บทที่ 3 ทำตามแผน 1.1
“พี่ดีใจนะที่วันนี้เราได้มากินข้าว ดูหนังกัน พี่จะหาเวลาแบบนี้บ่อยๆ นะน้ำหอม”
พีรวัฒน์พูดจากใจ วันนี้เขามีความสุขมาก มีความสุขที่ได้ใกล้ชิดและไปไหนมาไหนกับอักษรา เพราะนานหลายสัปดาห์แล้วที่เขาไม่มีโอกาสเช่นนี้
“น้ำหอมก็ดีใจค่ะ แต่ถ้าพี่พีงานยุ่งก็ไม่เป็นไรนะคะ อย่าเสียงานเพราะกลัวว่าน้ำหอมจะน้อยใจ น้ำหอมไม่น้อยใจหรอกค่ะ น้ำหอมเข้าใจพี่พีดี” เธอกล่าวจากใจเช่นกัน และนั่นทำให้พีรวัฒน์ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว
“พี่รักน้ำหอมนะ น้ำหอมจำเอาไว้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นน้ำหอมเป็นผู้หญิงที่พี่รักมากที่สุด แล้วเป็นผู้หญิงที่พี่จะแต่งงานด้วย” คำพูดของคนรักเรียกรอยยิ้มให้กับผู้ฟัง พร้อมกับน้ำตารื้นด้วยความปีติ
“ค่ะพี่พี น้ำหอมเชื่อพี่พีค่ะ”
ดวงหน้าสาวเวลานี้มีแต่ร่องรอยแห่งความสุขที่กระจายไปทั่ว พีรวัฒน์มองรอยยิ้มนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย เสียใจ รู้สึกผิด ก่นด่าตัวเองกับสิ่งที่ตนทำอยู่
“พี่ไปก่อนนะครับ แล้วคืนนี้พี่โทรหานะ” เขาล่ำลาอีกครั้ง
“ค่ะพี่พี บายค่ะ” เธอโบกมือให้คนรักที่หมุนตัวเดินห่างออกไปยังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า ฝ่ายอักษราก็เดินลงยังชั้น 1 ของห้าง เพื่อออกไปรอรถประจำทางด้านนอก
แต่ยังไม่ทันที่อักษราจะเดินพ้นประตูห้างดี แผนการลักพาตัวของปุณณ์ก็เริ่มขึ้น โดยใช้สมชายหรือเหลือม ที่เขาบอกให้ไปโกนหนวดโกนเคราออกเพื่อแผนนี้โดยเฉพาะ
“คุณครับ คุณครับ” เสียงเรียกและฝ่ามือที่แตะลงบนแขนของอักษรา ทำให้เธอหันมามองต้นเสียง
“คะมีอะไรคะ?” อักษราถามกลับ
“ผมเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบของห้างนะครับ คุณรู้จักคนที่ชื่อพีรวัฒน์ ศักดิ์อุดมหรือเปล่าครับ?”
