บทที่ 3 สร้างความ (ไม่) ประทับใจ
เมื่อเข้ามาในบ้านแล้ว ไป๋เหยาก็ให้คนนำชาอย่างดีมาให้มู่จินและมู่เฉินได้ดื่ม อีกทั้งยังให้แม่บ้านหลี่นำขนมที่มู่จินซื้อมาฝากไปจัดใส่จานอีกด้วย คนทั้งสองนั่งอยู่ที่ห้องรับรองไม่นานนักมู่เฉินก็เดินตามเข้ามา เขาหย่อนกายนั่งลงตรงหน้าไป๋เหยา และเอ่ยถาม
"วันนี้คุณลุงคุณป้าไม่อยู่เหรอ"
ไป๋เหยายิ้มให้เขา พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่สนิทและไม่ห่างเหิน
"วันนี้คุณพ่อมีประชุมค่ะ ส่วนคุณแม่อยู่ที่ร้านตัดเสื้อได้ยินว่าช่วงนี้ลูกค้าเยอะเพราะมีแบบชุดออกใหม่"
มู่เฉินพยักหน้ารับ ชายหนุ่มมองไปโดยรอบบ้านตระกูลไป๋ แม้ว่าคนตระกูลไป๋จะไม่ได้ร่ำรวยเท่ากับตระกูลมู่ของเขา แต่ก็นับว่ามีหน้ามีตาในสังคม
เขาหันกลับมามองไป๋เหยา และเอ่ยถามเธออีกครั้ง
"อาการบาดเจ็บของเธอดีขึ้นแล้วใช่ไหม"
ไป๋เหยายิ้มและพยักหน้า รู้สึกว่ามู่เฉินดูจะสนใจเธอมากกว่าแต่ก่อน อีกทั้งท่าทีของเขาก็ไม่ได้คุกคามเธอเช่นในชาติก่อนอีก
ในตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจว่ามู่เฉินจะมีใจชอบพอในตัวเธอตั้งแต่เมื่อใด แต่เมื่อชาตินี้รู้แล้วว่าเขาคิดยังไง เธอกลับรู้สึกว่ามันช่างอึดอัดเหลือเกิน
มู่เฉินนั้นควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ทั้งนักร้องในบาร์ ดาราสาวชื่อดัง เขาก็ควงพวกหล่อนมาทั้งหมด เธอไม่ชอบเขาตรงนี้
อีกอย่างชาตินี้เธอขอใช้ชีิวิตคนเดียวดีกว่า เธอไม่อยากถูกทำร้ายเพราะความรักอีกแล้ว
เมื่อคิดเช่นนั้นไป๋เหยาจึงเอ่ยตอบมู่เฉิน
"ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ขอบคุณน้าเล็กที่เป็นห่วง"
ด้านมู่จินนั้นเพราะมัวแต่สนใจเรื่องสมุดที่จดบันทึกเนื้อหาการเรียน จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นความกระอักกระอ่วนใจของเพื่อนรักเลยแม้แต่น้อย
ไป๋เหยาเห็นว่ารออยู่นาน แม่บ้านหลี่ก็ยังไม่ออกมาเสียที เธอจึงขอตัวไปดูเสียหน่อย แม่บ้านหลี่ก็อายุมากแล้ว แต่เพราะเป็นคนที่คุณแม่ไว้ใจจึงได้ทำงานที่นี่ต่อ
เมื่อมาถึงก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ แม่บ้านหลี่กำลังเตรียมชา ท่าทางดูเชื่องช้าไม่น้อย ไป๋เหยายิ้ม เธอรีบเข้าไปช่วยทันที แม่บ้านหลี่ค่อนข้างแปลกใจอยู่ในที ปกติแล้วคุณหนูของเธอมักจะอารมณ์เสียทุกครั้งเมื่อเห็นเธอทำงานช้าและต่อว่าเธอหลายครั้ง แต่ครั้งนี้คุณหนูกลับไม่ต่อว่าเธอและยังบอกว่าจะจัดการเอง แม่บ้านหลี่ยิ้มเล็กน้อยและไม่เอ่ยอะไรอีก
เพียงไม่นานไป๋เหยาก็เตรียมชาเสร็จ เพราะคนงานในบ้านเธอไม่ได้มีมากนัก สิ่งไหนทำได้คุณพ่อคุณแม่ก็มักจะสอนเธอว่าให้ทำเองจะได้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย การหยิบจับทำเรื่องบางอย่างเองนับว่าเป็นเรื่องดี ถึงจะมีเงินมากแต่เงินนั้นหากใช้ไม่เป็นก็อาจจะหมดไปได้สักวัน การประหยัดกับเรื่องที่ควรประหยัดนับว่าเป็นเรื่องดี
ในขณะที่ไป๋เหยากำลังจะไปยกกาน้ำชาออกไป ก็พบเข้ากับมู่เฉินเสียก่อน เขาเดินเข้ามาอย่างกระทันหันจนเธอตกใจ หญิงสาวเองก็ตกใจเช่นกันจึงทำกาน้ำชาร่วงลงบนพื้น น้ำชาร้อนๆราดรดไปที่เป้ากางเกงของมู่เฉินทันที ชายหนุ่มร้องเสียงหลง ส่วนไป๋เหยาเองก็อุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก
"น้าเล็ก ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ ตายแล้ว ทำยังไงดี"
ไป๋เหยาลนลานแล้ว เธอรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหยิบผ้ามา ในขณะที่คิดจะเข้าไปช่วยเช็ดก็นึกขึ้นมาได้ว่ามันไม่ถูกต้อง
เธอเป็นผู้หญิงจะถือผ้าไปช่วยเช็ดเป้ากางเกงให้ผู้ชายแบบนี้ได้ยังไงกัน
ให้ตายเถอะ!
