บท
ตั้งค่า

4. ปราบอนุบิดา[2]

“หลิงเอ๋อร์ เจ้าทำเช่นนี้ หากผู้ใดมาเห็นเข้าคงนึกว่าตระกูลมู่ของเราขาดแคลนทรัพย์จนคุณหนูของจวนเห็นเงินทองทีก็รีบหยิบประหนึ่งไม่เคยพบเคยเจอ”

อนุกัวหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากแขนเสื้อยกขึ้นปิดรอยยิ้มมุมปาก “เจ้าจะทำให้ท่านพ่อขายหน้าไม่ได้เชียว”

มู่เสวี่ยหลิงไม่มีความแค้นกับอนุกัว นางเข้ามาในตอนที่มารดาหรือฮูหยินใหญ่เสียไปได้ห้าปี ตอนนั้นมู่เสวี่ยหลิงเริ่มรู้ประสาแล้ว จะนับเอาอนุผู้หนึ่งเป็นมารดาได้อย่างไร แต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยไปยุ่งเรือนเล็กทั้งยังสั่งห้ามไม่ให้พวกอนุของท่านพ่อมาเรือนใหญ่โดยไม่ได้รับอนุญาต

อนุกัวยืนรอหาเรื่องนางเช่นนี้ นางจะไม่ตอบแทนก็คงไม่ใช่มู่เสวี่ยหลิงคนใหม่แล้ว นางผินกายกลับไปหาอนุกัว รอยยิ้มบางแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าจนทำให้ความงามของนางเฉิดฉายยิ่งขึ้นไปอีก อนุกัวเห็นเช่นนั้นก็เผลอตัวบิดผ้าเช็ดหน้าในมือจนมันแทบฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ

นางพยายามตั้งเท่าไหร่เพื่อให้มู่เสวี่ยหลิงเรียกนางว่าท่านแม่ หากคุณหนูใหญ่ของบ้านให้การยอมรับ ถึงนางจะตะกายไปไม่ถึงตำแหน่งฮูหยินใหญ่ แต่อย่างน้อยนางก็คงได้ตำแหน่งฮูหยินรอง

แต่นางเด็กคนนี่นอกจากจะไม่เรียกแล้วยังใจจืดใจดำ ไล่พวกอนุไปอยู่ด้านหลังเรือน ถ้าหากนายท่านไม่เรียกก็ห้ามมุดหัวออกมาด้านนอก แล้วอย่างนี้นางจะมัดใจนายท่านได้อย่างไร!

“ลี่ลี่” มู่เสวี่ยหลิงเรียกสาวใช้คนสนิทเสียงอ่อน

“เจ้าเอาของพวกนี้ไปเก็บไว้ในเรือนข้าให้หมด ไว้ข้าจะเลือกดูอีกที”

ลี่ลี่ทำงานข้างกายคุณหนูมานาน นางรีบพยักหน้ารับ ไม่มองสีหน้านายสาวให้เสียมารยาท

“เจ้าค่ะ คุณหนู”

อนุกัวมองตามหีบพวกนั้นด้วยสายตาเสียดาย นางถูกใจของไม่น้อย ยังคิดอยู่ว่าถ้าของชิ้นไหนมู่เสวี่ยหลิงไม่ถูกใจอาจจะตกมาถึงมือนางบ้าง ไม่คิดว่าคุณหนูใหญ่ผู้นี้จะกวาดเอาไปเสียหมด

นางรั้งรอนายท่านอยู่ในเรือนถึงสองปีเต็ม หวังใจว่านายท่านกลับมาจากการค้าครั้งนี้จะได้ปรนนิบัติรับใช้ให้ตำแหน่งมั่นคงเสียหน่อย หรืออย่างน้อยก็คงได้เครื่องประดับจากแดนไกลติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง ไม่นึกว่ามู่เสวี่ยหลิงช่างร้ายกาจนัก เก็บของพวกนั้นไว้กับตนเองทั้งหมด

“อนุกัว ข้าไม่ใช่ลูกเจ้าทั้งยังไม่ใช่ลูกบุญธรรมเจ้า เรียกข้าว่า หลิงเอ๋อร์ก็ออกจะเสียมารยาทไปบ้าง”

มู่เสวี่ยหลิงยิ้มเรียบเรื่อย นางลูบแหวนหยกบนเรียวนิ้วอย่างสบายอารมณ์ ทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ไม้ไม่ไกล

“ข้าเองก็ไม่เคยเรียกเจ้าว่าท่านแม่ กระทั่งแม่เล็กก็ไม่เคยหลุดปาก บ่าวไพร่นึกปีนหัวเจ้านาย ข้าจะไม่สั่งสอนก็คงจะไม่ได้ มีใครอยู่ข้างนอกบ้าง”

อนุกัวหน้าตาตื่น แต่ไหนแต่ไรมาหากนางพูดจากระทบกระเทียบมู่เสวี่ยหลิงก็แค่นำไปฟ้องนายท่าน มู่เหยียนจงเหนื่อยหน่ายใจกับนิสัยของบุตรสาว นอกจากเขาจะไม่สืบสาวเอาเรื่องแล้วเขายิ่งมาปลอบใจนางที่ถูกคุณหนูใหญ่รังแก แต่นี่อันใด เพียงไม่กี่ประโยคก็ผลักความผิดใส่หัวนาง มู่เสวี่ยหลิง นางบ้าไปแล้วหรือ!

“มู่เสวี่ยหลิง! เจ้าจะทำอันใด! ข้าเป็นอนุของบิดาเจ้า เจ้าจะรุนแรงกับข้าไม่ได้เด็ดขาด! ปล่อยข้า!”

มู่เสวี่ยหลิงยกยิ้มจาง มองอนุกัวถูกสาวใช้ร่างกำยำหลายคนกดให้นอนราบไปกับพื้น นางไม่มีความแค้นแต่ใช่ว่าจะปล่อยให้อนุพวกนั้นกำเริบเสิบสานได้ตามใจ วันหน้านางยังจะต้องแต่งไปบ้านสกุลหยวน ถ้าหากแม่สามีรู้ว่าตอนอยู่ในจวนนางปล่อยให้อนุเหยียบหัว ท่านป้าฉู่อาจจะสงสาร แต่ลึก ๆ ต้องรังเกียจที่นางไร้สามารถเป็นแน่ เพื่อให้งานแต่งของนางและหยวนเซิ่งเจ๋อราบรื่นที่สุด ไม่ว่าสิ่งใดที่นางทำได้นางย่อมลงมือ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel