บทนำ เหตุการณ์ไม่คาดฝัน! (2)
“ไม่มีใครเขาอยากเข้าใจแกทั้งนั้นแหละไอ้จี แกมันไร้สาระมาก รู้ตัวรึเปล่า” เดโรครอปที่เดินไร้ตัวตนอยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินผ่านไปอย่างไม่แยแสคนที่หยุดเดินทำหน้าอยากจะกินเลือดกินเนื้อเขา
เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านใน พวกเขาทั้งสามก็ตรงเข้าไปในที่โต๊ะตัวประจำที่พวกเขาจองไว้ให้เป็นที่ส่วนตัวของตัวเอง ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาวุ่นวายกับพื้นที่ของพวกเขา โซนนี้เป็นโซนวีไอพีที่มีแต่พวกไฮโซตระกูลดังเข้าจับจองเป็นพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งพวกเขาก็ไม่มีปัญหา ถ้าหากว่าคนพวกนั้นมีปัญญาจ่ายเงินค่าผ่านทางในโซนนี้ เรื่องทุกอย่างก็จบ
ทันทีที่ทั้งสามคนนั่งลง สายตาติดเรดาร์ของเจเรมี่ก็เริ่มทำงานด้วยความเร็ว นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนฉายแววตื่นเต้นยามสอดส่องหาสาวสวยที่จะมาปาร์ตี้เล่นขี่ม้ากับเขาบนเตียงคืนนี้ ทำเอาสองหนุ่มที่เหลือถึงกับถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่เอือมระอากับนิสัยเพลย์บอยของอีกคน ฟองซัวล์ละสายตาออกจากเพื่อนตัวเอง หันไปมองบริกรชายที่เดินเข้ามาด้านใน พอมาถึงก็โค้งศีรษะลงเล็กน้อย ก่อนจะถามเสียงสุภาพอย่างเคารพ
“สวัสดีครับ วันนี้คุณเอกับคุณบีต้องการรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ”
“ฉันขอเตกีล่าแล้วกัน” เดโรครอปเป็นฝ่ายตอบก่อน ก่อนที่จะตามด้วยฟองซัวล์
“มาร์ตินี่” เสียงทุ้มตอบกลับไปสั้น ๆ ก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาเป็นการตัดบท บริกรหนุ่มไม่คิดรบเร้าต่อหันกลับไปถามนักแสดงหนุ่มหน้าหวานคนสุดท้าย
“แล้วคุณเจเรมี่ล่ะครับ ต้องการรับเครื่องดื่มอะไรดี”
“ฉันขอจินโทนิค จัดมาเลยเร็ว ๆ”
“รอสักครู่นะครับ”
บริกรหนุ่มโค้งศีรษะลงอีกครั้ง ก่อนจะเดินจากไป เจเรมี่ที่เพิ่งเอ่ยเร่งไปก็ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายต่อ รีบหันกลับมามองหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่งที่กำลังนั่งหันข้างถูกหญิงสาวหน้าหวานอีกคนนั่งเบียดชิด จนแทบจะสิงเข้าไปอยู่ในร่างเธอคนนั้นได้อยู่แล้ว
ผู้หญิงอะไร สวยคมเป็นบ้า! ถึงแม้ท่าทางการแต่งตัวจะขัดกับใบหน้าสวย ๆ ไปสักหน่อย แต่ขนาดรูปร่างนี่ไม่เบาเลย น่าสนจริง ๆ
“เฮ้ย ๆ ๆ ไอ้เอไอ้บี แกดูผู้หญิงคนนั้นสิโคตรสวยเลยว่ะ แถมหุ่นยังน่าหม่ำน่าขย้ำมากด้วย” เจเรมี่ไม่ได้ละสายตาออกจากผู้หญิงคนนั้น แต่กลับเรียกเพื่อนพลางกวักมือรัว ๆ เร่งให้เพื่อนตัวเองหันมาสนใจ เดโรครอปเป็นคนแรกที่หันกลับไปมองก่อน แล้วก็ต้องตะลึงกับความสวยเซ็กซี่ของอีกคน จะมีก็แต่ฟองซัวล์ที่ยังคงไม่สนใจอะไรอยู่ดี
“เฮ้ย! ไอ้บีไม่ใช่คนนั้นเว้ย! ฉันหมายถึงคนนั้นต่างหาก” เจเรมี่โวยขึ้นเมื่อเห็นเดโรครอปมองไปยังผู้หญิงชุดแดงที่นั่งเบียดอยู่ข้าง ๆ ที่เขาพูดถึง
“แต่คนนั้นเซ็กซี่น่าขยี้มากกว่า คนนั้นเหมือนทอมเลยว่ะ” เสียงห้าวตอบกลับ ขณะที่สายตายังไม่ละจากสาวสวยคนเดิม