“ค่ะ รู้จักค่ะมีอะไรหรือคะ?” เธอถามอย่างร้อนใจ ไม่คิดสักนิดเลยว่า ชายตรงหน้านั้นมาร้าย ไม่ใช่มาดี ความที่เธอคิดดีทำดี จึงไม่ทันระวังตัว ไม่ทันได้ฉุกคิดอะไรทั้งสิ้น
“คืออย่างนี้ครับ พี่พีรวัฒน์เป็นลมหมดสติอยู่ตรงลานจอดรถชั้น 2 ครับ แล้วเผอิญว่าเด็กขายตั๋วเดินผ่านมาเห็นพอดี และจำได้ว่ามากับคุณ ผมก็เลยมาตามคุณไปดูเขาหน่อยครับ เผื่อต้องไปโรง’บาล คุณจะได้พาไปได้” สมชายพูดไม่ตกเลยสักคำตามที่นายหัวสุดโหดสั่ง
สีหน้าของอักษราซีดเผือด ความตกใจแทรกซึมเข้าทุกพื้นที่ในจิตใจ ความเป็นห่วงที่วิ่งขึ้นมาซ้อนทับ ทำให้เธอไม่คิดหรือพินิจสิ่งใดให้รอบคอบ ตั้งใจเพียงอย่างเดียวว่า จะต้องไปหาคนรักท่าเดียว
“เหรอคะ งั้นเราไปกันเลยค่ะ” น้ำเสียงกระตือรือร้นตอบกลับ
“ไปครับ” สมชายเป็นฝ่ายเดินนำหน้า โดยมีร่างของอักษราเดินตามหลัง สมชายแสร้งทำเป็นเร่งฝีเท้าเดินเร็วๆ ทำให้สมจริงสมจังว่าร้อนใจเป็นนักหนา
ไม่นานนักคนที่หลอกกับคนที่ถูกหลอกก็เดินมาถึงลานจอดรถชั้น 2 สมชายพาอักษราไปยังมุมซ้ายสุดของลานจอดรถที่ค่อนข้างห่างไกลจากรถยนต์คันอื่นที่จอดอยู่ อีกทั้งยังมีเสาต้นใหญ่บังรถกระบะของเจ้านายหนุ่ม มันจึงเป็นจุดที่เหมาะที่สุด
“ไหนล่ะคะพี่พี?” อักษราถามเมื่อชายแปลกหน้าเดินมาหยุดตรงหน้ารถกระบะคันใหญ่
“อยู่นี่ไง” คนที่ตอบกลับไม่ใช่คนที่พาเธอมา แต่เป็นบุรุษร่างสูงใหญ่คนหนึ่งที่หลบอยู่ข้างเสา
“หมายความว่ายะ…” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบประโยค ผ้าเช็ดหน้าที่ชุ่มไปด้วยยาสลบก็ถูกโปะลงมาตรงกึ่งปากกึ่งจมูก ความตกใจทำให้เธอเผลอสูดดมยาสลบเข้าไปหลายครั้ง เสียงขัดขืนในลำคอดังได้ไม่นานก็พลันเงียบเสียง แรงน้อยนิดที่พยายามจะสะบัดตัวออกก็หยุดนิ่งดิ้นรน รูดตัวลงสู่พื้นปูนดีที่ว่าปุณณ์ใช้ลำแขนรับร่างสาวเอาไว้เสียก่อน
“ผมอุ้มให้ไหมครับนาย” สมศักดิ์กลัวเจ้านายจะเหนื่อยเลยเสนอตัว
“ไม่ต้อง” เสียงใหญ่ของปุณณ์ตวาดกลับ ก่อนจะอุ้มร่างสวยไปยังรถกระบะ วางร่างสาวลงบนเบาะด้านหลังคนขับ จากนั้นเขาก็หย่อนกายลงนั่งชิดร่างของอักษรา ตามมาด้วยร่างของสมชาย ส่วนสมศักดิ์ทำหน้าที่พลขับโดยมีร่างของสมปองหรือหลามนั่งอยู่ตอนหน้า
“ไปได้แล้วไอ้เข้” เสียงทรงอำนาจของเจ้าของเกาะไข่แก้วเอ่ยสั่ง พลขับจึงขับรถออกจากจุดนั้นทันที มุ่งตรงไปยังจังหวัดพังงาจุดหมายปลายทาง
ปนัดดานั่งคอยพีรวัฒน์อย่างใจเย็น ดวงตาหวานเอาแต่ใจส่องดูไวน์ขาวในแก้ว ที่แกว่งไกวไปตามแรงหมุนของมือ เธอกระตุกยิ้มด้วยสะใจที่ได้รับข่าวจากพี่ชายสุดที่รักว่า เวลานี้มารหัวใจของตนได้ตกอยู่ในอุ้งมือของปุณณ์เรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปพีรวัฒน์จะได้ตัดขาดอักษราอย่างจริงจังเสียที
