บท
ตั้งค่า

รวมนิยายรักฯ...บทที่ 4 กุหลาบทะเลทราย...

“คุณหนู คุณหนูเจ้าขา บ่าวมีข่าวสำคัญมาบอกเจ้าค่ะ” คนมีข่าวถลาเข้ามานั่งเกือบจะแทบเท้าเจ้านายสาว

คุณแม่นมจันนามองตามตาเขียวปัด พร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอิดระอาใจในกิริยากระโดกกระเดกที่แก้ไม่หายของบ่าวรับใช้วัยยี่สิบสามปีที่ถูกเรียกว่าสาวเทื้อประจำบ้าน

“ต๊าย! ดูเอาเถอะเจ้าค่ะ แม่คนนี้ กระโดกกระเดกไม่หายสิน่า ออกมาห่างๆหน่อย คุณหนูท่านจะทำงาน”

คุณแม่นมจันนาหยิกหมับเข้าต้นขาบ่าวรับใช้ประจำตัวนายสาวที่วิ่งร้องแร่มาเป็นกระต่ายตื่นตูม

“โอ๊ย!เจ็บนะเจ้าคะ คุณนม” คนถูกหยิกร้องดังเกินเจ็บจริง แล้วรีบถอยออกมาทัน กลัวจะถูกเหน็บเนื้อให้เจ็บอีกที

“ว้าย! เรียกอะไร สอนไม่รู้จักจำว่าห้ามเรียกคำนี้ เมื่อไรหล่อนจะเลิกทำกิริยากะเปิ๊บกะป๊าบเสียที” คนถูกเรียกสะดุ้งโหยง ร้องดุลั่นตามหยิกซ้ำเข้าอีกที แถมค้อนตาปะหลับปะเหลือก

“แหม! คุณน...เอ๊ยคุณแม่นมก็...ก็บ่าวกำลังตื่นเต้นข่าวใหญ่ข่าวสำคัญอยู่นี่คะ”

“ข่าวใหญ่อะไรของหล่อนกันยะ แม่ตัวดี”

“คุณหนูเจ้าขา หยุดงานไว้ก่อนเถอะค่ะ บ่าวมีข่าวสำคัญมาจริงๆนะคะ”

เจ้าหล่อนไม่มีแก่ใจจะสนใจความเจ็บกับค้อนคมครั้งที่สองและตอบคำถามของคุณแม่นมหันมาอ้อนเจ้านายสาวให้ฟังข่าวที่ตนกำลังจะบอก

“ข่าวอะไรจ๊ะ ที่ว่าเป็นข่าวใหญ่”

คุณหนูของคนเรียกเงยหน้าขึ้นมองบ่าวรับใช้ประจำตัววัยห่างกันสามปี แต่ดูเหมือนผู้มีวัยสูงกว่าจะมีลักษณะที่คุณแม่นมจันนาชอบตำหนิว่า...ไม่รู้จักโต...ด้วยท่าทางหลุกหลิกขี้เล่นสนุกสนาน และตอนนี้ก็กำลังตื่นเต้นจนแทบจะเต้นแร้งเต้นกา

“บ่าวได้ยินคนในครัวเขาพูดกันว่าจะมีคนมาขอหมั้นคุณหนูอีกแล้ว คราวนี้มียศศักดิ์เป็นเจ้าชายทีเดียวค่ะ”

คนช่างเล่าใช้คำว่าอีกแล้ว เพราะข่าวนี้มีติดต่อกันมาสี่ห้าครั้งหลังจากเจ้านายสาวของตนกลับมาอยู่บ้าน แต่ต้องชะงักงันอย่างสงสัยที่เจ้านายกับคุณแม่นมไม่มีอาการตื่นเต้นกับข่าวใหญ่ของตนเลยสักนิด

“จะมาพรุ่งนี้ใช่ไหมล่ะ”

คุณแม่นมอมยิ้ม แล้วตอบแทนเจ้านายสาวที่ทำเพียงการพยักหน้ารับรู้แล้วหันไปทำงานต่อหน้าตาเฉย

