บทที่ 10 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ในคำพูดของเขา มันมีอะไรบางอย่างแผงอยู่ในนั้น เขาไม่รู้จะอธิบายเรื่องทุกอย่างให้เธอฟังได้ยังไง เขาอยากจะขอเวลาในการปรับตัวเป็นปู่ทวดของเขาสักหน่อย ตอนแรกเขาคิดว่าอาจจะอยู่แบบนี้แค่ไม่นาน แต่หลังจากที่เขาฝันถึงปู่ทวด เขาก็ไม่คิดถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว
หากเขาต้องอยู่ในร่างนี้ไปตลอด เขาต้องปรับตัวใหม่อีกครั้ง ไหนจะเรื่องย่าทวดของเขาอีก เขาต้องกลายเป็นสามีของย่าทวด และนอนร่วมเตียงกัน เขาจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี หากเขาต้องรับทำหน้าที่ทุกอย่างแทนปู่ทวดของเขา นั่นก็แปลว่า เขาจะต้องมีความสัมพันธ์เกินเลยกับเธอด้วย เรื่องนี้ทำให้เขาคิดหนัก
“ได้ค่ะ งั้นฉันกลับก่อนนะคะ”
หลังจากที่ลู่ชิงกลับไปแล้ว อันอันเลขาของเฉิงเยว่ก็เข้ามา
“ประธานหยาง วันนี้ฉันต้องขอกลับก่อนนะคะ คงไม่ได้อยู่ช่วยคุณทำงาน” เธอบอก รอบดวงตาก็แดงด้วย
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?” เขาถาม เพราะเห็นว่าเลขาสาวดูจะอาการไม่ค่อยดี เธอร้องไห้?
“มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน”
“เรื่องส่วนตัวเหรอ? อยากให้ผมช่วยอะไรก็บอกนะ”
“ไม่ได้มีอะไรมากหรอกค่ะ ฉันแค่คิดว่าตอนนี้ แฟนของฉันกำลังนอกใจ” เธอบอก และน้ำตาก็ไหล
เฉิงอี้ดึงทิชชูขึ้นมาสามแผ่น และยื่นให้เธอ “งั้นช่วงนี้คุณหยุดพักผ่อนก่อนก็ได้ เคลียร์เรื่องของคุณให้จบ แล้วค่อยกลับมาทำงาน”
“ขอบคุณค่ะ” เธอรับทิชชูมาซับน้ำตา “แต่ฉันไม่จำเป็นต้องหยุดงานค่ะ วันนี้ฉันแค่เสียใจ แต่หลังจากนี้ ฉันจะเข้มแข็งและลืมผู้ชายคนนั้นไปได้”
“ดี ผมเป็นกำลังใจให้”เขาส่งยิ้มให้ “งั้นคุณก็กลับก่อนเถอะ ไปพักผ่อนซะ เรื่องงานไม่ต้องเป็นห่วง”
“ค่ะ ฉันลานะคะ”
เพราะเห็นว่าเลขาสาวอาการไม่ค่อยดีเขาเลยต้องใส่ใจ เฉิงอี้มองว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายหรือลูกน้อง หากใครเจ็บป่วยหรือมีปัญหา เมื่อเขาที่เป็นเจ้านายรับรู้ เขาควรต้องใส่ใจ
เวลา 23.00 น. เฉิงอี้กลับไปถึงบ้าน เขาพยายามทำตัวให้เงียบที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้ลู่ชิงตื่นขึ้นมา เขาหยิบผ้าเช็ดตัวและเดินเข้าไปในห้องน้ำ ใช้เวลาไม่นานก็ออกมา
ลู่ชิงนั่งอยู่บนเตียงมองเขา และถาม "คุณพึ่งกลับมา? "
เขาถือผ้าเช็ดผม แล้วตอบ "ใช่ แล้วคุณตื่นมาทำไม หรือว่าผมทำเสียงดังจนคุณต้องตื่น? "
"เปล่า ฉันรอคุณอยู่แล้ว " เธอตอบ ลุกขึ้นเดินไปหาเขา หยิบผ้าเช็ดผมที่เขาถืออยู่มาไว้ในมือ " คุณนั่งลงก่อน ฉันจะเช็ดผมให้คุณ" เธอบอก " งานเยอะมากเลยเหรอ ทำไมถึงกลับดึกล่ะ"
"นิดหน่อย ทำไมต้องรอ" เขาจ้องเธอผ่านหน้ากระจก
"ฉันอยากนอนพร้อมคุณ!"
