3. หวนคืน[1]
“คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ” เสียงเล็กที่ดังวนเวียนอยู่ข้างหูทำมู่เสวี่ยหลิงนึกรำคาญใจ นางพลิกตัวไปอีกทาง ทั้งยังดึงผ้าห่มขึ้นปิดหน้าด้วย
“โถ่ คุณหนูเสวี่ยหลิง อย่าทำเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ นายท่านใกล้จะกลับจวนอยู่แล้วนะเจ้าคะ”
มู่เสวี่ยหลิงหงุดหงิดขึ้นมาจริง ๆ แล้ว นางผุดลุกขึ้นนั่ง โยนหมอนในมือลงพื้นทั้งยังกระชากเสียง
“ตายไปแล้วก็ยังจะถูกปลุกอีกหรือ-” ทว่าภาพสาวใช้ตัวน้อยที่นั่งคุกเข่าห่างออกไปไม่ไกลทำนางลืมคำพูดทั้งหมดทั้งมวลในปาก มู่เสวี่ยหลิงมือสั่นสะท้าน นางกวาดตามองเด็กสาวคนนั้นอีกครั้งก่อนเรียกอย่างไม่แน่ใจนัก
“ลี่ลี่?”
ลี่ลี่เห็นนายสาวของตนเองมีสีหน้าแปลกประหลาดก็นึกว่าตนเองทำสิ่งใดขัดใจเข้าอีกแล้ว นางรีบขยับกายเข้าใกล้ตั่งเตียง บีบนวดเรียวขายาวอย่างเอาอกเอาใจ
“เจ้าค่ะคุณหนู ลี่ลี่เองเจ้าค่ะ คุณหนูต้องการสิ่งใดหรือไม่เจ้าคะ”
มู่เสวี่ยหลิงตะลึงตะลาน นางมองคนอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่ใช่ว่าเจ้า...” ตายไปแล้วหรือ?
มู่เสวี่ยหลิงหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านี้ ไม่กล้าแม้จะเอ่ยจนจบ เมื่อปีนั้นที่นางไปจากเมืองเป่ย ลี่ลี่ติดตามนางไปด้วยและเพราะนางเลือกนรกให้ตนเอง ลี่ลี่จึงล่มจมไปด้วยกัน นางเสียชีวิตที่เมืองเกิด ส่วนลี่ลี่ถูกโบยตายอยู่ที่แห่งนั้น ไม่มีหลุมศพกลบฝังร่างทั้งยังไร้หนทางบอกญาติของนาง
“ไม่ใช่ว่าข้าอันใดหรือเจ้าคะ”
ลี่ลี่เด็กกว่ามู่เสวี่ยหลิงหนึ่งปี มู่เหยียนจงรับลี่ลี่เข้ามาเป็นเพื่อนเล่นของบุตรสาว นานวันเข้ามู่เสวี่ยหลิงก็นึกเอ็นดูจึงรับมาเป็นสาวใช้ข้างกาย
“คุณหนู หรือว่าอยากได้น้ำบ้วนปากก่อนหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะให้คนออกไปหยิบเดี๋ยวนี้”
“ไม่ ไม่ต้อง”
มู่เสวี่ยหลิงปฏิเสธเสียงแผ่วเบา นางยังมีสีหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งทั้งยังไม่กล้ามองหน้าลี่ลี่ตรง ๆ “เอาคันฉ่องมาให้ข้า”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
ลี่ลี่รู้แจ้งแก่ใจดีว่าคุณหนูของนางนั้นเป็นพวกรักสวยรักงามมากเพียงไร เครื่องประดับและอาภรณ์ที่เก็บอยู่ในหีบลึกบางอย่างก็ยังไม่เคยถูกหยิบมาใช้งานแต่มู่เสวี่ยหลิงก็ไม่อาจตัดใจโยนทิ้งไปได้เพราะหลงใหลในความงามของอัญมณีพวกนั้น นางคว้าคันฉ่องบานเล็กมาถือไว้ก่อนส่งให้มู่เสวี่ยหลิงที่ยังนั่งตัวแข็งอยู่บนเตียง
มู่เสวี่ยหลิงกลั้นหายใจ นางยกคันฉ่องในมือขึ้นสูง ภาพที่สะท้อนกลับเป็นเงาของนางเมื่อหลายปีก่อน เป็นนางในตอนที่ยังเป็นคุณหนูตระกูลมู่ผู้สูงส่งและร่ำรวยคนนั้น
ใบหน้าของนางยังงดงามไร้ร่องรอยความทุกข์ยากจนดูน่าเกลียด ฝ่ามือยังเพรียวบางและนุ่มนิ่ม ร่างกายยังคงอ้อนแอ้นมีน้ำมีนวล เรือนผมสีดำยาวสลวยประหนึ่งม่านน้ำตก
มู่เสวี่ยหลิงไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งสุดท้ายที่นางจำได้ก่อนวิญญาณหลุดลอยคือภาพของหยวนเซิ่งเจ๋อในตรอกข้างตลาด เขานอนอยู่ข้างร่างไร้ลมหายใจของนาง กอดนางไว้กับอกโดยไม่นึกรังเกียจ มิคาดว่าเพียงหลับตาหนึ่งตื่น นางจะย้อนกลับมาเป็นคุณหนูมู่เสวี่ยหลิงอีกครั้ง
มือที่ถือคันฉ่องกำแน่น นางเฝ้าฝันถึงโอกาสเช่นนี้มานับร้อยนับพันรอบ กระทั่งลมหายใจก็ยังนึกวาดหวังว่าจะได้แก้ไขความผิดพลาดของตนเอง
สวรรค์อุตส่าห์รับฟังคำขอร้องของคนบาปเช่นนี้ ยื่นโอกาสใส่มือให้นางได้มีชีวิตอีกครั้ง มู่เสวี่ยหลิงดวงตาวาวโรจน์ไปด้วยเพลิงไฟโทสะ ทั้งมือที่วางอยู่บนตักก็กำเข้าหากันแน่นจนรู้สึกถึงเล็บแหลมคมจิกเข้าในอุ้งมือ
ชีวิตของนางในครานี้นางจะปกป้องมันไว้ด้วยสองมือของนางเอง ก็อยากจะรู้นัก ว่าผู้ใดมันจะสามารถมาพรากลมหายใจของนางไป!