“ชิ! แต่ฉันว่าคนนั้นสวยกว่า ลองคิดสิวะว่าถ้าถอดเสื้อผ้าออกหมดจะสวยขนาดไหน แค่คิดก็เลือดพลุ่งพล่านแล้วเนี่ย โคตรสวยว่ะ”
“หื่นขึ้นสมองแล้วแกน่ะ” เดโรครอปเหล่ตามองเพื่อนตัวอย่างเอือม ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะน้อมรับด้วยความภาคภูมิใจเสียจนเขาอยากจะจับหน้ามันกระแทกพื้น เอาให้หน้ายุบไปเลย
“เฮ้ ๆ มองหน้าฉันแบบนี้แกกำลังคิดจะฆาตกรรมฉันใช่ไหม! บอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่ยอมให้แกทำแบบนั้นง่าย ๆ แน่ เพราะถ้าฉันเป็นอะไรไป สาว ๆ คงร้องไห้เสียใจกันยกใหญ่ ฉันสงสารว่ะทนเห็นไม่ได้”
“เหอะ ถ้าแกตายไปก็คงไม่ต้องทนเห็นสาว ๆ ร้องไห้หรอก หน้าด้านตอบจริง ๆ เลยว่ะ” เขาส่ายหัวเบา ๆ อย่างทึ่งกับความคิดมันจริง ๆ ก่อนที่นัยน์ตาคมทรงเสน่ห์จะหันไปทางเพื่อนสนิทอีกคน ซึ่งตอนนี้นั่งดื่มมาร์ตินี่เงียบ ๆ คิ้วขมวดชนกันไม่สนใจใคร
“เป็นอะไรไปวะเอ ฉันเห็นแกนั่งเงียบมาตั้งนานแล้ว ไปเครียดเรื่องอะไรมา” เดโรครอปตัดสินใจเอ่ยถามอีกคน ฟองซัวล์ที่ได้ยินสิ่งที่อีกคนถามก็เงยหน้าขึ้นสบตาด้วย ก่อนจะตอบกลับเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ผิดกับหน้าตา
“เรื่องคู่แข่งทางธุรกิจน่ะ แต่ไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วงมากนักหรอก”
“นี่ขนาดไม่ต้องเป็นห่วงนะ ยังทำหน้าเครียดซะขนาดนี้ นี่ถ้าเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย แกไม่ต้องทำหน้าเหมือนคนใกล้ตายเลยเหรอวะ” เจเรมี่หันไปตอบพลางสังเกตสีหน้าของอีกคนไปด้วย ท่าทางจะเครียดจริง เพราะทันทีที่เขาพูดจบก็ได้รับสายตาอำมหิตกลับมา
“หุบปากซะ ถ้าไม่อยากเจอดี เจเรมี่...” เสียงทุ้มคำรามต่ำพลางกดสายตาจ้องเขม็งเพื่อนหนุ่ม ฟองซัวล์เลิกสนใจเพื่อนทั้งสอง ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ โซนวีไอพี
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างพวกเขา ทว่า...ความเงียบที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาทะเลาะกัน โดยปกติแล้วเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะชอบแหย่กันแรง ๆ สักพักเดี๋ยวก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิมเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดวงตาคมกริบดุจใบมีดของฟองซัวล์ไล่สายตาไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนหนึ่ง เพียงแค่เขาได้เห็นเสี้ยวหน้าสวยคม เขาก็ชะงักสะดุดกึกหยุดอยู่ที่เธอ...
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่แค่เห็นด้านข้างของเธอ เขาก็เกิดความสนใจขึ้นมา ความรู้สึกแปลกประหลาดที่พุ่งโจมตีเขาอยู่นี่มันคืออะไรกัน
ฟองซัวล์รีบดึงสายตากลับมามองที่เครื่องดื่มของตัวเอง ก่อนจะยกแก้วดรายน์มาร์ตินี่ขึ้นดื่มดับกระหาย จู่ ๆ ร่างกายเขาก็ร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ปกติมันไม่ได้มีปฏิกิริยารุนแรงแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน เพิ่งจะมาออกอาการหนักก็กับเธอคนนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ใช่สเป๊กของเขาเลยสักนิด ท่าทางไม่ต่างจากทอมบอยแบบนั้น ใครจะไปสน...