“ใช่ค่ะ คุณแม่นมรู้แล้วหรือเจ้าคะ งั้นคุณหนูก็... ” เจ้าของข่าวใหญ่หน้าม่อยทันทีที่รู้ว่าข่าวใหญ่ของตนไม่ใช่ข่าวใหม่

“จ้ะ ฉันรู้แล้ว” เจ้านายสาวเงยหน้าบอกคนแจ้งข่าว

“แล้วคุณหนูไม่ตื่นเต้นเลยหรือคะ คราวนี้มีพระยศเป็นเจ้าชายเชียวนะ ไม่ใช่แค่ลูกขุนน้ำขุนนางหรือคนธรรมดาสามัญ พวกในครัวพูดกันว่าเจ้าชายองค์นี้รักความเป็นโสดนักหนาครองหนุ่มมาจวนจะแก่แล้วค่ะ” ผู้เป็นบ่าวพรรณนายืดยาวกับข่าวที่รับฟังมา หวังจะเห็นอาการตื่นเต้นสักเล็กน้อยจากเจ้านาย แต่กลับเป็นคนจวนแก่ที่ร้องตื่นตกใจแทน

“ต๊าย เอาที่ไหนมาพูดกัน แก่เก่อที่ไหน ฮึ แม่ตัวดี ” คุณแม่นมจันนาหน้าตาตื่นที่ได้ยินคำบอกเล่าของบ่าวรับใช้

“อ้าว! คุณแม่นมเจ้าขา ก็เขาว่าเจ้าชายเป็นโสดมาจนอายุจะสามสิบอยู่รอมร่อก็ต้องจวนแก่สิเจ้าคะ” ยังต่อปากต่อคำไม่ยอมหยุด

“พวกรู้มากปากเสีย เห็นทีต้องฟ้องคุณหญิงฟาติมาให้ทำโทษกันซะบ้างแล้ว โดยเฉพาะหล่อน แม่ตัวดี” คุณแม่นมชี้หน้าคนที่นำข่าวมาบอก

“ไม่เกี่ยวกับบ่าวนะ บ่าวแค่มาบอกต่ออีกที” รีบบอกปัดให้พ้นตัว

“ก็เหมือนกันละ เรื่องของเจ้าของนาย ไม่ใช่เรื่องจะเอามาพูดเป็นเรื่องสนุกสนานกัน” คุณแม่นมทำเสียงขึงขัง และต้องถอนหายใจดังที่คนฟังไม่มีอาการสลดเอาเสียเลย

“แต่บ่าวตื่นเต้นนี่คะ ผู้สูงศักดิ์จะมาหมั้นหมายคุณหนูทั้งทีก็น่าจะเป็นหนุ่มหล่ออายุไล่เลี่ยกัน คุณหนูเพิ่งจะสิบเก้า ถ้าเจ้าชายเกือบสามสิบ ก็ห่างกันเกือบสิบปี แต่งกับคนแก่ขนาดนี้จะดีหรือคะ” ผู้เป็นบ่าววาดภาพเจ้าชายเคราหงอกหลังงอไม่มีสง่าราศีที่เห็นว่าไม่คู่ควรกับความงามล่ำเลิศของเจ้านายสาว

“อายุไม่ถึงสามสิบจะแก่ได้ยังไง”

“แก่สิคะ คนเลี้ยงอูฐเลี้ยงจามรีที่ท้ายวังอายุสามสิบผมเผ้าหงอกขาวหมดแล้วนะ”

“เด็กบ้า นั่นมันคนงาน จะหาความงดงามมาจากไหน เจ้าชายที่จะมาหมั้นคุณหนูอยู่ในรั้วในวังนะ พระบิดาพระมารดาก็งดงามมีสง่าราศี พระโอรสจะแก่หรือขี้ริ้วขี้เหร่ได้ยังไง”

“แหม...ลูกไม่ได้เหมือนพ่อแม่ทุกคนนี่คะ เจ้าชายอาจจะตาเหร่หรือปากแหว่งหรือหลังค่อมจนไม่มีสาวคนไหนยอมแต่งเป็นชายาถึงได้อยู่มาจนอายุปานนี้”

