รวมนิยายรักฯ...บทที่ 5 กุหลาบทะเลทราย...
เมื่อบ่าวรับใช้นำเครื่องดื่มของว่างกลับมา คุณแม่นมก็สั่งให้ไปทำงานอีกสองสามอย่าง เพราะอยากจะคุยกับเจ้านายสาวตามลำพัง นางรออย่างใจเย็นจนหญิงสาวละจากงานมานั่งกินของว่าง จึงเอ่ยถาม
“คุณหนูคิดยังไงเจ้าคะ”
“คิดยังไง อะไรจ๊ะแม่นม” ผู้ถูกบริวารทั้งบ้านเรียกว่าคุณหนู มองหน้าคนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดอย่างแปลกใจ
“ก็เรื่องเจ้าชายฮาคิมสิเจ้าคะ ท่านจะมาขอหมั้นหมาย ผู้ใหญ่ก็รับปากรับคำกันไปแล้ว” คุณแม่นมจันนามองสีหน้าเรียบเฉยอย่างค้นคว้า
“จะให้ฉันคิดอะไรกับคนที่ไม่รู้จักล่ะจ๊ะ ฉันไม่เคยพบเจอเจ้าชายเลยนะ ถ้าเจ้าชายไม่ถูกพระทัยในตัวฉัน การหมั้นหมายก็ยกเลิกไปเองแหละจ้ะ”
“แล้วถ้าคุณหนูไม่ถูกใจเจ้าชายล่ะคะ”
“ฉันคิดหาวิธีไว้แล้วละ” วารดาคิดวางแผนเอาไว้แล้วว่า จะทำอย่างไร ให้เจ้าชายฮาคิมปฏิเสธการหมั้นหมาย
“คุณหนูงามพร้อมออกอย่างนี้ มีหรือเจ้าชายจะไม่ถูกพระทัย คุณหนูไม่ต้องกลัวนะคะ บ่าวได้ข่าวมาว่าเจ้าชายองค์นี้มีพระสิริโฉมงดงามกว่าพระเชษฐาสองพระองค์อีกค่ะ”
“จะทรงงามหรือไม่งามไม่สำคัญหรอกจ้ะ ฉันยังไม่อยากออกเรือน และไม่อยากให้พระองค์ทรงชอบฉัน”
“เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ คุณหนูงดงามออกอย่างนี้ ไม่มีชายใดปฏิเสธหรอกค่ะ”
“ไม่แน่นะ เจ้าชายอาจไม่ชอบฉันก็ได้”
“เป็นไปไม่ได้ค่ะ”
“ต้องรอดูกันวันพรุ่งนี้ ตอนนี้แม่นมช่วยฉันดูรายการอาหารที่จะทำรับเสด็จก่อนดีกว่าว่าควรจะมีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า”
วารดาตัดบทด้วยการหยิบเอารายการอาหารที่พริ้นต์ออกมาส่งให้คุณแม่นมจันนาดู เพราะรู้ว่านางเชี่ยวชาญเรื่องอาหารพื้นบ้านหลายอย่าง แม้จะไม่ได้คาดหวังให้แขกพิเศษของบิดามารดามาพึงพอใจในตัวเอง แต่วารดาก็อยากทำอาหารไว้ต้อนรับทุกคนอย่างสุดฝีมือ
เมื่อได้รับคำชื่นชมว่าเข้าใจเลือกอาหารสำหรับแขกสำคัญก็จัดการส่งรายการวัตถุดิบที่ต้องใช้ทำให้บ่าวรับใช้คนสนิทนำไปให้ผู้ช่วยแม่ครัวที่สอนให้เรียนรู้การซื้อวัตถุดิบที่ต้องใช้ทุกครั้งและจัดการเตรียมทุกอย่างเอาไว้ตรวจดูอีกครั้งว่าขาดเหลืออะไร ก่อนจะแบ่งหน้าที่ให้ลูกมือทุกคนรับไปทำตามสูตรที่กำหนดและคอยตรวจสอบให้ตรงตามต้องการอย่างละเอียดรอบคอบ
“เป็นไงบ้างลูก เช้านี้แม่ไม่เห็นหน้าเลย”
คุณหญิงฟาติมาดึงร่างบอบบางเข้ามากอดหอมด้วยความรักเอ็นดูเสมือนธิดาสาวยังเยาว์วัย แม้สาวสวยน่ารักผู้นี้จะไม่ใช่ธิดากำเนิดจากครรภ์ แต่การได้เลี้ยงดูกันมาตั้งแต่แบเบาะก็รู้สึกผูกพันรักใคร่เสมือนลูกในอุทรของตัวเอง
“ขออภัยค่ะ คุณพ่อคุณแม่ ลูกมัวแต่คิดเมนูอาหารต้อนรับแขกสำคัญอยู่ค่ะ” เสียงหวานใสรายงานเจื้อยแจ้ว
“นี่ด้วยหรือเปล่าจ๊ะ ดูสีสันน่ากินจัง” คุณหญิงฟาติมามองบ่าวรับใช้รินน้ำสีเหลืองสวยในเหยือกใสที่ถือเดินตามธิดาสาวเข้ามาอย่างสนใจ
“วันนี้ลูกทำน้ำเสาวรสผสมเลมอนค่ะ” ผู้กล่าวหยิบแก้วเครื่องดื่มส่งให้มารดาบิดาด้วยมือตัวเอง
“อื้มหืม...รสกลมกล่อมชื่นใจดีจริงๆ แม่ชอบมากจ๊ะ รสชาติไม่เปรี้ยวไม่หวานจัด เหมาะกับวัยอย่างแม่กับคุณพ่อ”
“เขาว่าเสาวรสเป็นผลไม้ให้คุณประโยชน์มาก ผสมกับเลมอนอย่างนี้รสชาติดีดื่มแล้วชื่นใจ”
“ค่ะคุณพ่อ เสาวรสเป็นผลไม้ที่มีวิตามินแร่ธาตุสูงมากค่ะ อย่าง วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 กรดโฟลิก ธาตุแคลเซียม ธาตุเหล็ก ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโพแทสเซียม ธาตุสังกะสี และคาร์โบไฮเดรต โดยยังมีของแถมเป็นใยอาหารในปริมาณสูง ประโยชน์สำคัญ คือ มีสารต้านอนุมูลอิสระกับฟื้นฟูกำลังได้ดีมากค่ะ”
“ลูกแม่ฉลาดเลือกทำสิ่งดีๆที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพให้คุณพ่อกับแม่และคนในบ้านดื่มกิน มิเสียแรงที่ร่ำเรียนมา แม่ภูมิใจในตัวลูกจริงๆ”
“ลูกสาวพ่อเก่งอยู่แล้ว ว่าแต่ลูกคิดเมนูอาหารอะไรสำหรับแขกสำคัญบ้างไหนให้พ่อดูซิ”
ธิดาสาวยื่นรายการอาหารที่ตั้งใจนำมาให้ดูแก่บิดา ในรายการแยกอาหารคาวกับอาหารหวานไว้คนละแฟ้ม ทั้งสองแฟ้มทำเป็นตารางให้ดูเข้าใจง่ายว่ามีอะไรบ้าง อาหารคาว เมนูหลักเป็น สตูเนื้อกระต่าย ผัดเผ็ดเนื้อวัวอ่อน ย่างซอสพริกไทยดำซี่โครงแกะ ห่านอบซอสอัลมอนด์ ปลาทอดขมิ้น และ ข้าวบริยานีน่องไก่ กินกับเครื่องเคียงสลัดน้ำใส