...แต่ร่างกายเขากลับสนขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ สวยแต่เป็นทอม สงสัยประชากรหญิงจะมีเยอะเกินไป จนอยากเปลี่ยนเพศไปเป็นผู้ชายแทนเสียเอง
“แกก็สนใจผู้หญิงคนนั้นใช่ไหมล่ะ เห็นมองตาไม่กะพริบเลยนะเอ”
“เสือกไรด้วย แล้วฉันก็ไม่มีวันสนใจยายทอมบอยนั่นหรอก ไม่ใช่สเป๊ก” ฟองซัวล์สวนกลับไปทันที สีหน้าเย็นชาเสียจนเจเรมี่ขำไม่ออก อะไรจะเย็นชาขนาดนั้น แค่เขาบอกว่ามันสนใจ มันถึงขนาดต้องแผ่รังสีไอเย็นใส่เขาเชียวหรือ โหดร้ายชะมัด
“เออ ๆ พูดแค่นี้ก็ต้องของขึ้นด้วย”
“หึ แต่ฉันว่าแกสนนะ ไม่อย่างนั้นร่างกายคงไม่ตอบสนองขนาดนี้หรอก” ไม่พูดเปล่าแต่สายตาของเดโรครอปยังมองไปที่ส่วนล่าง ซึ่งบ่งบอกว่าสิ่งที่เขาพูดถึงคืออะไร
ฟรึบ
เจเรมี่รีบก้มลงไปมอง ‘ส่วนนั้น’ ของอีกคน จนคนถูกมองรีบขยับตัวเบี่ยงหลบแทบไม่ทัน ให้ตายสิ! มันเป็นเรื่องน่าขายหน้าสำหรับชายชาตรีอย่างเขาเลยนะ ที่ดันมามีปฏิกิริยากับผู้หญิงพรรค์นั้น แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อของแบบนี้มันอยู่เหนือการควบคุม ถ้าจะโทษก็ต้องที่ผู้หญิงคนนั้นคนเดียวเลย
“ฮะฮ่า ๆ จริงด้วยว่ะ ท่าจะอาการหนัก เห็นปุ๊ปน้องชายตื่นปั๊ป”
“ช่างเรื่องของฉันเถอะน่ะ เงียบปากไปเลย” ฟองซัวล์บอกปัดเสียงเข้ม ใบหน้าคมขึ้นสีแดงเรื่อลามไล่ไปถึงใบหูทั้งเขินทั้งอายในเวลาเดียวกัน
“เขินซะงั้น หึ ๆ”
“...”
“ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดีวะ ทำไมฉันรู้สึกเฉย ๆ ก็สวยอยู่หรอกนะ แต่ว่าท่าทางมาดแมนแบบนั้น มันไม่ใช่สเป๊ก”
“โห้ย! อะไรวะคุณบี สวยออกขนาดนั้นยังบอกว่าไม่มีอะไรดี ตาตกอยู่ที่ตาตุ่มรึไง”
“ไอ้คุณจี แกอยากตายไหมฮะ! บอกฉันได้นะ เดี๋ยวจะช่วยสงเคราะห์ให้”
“เฮ้ย! ไม่เอาเว้ย ฉันยังไม่มีเมีย” เจเรมี่รีบส่ายหน้าปฏิเสธพลางทำหน้าตาน่าสงสารเสียจนเดโรครอปอยากหาอะไรมาฟาดหัวมันจริง ๆ
“หน้าอย่างแกเนี่ยนะไม่มีเมีย จะค่อนโลกได้แล้วมั้ง” ฟองซัวล์อดไม่ได้ที่จะค่อนขอดอีกคน ส่วนคนถูกว่าก็เบะปากตีหน้าซื่อตอบกลับไป
"นั่นเขาเรียกว่าเพื่อนร่วมทาง สนุกก็ต่อ พอเบื่อก็แยกทาง เข้าใจไหม” คิ้วเรียวเลิกขึ้นประกอบคำพูด ก่อนที่เสียงเดโรครอปจะดึงความสนใจของทุกคนให้หันกลับไปมองหญิงสาวในบทสนทนาเมื่อครู่
“เฮ้ย ๆ ๆ พวกแกหันมาดูนี่ก่อน! ผู้หญิงสองคนนั้นจูบกันแล้วเว้ย!”