“โอ๊ย...แม่ตัวดี หล่อนจะพูดให้คุณหนูของเราเป็นทุกข์เป็นกังวลทำไมยะ คุณหนูอย่าไปฟังนะคะ บ่าวเชื่อว่าท่านรัฐมนตรีกับคุณหญิงต้องเลือกคนที่งดงามและดีที่สุดมาเป็นคู่หมั้นหมายคุณหนูแน่นอนค่ะ”

“โอ...จริงด้วยค่ะ คุณหนูขา อย่าถือสาบ่าวเลยนะคะ บ่าวอยากให้คุณหนูได้คู่หมั้นหล่อๆเท่ๆแบบพระเอกหนังจะได้สมน้ำสมเนื้อกัน เจ้าชายนั่นอายุเยอะ แต่ก็อาจจะหล่อได้ค่ะ” ผู้เป็นบ่าวเปลี่ยนมาพูดเอาใจเจ้านาย

คุณแม่นมอดยิ้มไม่ได้ แม้เด็กสาวจะทำให้ตนไม่พอใจอย่างไร เมื่อนึกถึงเด็กหญิงตัวผอมโซหน้าตามอมแมมเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน นางก็ใจอ่อนกับหล่อนทุกที

บ่าวรับใช้คนนี้เป็นเด็กหญิงกำพร้าที่คุณหญิงฟาติมารับมาเลี้ยงดูตั้งแต่อายุสามขวบเพราะเวทนาที่พ่อแม่ตายและไม่มีญาติฝ่ายไหนต้องการ คุณหญิงฟาติมาสงสารรับไว้อุปถัมภ์และให้คุณแม่นมจันนาเป็นผู้อบรมสั่งสอนมาจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้ดังใจสักอย่าง

คุณหญิงฟาติมารับเด็กมาเลี้ยงดูได้หกเดือน ท่านทาเรจก็นำลูกสาวแรกคลอดมาฝากให้คุณหญิงฟาติมาเลี้ยงดูอีกคน คุณหญิงฟาติมาเป็นคนรักเด็กและไม่เคยรังเกียจเดียดฉันท์ลูกของภรรยาคนอื่นของสามีและอยากมีลูกสาวมานานจึงรักเอ็นดูคุณหนูวารดาเสมือนดั่งลูกสาวของตัวเอง คุณหญิงจึงถือว่าเด็กรับใช้คนนี้เป็นคนนำโชคดีมาให้และคุณแม่นมจันนาก็ได้ดูแลเลี้ยงดูเด็กทั้งสองมาจนเติบโต

คุณหนูวารดาเป็นแก้วตาแก้วใจของทุกคนในบ้านเนื่องจากเติบโตมาด้วยความว่านอนสอนง่ายและสนใจการเรียนรู้เรื่องงานบ้านงานเรือนจนเป็นที่รักยิ่งของคุณหญิงฟาติมาและท่านทาเรจและเติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะดุดตา

“หมั้นหมายแล้วก็ต้องแต่งงาน คุณหนูก็ต้องไปอยู่ในวัง บ่าวขอติดตามไปอยู่วังด้วยนะคะ” ผู้เป็นบ่าวร้องขอ

“แหม...ทีนี้ละจะตามเข้าวัง” คุณแม่นมหมั่นไส้

“อ้าว...บ่าวต้องเข้าไปรับใช้คุณหนูนะคะ”

“ให้การหมั้นหมายเสร็จสิ้นเสียก่อนเถอะ ไป ไป หาเครื่องดื่มหาของว่างมาให้คุณหนูรับประทาน วันนี้หล่อนยังไม่ได้ทำหน้าที่ประจำเลยนะ” คุณแม่นมตักเตือน เพราะคนบอกข่าวหายหน้าไปตั้งแต่หลังอาหารเช้า

“ค่ะ ค่ะ บ่าวจะรีบไปเอามาเดี๋ยวนี้”

กิริยาของคนจะรีบไป ใช้วิธีคลานเข่าคล่องแคล่วอย่างไวๆโดยไม่สนใจความเรียบร้อยสวยงามที่คุณแม่นมจันนาเห็นแล้วต้องส่ายหน้าเอือมระอาที่คอยดุว่าเป็นสิบครั้งก็ทำดีได้แค่สองสามครั้งเท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel