รวมนิยายรักฯ...บทที่ 5 นางฟ้าในอ้อมรักมาร...
พาหนะที่คุณมาตย์เมืองนั่งมากับลูกสะใภ้ เป็นรถตู้คันใหญ่รุ่นล่าสุดนั่งสบาย เพื่อไปส่งทั้งสองที่สนามบิน โดยมีผาณิตตามมาดูแลเรื่องข้าวของเครื่องใช้ที่จะนำขึ้นเครื่อง โดยมีกระเป๋าเดินทางของพิมพ์รัมภาถึงห้าใบ
คุณมาตุเมืองเห็นพิมพ์รัมภาในภาพลักษณ์ใหม่ก็อดไม่ได้ที่จะออกปากชมเชยด้วยความชื่นชมอย่างจริงใจ
“โอ...แต่งตัวแบบนี้แล้วหนูฟ้าดูสวยน่ารักมากนะ ลุงนี่ตาแหลม เลือกคนไม่ผิดจริงๆ” คุณมาตย์เมืองชมเผื่อมาถึงตัวเองที่ตาดีเลือกลูกสะใภ้ได้สวยถูกใจ แล้วเขาก็เชื่อว่าคงจะเลือกได้ถูกใจลูกชายด้วย
“โธ่...คุณลุงกำลังทำให้ฟ้ารู้สึกเขินนะคะ”
พิมพ์รัมภาเรียกตัวเองด้วยชื่อเล่นตามเคยชิน คุณมาตย์เมืองได้เรียกตาม และถามว่าชื่อฟ้าสั้นๆหรือ พิมพ์รัมภาต้องยอมรับว่า ความจริงชื่อเล่นตนชื่อว่า...นางฟ้า...แต่ทุกคนมักจะนิยมเรียกว่า...ฟ้า...เสียมากกว่า
“ไม่ต้องอายหรอก ลุงชมด้วยใจจริงนะ หนูฟ้าน่ะสวยสมชื่อจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคุณพ่อของหนูตั้งชื่อเล่นของลูกสาวว่า...นางฟ้า...กับชื่อจริงว่า...พิมพ์รัมภา...” คุณมาตย์เมืองมองใบหน้าแดงระเรื่อบ่งบอกอาการเขินอายของพิมพ์รัมภาอย่างเอ็นดูและชวนคุยต่อ
“ความสวยภายนอกของผู้หญิงมีสองแบบนะ เขาเรียกว่า สวยพิศ กับ สวยผาด คนสวยพิศ คือ คนที่สวยแบบยิ่งมองก็ยิ่งสวย พอได้แต่งเติมเข้าอีกนิดหน่อยก็ช่วยเปล่งประกายความสวยออกมา เหมือนเพชรพลอยที่ได้รับการเจียระไนแล้วนั่นแหละ คนสวยผาด คือ ถ้ามองเผินๆผ่านๆก็ดูว่าสวย แต่พอมองนานจะเห็นความบกพร่องขององค์รวมในรูปร่างหน้าตรงนั้นตรงนี้ ถึงจะใช้การแต่งเติมเข้าช่วยให้ดูดีมีสมดุลมากขึ้น แต่พอมองพิศดูให้ดีก็ไม่ได้สวยอย่างที่เห็นจากการเติมแต่งนั่น หนูพิมพ์รัมภาโชคดีที่มีองค์รวมของรูปร่างหน้าตาสะสวยรับกันเหมาะเจาะ พอแต่งเติมเข้านิดหน่อยก็เลยดูสวยมากยิ่งขึ้น”
“ขอบคุณค่ะ”
พิมพ์รัมภารู้สึกเขินอายบ้างก็จริง แต่ผู้หญิงก็ชื่นชอบกับคำชมเชยอยู่เสมอ และเธอรู้สึกได้ถึงความละเอียดอ่อนในการ
มองความสวยความงามของผู้หญิงจากผู้ใหญ่