เสียงเปิดประตูดังขึ้นไม่กี่วินาทีต่อมาร่างของคนที่เธอรอคอยก็เดินเข้ามาในห้องรับแขก พีรวัฒน์มองปนัดดาด้วยสายตาเฉยชา ก่อนจะเดินผ่านเธอไปราวกับว่าปนัดดาเป็นอากาศธาตุ
“หยุดนะพี่พี” ปนัดดาทนไม่ไหวกับสายตาคู่นั้น เธอลุกขึ้นยืนแล้วตวาดเรียกพีรวัฒน์ดังลั่น “พี่พีจะมาทำอย่างนี้กับแต้วไม่ได้นะ แต้วไม่ยอม”
พีรวัฒน์ระงับเท้าที่กำลังจะก้าวเดิน หันมามองเจ้าของเสียงแหลมสูงพลางถอนหายใจ “อะไรอีกล่ะ ผมกลับมาเหนื่อยๆ อยากพักผ่อน”
เขาไม่ต้องการมีเรื่องกับเธอเวลานี้ เพราะต้องการเงินก้อนโตที่จะได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ฉะนั้นเขาต้องใจเย็นเข้าไว้ เพื่อความอยู่รอดของครอบครัวและตัวเขาเอง
“ทีไปกับนังน้ำหอมตั้งหลายชั่วโมงไม่รู้จักเหนื่อย อี๋อ๋อฉอเลาะกับมันไม่อายใคร พอกลับมาบ้านละก็ความเหนื่อยมาเยือนทันทีเลยนะ”
ปนัดดาเหน็บแนมคนที่เธอรัก ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเวลาที่พีรวัฒน์อยู่กับอักษรา เขาดูมีความสุขมากแค่ไหน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คำพูดคำจาหวานหู ที่ปนัดดารู้เพราะเคยสะกดรอยตามพีรวัฒน์เวลานัดเจอกับอักษราหลายครั้ง มองจากระยะไม่ใกล้ไม่ไกลเธอก็พอจะคาดเดาได้ ความอิจฉาริษยาคอยจะพลุ่งพล่านในใจของปนัดดา และนี่คืออีกผลหนึ่งที่เธอคิดจะกำจัดอักษราแบบถาวร เพื่อที่พีรวัฒน์จะได้หันมามองเธอบ้าง
“ผมเหนื่อยจริงๆ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ” พีรวัฒน์พูดเหมือนตัดบท สาวเอาแต่ใจไม่ยอมง่ายๆ เดินแกมวิ่งมาดักหน้า
“พี่พีไม่มีสิทธิ์มาหนีหน้าแต้วอย่างนี้นะ ไม่กลัวแต้วไม่ให้เงินพี่เหรอ”
เงิน…คือสิ่งเดียวที่รั้งให้พีรวัฒน์อยู่ร่วมห้องกับปนัดดา และเป็นสิ่งที่เขาจะต้องยอมเธอเรื่อยมา หากยังต้องการเงินมาแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องไปหยิบยืมหรือกู้ใครให้เป็นภาระ อีกทั้งปนัดดายังเป็นแหล่งเงินทุนที่ไม่มีวันหมด
“แล้วแต้วจะให้ผมทำยังไง แต้วถึงจะได้พอใจ?”
เขาใจเย็นถาม สกัดความไม่พอใจเต็มที่ กดคำว่าไม่อยากอดทนไว้ในก้นสมอง เวลานี้เขาต้องอ่อนกับสาวตรงหน้า ไม่เช่นนั้นธุรกิจของครอบครัวจะต้องมีปัญหาแน่นอน
ปนัดดายิ้มพอใจเมื่อเห็นท่าทีของคนที่ตนเองรัก ร่างสาวขยับเข้าประชิดตัวชายร่างสูง โอบกอดเขาด้วยลำแขนของตน
“พี่พีกอดแต้วหน่อยสิคะ หอมแต้วด้วยแล้วบอกว่ารักแต้วคนเดียว”
เสียงของปนัดดาออดอ้อนและร้องขอ ดวงตาหวานสวยมองนัยน์ตาของพีรวัฒน์นิ่ง จ้องลึกในแววตาราวกับจะสื่อสารให้เขารู้ว่า เธอรักเขามากเพียงใด