มู่เฉินเองก็ขยับถอยหลังสองก้าวเช่นเดียวกัน เขาคิดไม่ถึงว่าไป๋เหยาจะลนลานถึงขนาดวิ่งไปหยิบผ้ามาหมายจะเช็ดเป้าให้เขาอย่างโจ้งแจ้งเช่นนี้
ชายหญิงสองคนมีท่าทางประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นมู่เฉินที่เอ่ยขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศแปลกพิกลนี้
"ฉันไม่เป็นอะไร ไม่ได้ร้อนมากนัก"
"ฉันจะให้คนไปหาซื้อเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้น้าเล็กนะคะ"
"ไม่ต้อง ฉันไม่เป็นอะไร แต่คงต้องขอตัวพามู่จินกลับบ้านก่อน อยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อหน้าพวกเธอคงไม่ดีนัก"
ไป๋เหยาหยักหน้าอย่างรู้สึกผิด ให้ตายเถอะ เพิ่งจะได้เจอเขาครั้งแรก นอกจากจะไม่สร้างความประทับใจให้เขาแล้ว เธอยังเกือบจะทำลายมู่เฉินน้อยให้สูญพันธ์อีกด้วย
แย่มาก แย่มากจริงๆ!
ด้านมู่จินที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็รีบเข้ามาดู หญิงสาวตกใจเป็นอย่างมาก เธอจึงรีบบอกลาไป๋เหยาและบอกว่าจะมาหาใหม่ ไป๋เหยาพยักหน้ารับพร้อมกับลอบมองมู่เฉินเป็นระยะ เห็นเพียงชายหนุ่มมีสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงท่าทางโกธรหรือเอ่ยปากตำหนิอะไรเธอเลยแม้แต่น้อย
ไป๋เหยายกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองด้วยความอับอาย
ด้านมู่เฉินเมื่อขึ้นมานั่งบนรถแล้วเขาก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีก มู่จินที่นั่งอยู่ข้างๆ จึงเปิดปากถามน้าเล็กของตนด้วยความสงสัย
"นี่น้าเล็ก น้าไปทำอะไรให้เหยาเหยาโมโหหรือเปล่า เธอถึงสาดชาร้อนใส่น้าแบบนี้ ซ้ำยังสาดมาที่... ให้ตายเถอะ ฉันต้องหัวเราะหรือสงสารน้าดี"
"หุบปากไปเลยจินจินตัวแสบ"
มู่จินเบ้ปากพร้อมกับลอบขบขันน้าเล็กของตัวเอง แม้จะมีศักดิ์เป็นน้าเล็กแต่เขากลับมีอายุไม่ได้ห่างจากเธอมากเท่าใดนัก ปีนี้เธออายุสิบแปด ส่วนน้าเล็กของเธอปีนี้อายุยี่สิบหกปีแล้ว เขาค่อนข้างสนิทสนมกับเธอมาก น้าเล็กหน้าตาหล่อเหลา หญิงสาวที่ได้พบเห็นต่างชื่นชอบน้าเล็กมาก แต่น้าเล็กของเธอมักจะติดนิสัยชอบควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า คาดว่าก่อนหน้านี้คงจะไปลวนลามไป๋เหยาก็เลยถูกเพื่อนรักของเธอสาดชาร้อนใส่กางเกงเข้าให้
สมน้ำหน้า!
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลมู่ มู่เฉินก็รีบจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของตนเองทันที แล้วจึงเดินลงมาที่ชั้นล่าง และพบว่าคุณแม่ของเขาและพี่สาวเพิ่งจะกลับมาจากข้างนอก
ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆพร้อมกับเดินเข้าไปหา
"คุณแม่ พี่สาว กลับมาแล้วเหรอครับ"
คุณนายมู่เมื่อเห็นลูกชายก็ยิ้มและเอ่ยอย่างอ่อนโยน
"ใช่แล้ว แม่ซื้อลูกพลับมาฝากลูกด้วยนะ"
"คุณแม่น่ะใส่ใจแกมากเลยล่ะ แกก็ทำตัวให้ดีๆหน่อย เลิกควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าได้แล้ว และก็อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไม่ดีเชียวล่ะ"
มู่หลิง ผู้เป็นพี่สาวเอ่ยขึ้นมาอย่างหยอกเย้า มู่เฉินยิ้มและพยักหน้า
"ครับ ผมจะเป็นคนดีเพื่อคุณพ่อคุณแม่และพี่นะ"
"จ๊ะ"
เมื่อสนทนากันพอใจแล้ว คุณนายมู่และมู่หลิงก็แยกย้ายไปพัก เหลือเพียงมู่เฉินที่ยืนอยู่ในห้องรับรองแขกเพียงลำพัง ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเล็กน้อยและครุ่นคิดในใจ
ชาตินี้เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไม่ดีอีกแล้ว เขาจะทำให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุข
และที่สำคัญเขาจะพยายามไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องของไป๋เหยาอีก เขาไม่อยากถูกเธอต่อว่าด่าทอให้เจ็บปวดใจอีกแล้ว!