บท
ตั้งค่า

๑.๔ ห้วงหวาม

“หึๆ” ชัชวินหัวเราะเสียงขรึมๆ ตามแบบของเขา คราวนี้อารยาเป็นฝ่ายต้องเงยหน้าขึ้นมองเขาเอง

“เอยตอบอะไรผิดไปเหรอคะ หรือว่าเอยมีอะไรตลก” หรือว่าเขาได้ยินที่เธอคิด...

“เปล่า...อาแค่ขำ”

“ขำอะไร” เสียงของคนถูกหัวเราะเริ่มห้วนตามอารมณ์

“ก็ขำเอยนั่นละ เมื่อกี้อาเพิ่งบอกว่าเอยเป็นพวกถามคำตอบคำ พออาเริ่มชวนคุยก็ยังตอบแบบเดิมอีก”

“ก็เอยไม่รู้จะตอบยังไงนี่คะ” เสียงหวานอ่อยลงเมื่อคิดว่าเขาพูดถูก

“มันขยายความได้มากกว่านั้น แต่เอาเถอะ อารู้ว่าวัยของอากับเอยก็ค่อนข้างแตกต่างกันมาก เรื่องที่เราคุยกันเลยไม่ใช่แนวเดียวกัน” เขาสรุปง่ายๆ แต่อารยาเริ่มเดือดเนื้อร้อนใจ

“อาชัชโกรธเอยหรือเปล่าคะ หรือว่าเอยเด็กเกินไปสำหรับอา”

“อาไม่โกรธหรอก และเอยก็ไม่ได้เด็กเกินไปสำหรับอา เอยโตแล้ว เรียนหนังสือก็จบแล้ว เพียงแต่ว่าเราคงต้องปรับตัวเข้าหากันสักระยะ” เขาบอกแบบผู้ใหญ่ พลางคิดว่าเด็กอะไรจะกอดเต็มไม้เต็มมือขนาดนี้ อารยาไม่เด็กสักนิด ตรงข้ามเธอเป็นสาวสวยสะพรั่งเชียวละ

“ขอบคุณที่ไม่โกรธและเข้าใจเอยค่ะ เอยจะพยายามปรับตัวเข้าหาอาชัชให้มากกว่านี้”

“งั้นคืนนี้เราพอแค่นี้ก่อนก็แล้วกันนะ เดี๋ยวอาจะพาเอยกลับไปส่งที่บ้าน”

“ส่งเอยเสร็จอาจะกลับเมืองกาญจน์เลย หรือว่าพักที่กรุงเทพฯ คะ” อารยาถามต่อหลังจากเขาพากลับไปที่โต๊ะและจัดการจ่ายค่าอาหารแล้ว

“คงกลับเลย นี่ก็ยังไม่ดึกมาก”

“แต่ว่าฝนตกนะคะอาชัช ทำไมอาไม่พักที่กรุงเทพฯ สักคืนก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยขับรถกลับ เอยเอ่อ...เป็นห่วง” เสียงหวานหลุดคำสุดท้ายออกไปอย่างอายๆ แต่กลับทำให้คนฟังยิ้มออกมา

“ไม่ต้องห่วงอาหรอก อาขับรถเก่งและชินทางจะตาย อีกอย่างเมืองกาญจน์ก็ใกล้ๆ แค่นี้เอง”

ตอบเสร็จร่างสูงก็ขยับมาโอบเอวแล้วพาเดินไปยังลิฟต์ อารยาใจสั่นเมื่อเข้ามาอยู่ด้วยกันสองต่อสองในที่แคบๆ แบบนั้นอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะหวนคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ในนี้เมื่อกว่าหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เธออยากรู้ว่าชัชวินกำลังคิดแบบเดียวกันหรือเปล่า จึงเผลอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคร้ามของเขา เขาเพียงยิ้มให้แต่มือที่โอบอยู่บนเอวเล็กของเธอกลับกระชับแน่นขึ้น ทำให้หัวใจของอารยาเต้นแรงเพราะรู้ว่าเขาเองก็คงกำลังคิดเช่นกัน

ชัชวินจะจูบอีกหรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่อารยาแอบลุ้น หากแต่เธอก็ลุ้นเก้อ เพราะไม่กี่อึดใจต่อมาลิฟต์ก็พามาถึงชั้นที่เป็นลานจอดรถเสียแล้ว

ติ๊ง!