รักทั้งที่รู้ว่าเขาไม่รัก…
ทว่าพีรวัฒน์กลับมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า ห่างเหินราวกับว่าไม่รู้จักสาวตรงหน้ามาก่อน ปนัดดารู้สึกเจ็บกับดวงตาคู่นั้น แต่เธอยอมเจ็บหากได้อยู่ใกล้คนที่ตัวเองรัก
ไม่ว่าพีรวัฒน์จะรู้สึกอย่างไรกับปนัดดา สุดท้ายเขาก็ต้องทำตามที่เธอสั่ง ลำแขนใหญ่ยกขึ้นสูงก่อนจะโอบกอดร่างสาวไว้ในวงแขน กดปลายจมูกลงบนแก้วชมพูปลั่ง แล้วขยับปากไปตรงใบหู ก่อนจะบอกคำรักตามที่เธอปรารถนาจะได้ยิน
“พี่รักแต้วคนเดียว” ปนัดดายิ้มกับคำรักจอมปลอม คำรักที่เธอบังคับให้เขาพูด ไม่มีใครรู้ความรู้สึกของปนัดดาเวลานี้เลยว่า หวานอมขมกลืนมากแค่ไหน เจ็บปวดกับการที่อยู่ร่วมบ้านกับคนที่ไม่เคยคิดจะรัก แล้วเจ็บยิ่งกว่าที่รู้ว่าเขาอยู่เพราะเงิน แต่ถึงกระนั้นปนัดดาก็ยอมเจ็บ แล้วหวังว่าหากไม่มีอักษรา พีรวัฒน์จะต้องกลับมาเป็นของเธอคนเดียว
“แต้วรักพี่พีค่ะ รักมากที่สุด” เธอกระชับลำแขนกอดร่างหนามากขึ้น แนบศีรษะลงบนแผงอกอุ่นของเขา ซึมซับความอบอุ่นอันน้อยนิดที่เขามีให้ไว้ในความรู้สึก “จูบแต้วหน่อยสิคะพี่พี”
ปนัดดาเงยหน้าบอกพีรวัฒน์ที่โน้มใบหน้าเข้าหานวลหน้าสวยที่เผยอปากรอรับจุมพิตอย่างเสียมิได้ เป็นจูบที่ไร้ซึ่งความเสน่หา จูบเพราะต้องจูบ ความเร่าร้อนจึงไม่เกิดขึ้นในความรู้สึกของพีรวัฒน์
แต่สำหรับฝ่ายหญิง จูบของเขาเร่าร้อน มีความซาบซ่านกระจายไปทั่วช่องปากและร่างกาย เธอหลงใหลกับจุมพิตที่ไม่ได้มาจากความเต็มใจนี้เหลือเกิน
“ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ เหนื่อยอยากพักผ่อน”
พีรวัฒน์พูดขึ้นเมื่อเขาดึงริมฝีปากออกห่างเรียวปากของปนัดดา จากนั้นก็ดันร่างเล็กให้ออกห่าง เบี่ยงตัวเดินไปยังห้องนอนทันที ปล่อยให้เจ้าของห้องน้ำตาร่วงกับความเฉยชา ไม่สนใจใยดีของเขา
ปนัดดามองตามร่างของคนที่ตนรักทั้งน้ำตา หยดน้ำใสๆ ไหลเกลือกกลิ้งแก้มนวลเป็นทาง ย้อนคิดถึงวันแรกที่เขามาอยู่ที่นี่ ในคืนนั้นความสัมพันธ์เร่าร้อนระหว่างเธอกับพีรวัฒน์เกิดขึ้นจากความเมาไม่ได้สติของเขา แล้วนับจากนั้นเรื่องบนเตียงก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย จะมีเพียงการจุมพิตที่เธอเรียกร้องเป็นครั้งคราวเท่านั้น
รักคนที่เขาไม่รักเรามันเจ็บอย่างนี้นี่เอง แต่อีกไม่นาน อีกไม่นานพีรวัฒน์ก็จะหันมามองและรักเธอ เพราะเสี้ยนหนามตำใจถูกขจัดออกไปจากชีวิตเธอแล้ว แต่ทว่าจะต้องให้กระเด็นออกไปอย่างถาวร อักษราต้องไม่มีหน้ากลับมาหาพีรวัฒน์อีก
ความรักที่ปนัดดามีต่อพีรวัฒน์ กำลังทำให้ชีวิตของใครหลายคนเปลี่ยนไป