ขวับ
ทั้งฟองซัวล์และเจเรมี่รีบหันกลับไปทันทีโดยที่ไม่ต้องพูดซ้ำ เจเรมี่ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงกับภาพที่เห็น ก่อนจะเบะปากทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยความเสียดาย ส่วนฟองซัวล์ก็นิ่งไปจ้องมองหญิงสาวสองคนที่จูบกันอย่างดูดดื่มในมุมมืด แต่กลับเห็นชัดเจนในจุดที่เขานั่งอยู่ นัยน์ตาสีฟ้าเข้มดูเรียบนิ่งราวกับคลื่นในท้องทะเลที่แสนสงบ แต่ใครจะรู้ว่าเขากำลังเดือดพล่านที่เห็นผู้หญิงคนนั้นจูบกับคนอื่น! ถึงแม้ว่าเธอจะจูบกับผู้หญิงก็เถอะ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงต้องรู้สึกหงุดหงิดแบบนี้ด้วย!
“เฮ้ย ๆ ๆ ไอ้เอใจเย็นก่อน ตอนนี้ตาแกลุกเป็นไฟจนแทบจะเผาร่างสองคนนั้นได้อยู่แล้วนะ เย็นก่อน ๆ” เจเรมี่รีบร้องเตือนเสียงหลง เมื่อหันหน้ากลับไปมองเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าลึกลับของเพื่อน แล้วก็ต้องตกใจเพราะผืนน้ำที่เคยเยือกเย็นนิ่งสงบทุกสถานการณ์กลับมีไอร้อนพวยพุ่งออกมา ถึงว่าทำไมเขาถึงรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ที่แท้มาจากมันนี่เอง หรือแม้แต่เดโรครอปก็ยังรับรู้ได้ถึงคลื่นลูกใหญ่ที่กำลังม้วนตัวอยู่ใต้ท้องทะเล
ฟรึบ
จู่ ๆ เจ้าของใบหน้าคมคายก็ผุดลุกขึ้น โดยไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไร ฟองซัวล์ก็ก้าวออกไปจากตรงนั้นทันที ทำเอาสองหนุ่มที่นั่งอยู่ที่เดิมถึงกับทำหน้าไปไม่เป็น ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี เพราะจู่ ๆ เพื่อนของเขาก็ดูจะเลือดร้อนเดือดพล่าน พร้อมจะทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางหน้าได้ยังไงยังงั้น เพียงเพราะผู้หญิงที่เหมือนทอมคนนั้นอย่างนั้นเหรอ
“ท่าทางงานนี้พวกเราจะได้เห็นมาดามเอดิซาแล้วสิวะ”
“ฮะ?! แกหมายความว่าไงวะคุณบี” เจเรมี่หันขวับกลับมามองอีกคนอย่างไม่อยากเชื่อหูว่าจะได้ยินคำนี้จากเพื่อน
“ฉันรู้ว่าแกได้ยินไอ้คุณจี ท่าทางงานนี้ตำแหน่งมาดามเอดิซาคงหนีไม่พ้นผู้หญิงคนนั้นแน่ ๆ”
“เอาจริงดิ”
“อือ ฉันคิดว่างั้นว่ะ ท่าทางไอ้คุณเอมันฟ้องซะขนาดนั้น เปอร์เซ็นต์มันสูงมากอย่างที่ไม่เคยมีผู้หญิงทำได้มาก่อน”
“โหย...เจ้าหญิงของฉัน ฉันอุตส่าห์จองนะ ดันมาถูกไอ้คุณเอแย่งไปซะได้”
“งั้นแกก็คงต้องไปเคลียร์กับไอ้คุณเอเองแล้วล่ะ หึ ๆ”
“แกอยากเห็นฉันถูกกระทืบตายเรอะ ถึงได้เสนอให้ฉันไปรนหาที่ตาย ไอ้บ้า” เจเรมี่ที่โอดครวญยกใหญ่ถึงกับแหวกลับไปด้วยความโมโห ถึงผู้หญิงคนนั้นจะสวยเหมือนนางฟ้า แต่เขาก็ไม่ขอเสี่ยงกับซาตานอย่างมันด้วยหรอก เขายังไม่อยากตาย ยังไม่ทันได้หาเมียหาแม่ให้ลูกเลย
“งั้นก็ช่างเถอะ ดื่มต่อ”
“เออ ๆ ดื่มไปมองหาสาวไป เพลินตาดี ฮะ ๆ”
“...” เอากับมันสิ หื่นขึ้นสมองไปหมดแล้ว! เฮ้อ เขาล่ะเพลีย