่าในตัวของเธอบ้าง ไม่ใช่วิ่งแจ้นตามง้อเด็กคนนั้น
“ไม่เป็นไรค่ะ” ป้าชม้อยรีบสวนทันที มีหนูรสเป็นลูกมืออยู่แล้วทั้งคน ไม่รบกวนให้แม่กาฝากคนนี้เข้ามาเกะกะมือไม้เวลาหยิบจับอะไร
“พวกฉันไปทำงานก่อนนะคะ ห้ามเข้าห้องคุณนนท์เด็ดขาด” ป้าชิดกำชับ เกรงว่านางมารร้ายคนนี้คิดไม่ดีไม่ร้าย หวังฮุบตัวคุณหมอไป หนูรสรินคงชอกช้ำใจร้องไห้เสียใจจนผ่ายผอมแน่ ๆ
“ได้ค่ะ พลอยเคยอยู่ที่นี่มาก่อน รู้ว่าชานนท์เป็นแบบไหน พลอยไม่ทำให้เขาลำบากใจหรอกค่ะ” ปกติแล้วเขามักนอนไม่ค่อยปิดประตู มักชอบเปิดประตูทิ้งไว้ เวลาอาบน้ำก็มักนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวเดินไปมาในบ้าน แม้ดูอุจาดตา แต่ต้องบอกว่ารูปร่างของเขามันช่างน่ากลืนลงท้องนัก ตอนนี้ก็บึกบึนน่ากลืนน่ากินเหมือนเดิม
“ค่ะ” ป้าชิดกลอกตาเล็กน้อย พูดน้ำเสียงห้วน ๆ ก่อนจะเดินลงชั้นล่างไป
ในห้องของรสรินมีอาหมอนั่งอยู่บนเตียง จับมือแม่หลานสาวนอกไส้เอาไว้ “หนูรสของอา ใจเย็น ๆ ก่อนได้ไหมครับ เด็กดีไม่ดื้อสิ” ชายหนุ่มพูดจาอ่อนโยน เอาอกเอาใจรสรินเหมือนเธอเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ
ทว่าคนถูกปลอบมองค้อนตาเขียว สะบัดมือทิ้งอย่างไม่ไยดี “บอกมาสิคะ ว่าแม่นั่นสำคัญกับอานนท์มากกว่ารสใช่ไหม”
“สำคัญว่าหนูรสของอาได้ยังไงกันล่ะ” เขาออดอ้อนเด็กสาว เพียงแค่ปลายจมูกซุกลงที่ซอกคอของเจ้าหล่อน เป็นต้องย่นคอเหมือนจั๊กจี้
“ถอยออกไปค่ะ อย่าทำตัวรุ่มร่ามได้ไหมคะ” รสรินผลักคนตัวโตกว่า แต่สายตาของเขาดูเจ้าเล่ห์นัก เวลาที่มองมาดู เหมือนจะเขมือบเธอกลืนลงท้องเสียอย่างนั้น ปากบอกว่ารอให้เธอเรียนจบก่อน แล้วค่อยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แต่เวลานี้แววตาของเขากำลังแทะโลมอยู่ชัด ๆ
“หนูรสเป็นของอานี่ครับ” ชานนท์กอดคนตัวเล็กเอาไว้ พร้อมกับหอมแก้มนุ่ม ๆ ของหญิงสาวอย่างจงใจ “แก้มเนี่ยเป็นของอา ปากตรงนี้ก็เป็นของอา ไหนบอกมาสิ จะดื้ออีกไหม”
“พูดจาแบบนี้ก็ไปขอรสกับพ่อสิคะ” รสรินเริ่มลุกแล้ว
“อย่าท้านะ อาเอาจริง” ชานนท์มองคนตัวเล็กกว่า เขากดยิ้มอย่างปลื้มอกปลื้มใจ
“งั้นพรุ่งนี้ไปสำนักงานเขต” พอเห็นเขายิ้มเธอจึงเริ่มแผนต่อไป หากปล่อยอาหมอหลุดมือไปจะหาผู้ชายดี ๆ แบบนี้ได้ที่ไหน
“หนูรสจะทำอะไรครับ” ชานนท์มึนงง
“จดทะเบียนสมรสไงคะ รสไม่ปล่อยให้อานนท์ถูกแม่ปลาช่อนคนนั้นจับกินหรอกค่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว หากมีเรื่องเกินเลยกัน รสจะได้ฟ้องให้แม่นั่นในฐานะชู้” รสรินยิ้มร้าย จับใบหน้าหล่อเหลาของชานนท์แล้วพูดจาประชดประชัน แต่แววตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความขึงขัง กลับแฝงไปด้วยความหึงหวงเยี่ยงเดียวกัน
“ร้ายจริง ๆ นะเราเนี่ย” ชายหนุ่มอยากหัวเราะนัก ในที่สุดรสรินก็เป็นฝ่ายเอ่ยปาก เขาคิดเอาไว้ว่าจะสู่ขอเธอกับปริญอย่างไรดี สงสัยงานนี้พ่อตากับลูกเขยคงตีกันนัวทีเดียว
“ร้ายแล้วรักไหมคะ” หญิงสาวปล่อยมือออกจากใบหน้าคมคายหล่อเหลา
“รักสิครับ” แต่ชานนท์กลับเป็นฝ่ายจับมือเธอเอาไว้ จ้องใบหน้าสะสวยของหล่อน ยากจะระงับความหิวเอาไว้ได้ ริมฝีปากที่เผยอต่อว่า มันเชิญชวนให้เขาลุ่มหลงอยากบรรจงจูบเสียเหลือเกิน
“งั้นพรุ่งนี้ไปจดทะเบียน” รสรินมองเขา ดวงตากลมโตสะท้อนใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้
ชานนท์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงยินดี แต่ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันหน่อย “ครับผม แต่ว่าวันนี้ขออาจุ๊บทีได้ไหม”