“แต่ผู้หญิงที่สวยที่สุดของลุง จะต้องเป็นคนที่สวยทั้งภายนอกและภายใน เพราะจิตใจที่ดีจะช่วยเปล่งประกายความสวยอย่างแท้จริงออกมา อย่างหนูพิมพ์รัมภานี่ดูได้ไม่ยาก นอกจากกิริยาท่าทางหรือการพูดการจาแล้ว แววตาที่ช่วยเผยให้รู้ถึงความรู้สึกนึกคิดในจิตใจได้บ่งบอกเป็นอย่างดี จึงมีคำเปรียบเปรยกล่าวไว้ว่า...ดวงตา คือ หน้าต่างของดวงใจ...เพราะคนที่มีจิตใจดีหรือมีจิตสำนึกดีจะมีประกายแห่งความจริงใจหรือความสัตย์ซื่อฉายออกมาทางแววตา”
คุณมาตย์เมืองบอกความรู้สึกด้านดีที่เขามีต่อพิมพ์รัมภาอย่างเปิดเผย เพื่อต้องการบอกว่ายังมีเขาอีกคนหนึ่งที่ได้มองเห็นคุณงามความดีในตัวเธอ แม้จะเพิ่งได้เจอะเจอกันก็ตาม
คุณมาตย์เมืองบอกเล่าเรื่องราวครอบครัวของตนให้พิมพ์รัมภาฟังคร่าวๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวของทางไร่ที่มีหลานชายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงดูแลอยู่ และพูดถึงลูกชายบ้างเล็กน้อยเกี่ยวกับการต้องเปลี่ยนพยาบาลดูแลมาทุกเดือนหรือไม่ถึงเดือนตามที่พิมพ์รัมภาได้ข้อมูลมาจากคุณอิทธิพลผู้เป็นลุง และคุณสินธุได้บอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่เธอควรรู้คร่าวๆเอาไว้
“เป็นโชคดีของลุงที่เอาเรื่องของลูกชายไปปรึกษาเพื่อนเก่า ลุงอิทธิพลของหนูฟ้าได้ให้คำแนะนำดีๆมาหลายอย่าง และได้พูดเรื่องของหนูให้ลุงฟัง ลุงจึงขอให้เขาช่วยให้หนูมาพบลุง และต้องขอบใจที่หนูยอมช่วยครอบครัวของลุง”
คุณมาตย์เมืองมองหญิงสาวสวยตรงหน้าด้วยความรู้สึกรักเอ็นดู และเกิดความเชื่อมั่นว่าพิมพ์รัมภาจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่สามารถเอาชนะใจมาทิศลูกชายคนเดียวของเขาได้ เพราะนอกจากความสวยงามจากรูปลักษณ์สมนามแล้ว เด็กสาวผู้นี้ยังมีคุณลักษณะของความอ่อนหวานน่ารักเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้พบเห็นสามารถรักใคร่เอ็นดูได้โดยง่าย
เขารู้สึกถูกชะตากับพิมพ์รัมภาตั้งแต่แรกเห็น มีความยินดีที่จะได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ร่วมสกุล และเริ่มคิดแผนการจับคู่มาทิศกับพิมพ์รัมภาขึ้นทันที โดยคาดหวังว่าความใกล้ชิดของหนุ่มสาวจะทำให้เกิดความรักความเข้าใจให้ทั้งสองได้อยู่ครองคู่เป็นภรรยาสามีกันตลอดไป
“ขอบคุณค่ะ ที่คุณลุงเมตตาต่อหนู” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณที่ผู้ใหญ่ให้ความเอ็นดู
“หนูฟ้าเป็นหลานของอิทธิพลเพื่อนรักของลุง ก็เหมือนเป็นลูกหลานของลุงเหมือนกัน และลุงยังเชื่อว่าหนูจะทำหน้าที่ผู้ดูแลที่ดีให้ลูกชายของลุง”