เสียงของลิฟต์ดังขึ้น อารยาแอบถอนหายใจเบาๆ จะว่าเสียดายก็ใช่ ใครบ้างจะไม่เป็นเหมือนเธอ ในเมื่อจูบแรกที่คาดหวังไว้ว่ามันคงจะสุดวาบหวามร้อนแรง ทว่าพอเกิดขึ้นกับเธอจริงๆ มันกลับไม่ต่างอะไรกับการเอาปากแตะกันเหมือนเด็กเล่น

ร่างบางเข้าไปนั่งในรถหลังจากคู่หมั้นหนุ่มเปิดประตูให้แล้ว ส่วนชัชวินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ อารยาเอี้ยวตัวไปดึงเข็มขัดนิรภัยที่อยู่ข้างประตู แต่ก็พบปัญหาว่าเข็มขัดนิรภัยเกิดไม่ยืดออกมาตามแรงดึง

“เป็นอะไรเหรอเอย” ชัชวินหันมาถาม

“ไม่รู้สิคะอา ทำไมเข็มขัดนิรภัยมันถึงติดก็ไม่รู้”

“ขออาดูหน่อยซิ”

ร่างสูงโน้มตัวข้ามเบาะของตัวเองไปดูเข็มขัดนิรภัยให้ อารยาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่ตอนนี้ก็ก้มลงมามองเช่นกัน ตาสองคู่สบประสานกันในระยะใกล้ชิด หายใจรวยรดซึ่งกันและกันอยู่แค่ไม่กี่อึดใจ แรงดึงดูดอันมากมายมหาศาลที่ห้อมล้อมอยู่รอบกายก็ทำให้สองหนุ่มสาวผวาประกบปากเข้าหากันอย่างรวดเร็ว

หากอารยาเปรียบเทียบจูบครั้งแรกว่าเหมือนเด็กอนุบาล จูบครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากข้ามขั้นไประดับปริญญาเอกเลย เพราะชัชวินระดมจูบปากสีสวยของเธอเหมือนหิวกระหายมานาน แม้จะตื่นเต้นแต่อารยาก็ตั้งรับได้อย่างรวดเร็ว เธอเผยอปากรับจูบของเขาและจูบตอบเท่าที่สัญชาตญาณจะสอน

เสียงครางสั่นสะท้านหลุดจากปากสวยเมื่อคู่หมั้นหนุ่มชำแรกปลายลิ้นลงเข้าไปในโพรงปากนุ่มชื้นที่เผยอรอ ลิ้นสากหนาตวัดไปมาอยู่ในปากทำเอาอารยาเสียววูบวาบไปทั่วกาย

“อื้อ...” อารยาหลุดเสียงครางสุดซ่านสยิวออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ สะดุ้งเฮือก เสียววาบไปทุกขุมขน เมื่อปลายลิ้นถูกปากหนาดูดดึงเป็นจังหวะ อารมณ์และรสจุมพิตอันสุดเร่าร้อนเช่นนั้นทำให้หญิงสาวตวัดลิ้นจูบตอบเขาอย่างดูดดื่มไม่แพ้กัน พร้อมกันนั้นขาเรียวทั้งสองก็หุบเข้าหากันและส่ายเสียดสีกันไปมา เพื่อระบายความเสียวซ่านที่เกิดจากการจุมพิตสุดลึกซึ้งดื่มด่ำนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel