เรื่องเล่าหลังเที่ยงคืน บทที่2.ต่อมอยากรู้ตื่นตัว 1/2
“ไม่รู้ไอ้พวกนั้นหายหัวไปไหนหมด” ชายหนุ่มบ่นถึงกลุ่มแก๊งหนุ่มรุ่นๆ ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
“คงรวมตัวกันอยู่ที่ร้าน...นั่นแหละพี่”
อัญยิกาออกความเห็นเสียงเธอแผ่วหวิวเลยทีเดียว ช่วงนี้แก๊งวัยรุ่นนิยมไปที่ริมเขื่อน มีร้านอาหารเปิดใหม่ และเป็นสถานที่เหมาะสำหรับจีบสาวเมื่อร้านนั้นตั้งอยู่ใกล้สวนสาธารณะ มีผู้คนออกไปวิ่งออกกำลังกายที่นั่นพอสมควร
“ตอนเที่ยงนี่นะ”
บวรท้วง เขาทรงตัวขึ้นนั่ง ทันได้เห็นสายตาอยากรู้ของอัญยิกาเข้าพอดี เขาอมยิ้มแสร้งแอ่นตัวสูงขึ้น หญิงสาวเสหลบตา ใจเธอเต้นแรงมากกว่าเก่า ไม่ได้คิดไปเองไอ้ที่นั่งจ้องอยู่มันเหมือนจะเคลื่อนไหวได้ ไอ้ที่โป่งนูนอยู่นั้นเหมือนมันจะพยายามขยับตัวอยู่ด้านใน
‘พกปลาช่อนมาในเป้ากางเกงหรือไงหะ’
เธอแค่นว่าหนุ่มรุ่นพี่ในใจ
“ไอ้อ่ำล่ะ อยู่ที่นั่นด้วยไหม?”
สาวรุ่นไหวไหล่ “ไม่รู้สิ อัญไม่ค่อยรู้หรอก พี่อ่ำไม่ไหนมาไหนไม่เคยบอกสักที”
“พ่อ แม่ล่ะ?” เสียงถามต่อเหมือนกำลังซักประวัติของเธอ
“พ่อแม่ไปบ้านญาติค่า” เธอตอบ เผลอใช้เสียงสูง
“งั้นก็อยู่กันแค่สองคนสินะ”
“ค่ะ” เธอตอบก่อนจะเงยหน้ามองหนุ่มรุ่นพี่ เมื่อเขาทรงตัวยืนขึ้น
“ค่ำๆ จะแวะมาใหม่ บอกไอ้อ่ำด้วยล่ะ จะหิ้วเหล้ามากินกับมัน”
สาวรุ่นย่นจมูก หน้าเทศกาลมีแต่คนเมา นั่นเป็นอีกข้อที่เธอเบื่อวันหยุดยาวๆ เพราะทุกทิศรอบตัว มีแต่เสียงพูดคุยของคนที่มีสติไม่เต็มร้อย ข้ออ้างในการดื่มของผู้ชายนั่นแหละ ไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจ พวกเขาก็หาเหตุเพื่อดื่มสุราเท่านั้นเอง
พี่ชายของอัญยิกากลับมาเกือบค่ำ เธอเลยตะโกนบอกเขาตอนที่จูงรถมอเตอร์ไซค์คันเก่งของตัวเองออกมาจากที่จอด “พี่อ่ำ พี่บอยบอกจะแวะมาหาตอนมืด”
“เหรอ มันมาเมื่อไหร่ล่ะ”
อำนาจยื่นหน้ามาถาม เขายืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน
“ไม่รู้ แวะมาบอกตอนเที่ยง”
“จะไปไหนล่ะนั่น มืดแล้วนะ” เสียงพี่ชายท้วง
“ไปบ้านแก้ว เดี๋ยวมา”
อัญยิกาตะโกนตอบ เธอมีเรื่องจะถามเพื่อน และต้องการหลบหน้าบวรด้วย
“รีบกลับล่ะ มืดแล้วมันอันตราย”
หญิงสาวย่นจมูก บ้านนอกแบบนี้จะมีอันตรายได้ไง เธอเถียงในใจไม่ได้พูดออกมา
“แก้ว...ฉันมีเรื่องจะถาม” หลังนั่งบนเตียงนอนเพื่อน อัญยิกาก็รีบพูด ก่อนที่ความกล้าของตนเองจะหมดลง
“ถามอะไรวะ?” แก้วกัลยาถามกลับ
“คือ...” พอถูกจ้องหน้าความกล้าที่เคยมีก็เริ่มหด
“คืออะไรล่ะ?” แก้วกัลยาถามย้ำ
“จะพูดไงดีวะ มันอายอะ!” สาวรุ่นกล่าวเสียงอุบอิบ
“จะอายอะไร แกอยู่กับฉันแค่สองคนเอง”
แก้วกัลยาบ่นอุบ แต่กลับขยับเข้ามาใกล้ พอจะเดาได้ เรื่องที่อัญยิกาอยากถาม ต้องเป็นเรื่องลับๆ ที่กระดากแม้แต่การพูดถึง
“แหม...อย่ายึกยักน่ะ ฉันเกร็งจนเยี่ยวเหนียวไปหมดแล้ว อยากถามอะไรก็ถามมา”
สาวรุ่นรีบกระตุ้น ต่อมอยากรู้เริ่มทำงานหนัก
“มันอายโว้ย!!” อัญยิกายกมือปิดหน้า ส่ายหน้าแรงๆ เพราะเรื่องที่อยากรู้มันลึกลับและชวนสยิว
“อ้อ...ฉันรู้แล้ว” เพื่อนสาวอมยิ้ม เดินไปนั่งด้านข้าง พร้อมกับกระซิบข้างหูจนอัญยิกาผงะ
“แกอยากรู้เรื่องผู้ชายเหรอ?”
“ยัยแก้ว!!”
“ไม่ต้องมาอาย มีแค่แกกับฉันสองคน มีคนอื่นที่ไหนล่ะ” แก้วกัลยาบ่นอุบ เรื่องของผู้ชายใครๆ ก็อยากรู้ทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ไปขอดูดื้อๆ ไม่ได้ ไม่มีผู้ชายคนไหนเปิดให้ดูฟรีๆ มันต้องแลกด้วยบางอย่างที่ชวนสยิว
“ใครกระตุ้มต่อมอยากรู้ขึ้นมาล่ะ ฉันไม่เคยเห็นแกกระวนกระวายแบบนี้นี่” แก้วกัลยาซักต่อ
“พี่บอยสิ!!” อัญยิกาตอบเสียงกระแทก
“ลูกชายเจ้าของตลาดน่ะเหรอ เกี่ยวตรงไหนวะ?”
มันก็น่าที่จะอยากรู้หรอก เท่าที่แก้วกัลยาจำได้ ผู้ชายที่อัญยิกาเอ่ยถึง รูปหล่อ พ่อรวย และน่าจะ...อืม เธอหยุดคิด เพราะความคิดกำลังเตลิด
“วันนี้เขามาหาพี่อ่ำที่บ้าน”
“หมอนั่นกลับมาบ้านสิ”
“คงงั้นแหละ”
“แล้วทำไมล่ะ เขามาหาพี่แก ไม่ได้มาหาแกสักหน่อย” แก้วกัลยาท้วง สองหนุ่มนั่นเป็นเพื่อนซี้กัน คนทั้งหมู่บ้านรู้ นานๆ บวรจะกลับมาบ้านสักที ไม่แปลกหรอกที่เขาจะไปหาเพื่อนที่ตนเองสนิทด้วย
“แหม...พูดยาก”