เฉิงอี้ทำตัวลำบาก เขาจะทำยังไงดี เธอคือย่าทวดของเขา ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งก็ไม่เคยมีต่อกัน อีกอย่าง เขาไม่ได้รักเธอ
"คุณไปนอนก่อนเถอะ"
ลู่ชิงถอนหายใจ " คุณมีอะไรหรือเปล่า อยากให้ฉันช่วยไหม งานที่บริษัทคุณสามารถบอกฉันได้" เธอถามอย่างเป็นห่วง
"ไม่มีอะไร ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อย งานทุกอย่างที่ผมทำล่วงเวลา ก็เพราะต้องศึกษาเพิ่มเติมเท่านั้น"
"อ่อ" เธอพูดสั้น ๆ
"อย่าใส่ใจเกินไป"
"ฉันเป็นภรรยาของคุณ หากคุณไม่สบายใจอะไรก็บอกฉันได้"
"อย่ากังวลเรื่องนั้น" เฉิงอี้บอก
ลู่ชิงไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ แต่ก็เข้าใจว่าเขาพึ่งตื่นขึ้นมาได้ไม่นาน แล้วยังเสียความทรงจำด้วย เธอหวังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก็คือช่วยให้เขาฟื้นความทรงจำได้ในเร็ววัน
"งั้นฉันจะนอนแล้ว"
"ฝันดี"
หนึ่งเดือนผ่านไป หลายครั้งที่เฉิงอี้ทำให้ลู่ชิงรู้สึกน้อยใจ แต่เธอก็คิดว่าเป็นเพราะเขาความจำเสื่อม เธอจึงปล่อยไป แต่อย่างน้อย เธอก็อยากให้เขาใส่ใจเธอบ้าง ในเมื่อเขาก็รู้ว่าเธอคือภรรยาของเขา
เขาเอาแต่ทำงานล่วงเวลา ไม่ค่อยได้ทานอาหารเย็นร่วมกัน กลับบ้านก็ดึกดื่น มักเป็นเวลาที่เธอนอนหลับไปแล้ว
วันถัดมา เฉิงอี้ออกไปทำงานแต่เช้า แม้แต่อาหารเช้าเขาก็ไม่กิน ลู่ชิงที่ตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารให้เขา เธอจึงต้องเอาอาหารใส่กล่องแล้วเอาไปให้เขาที่บริษัท
เฉิงอี้มาทำงานก็เจอเลขาสาวนั่งตรวจเอกสารอยู่หน้าห้องทำงานของเขา เขาคิดว่าวันนี้เลขาสาวอาจจะลาหยุดตามที่เขาได้พูดไว้เมื่อวาน
“สวัสดี อันอัน” เขาทักทายเธอ
“สวัสดีค่ะ ประธานหยาง” เธอยิ้มตอบทักทาย
“คุณโอเคดีใช่ไหม?”
“ค่ะ ฉันสบายดี”เธอตอบ พร้อมกับหยิบอาหารเช้าขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ “ท่านประธานทานอาหารเช้ามาหรือยังคะ”
“ยังเลย ผมขอกาแฟสักแก้วแล้วกัน”
อันอันหยิบกล่องแซนด์วิชขึ้นมาหนึ่งกล่อง“งั้นเอาแซนด์วิชกล่องนี้ไปทานด้วยนะคะ ฉันซื้อมาสองกล่อง เดี๋ยวจะชงกาแฟเข้าไปให้ค่ะ”
“งั้นก็ดี ขอบใจ” เขาหยิบกล่องแซนด์วิชในมือของเธอ แล้วมอง “งั้นนั่งทานด้วยกันดีกว่า จะได้ไม่เหงา” เขาเดินไปนั่งที่โซฟารับรองแขก
เลขาสาวจ้องมองเขา “ค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันไปชงกาแฟมาให้นะคะ” เธอบอก แล้วเดินไปชงกาแฟ
อันอันชงกาแฟมาวางบนโต๊ะให้เขา แล้วเธอก็นั่งลงโซฟาฝั่งตรงข้าม ทั้งสองนั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน และพูดคุยกัน อันอันได้บอกกับเขาไปว่า เธอกับแฟนได้เลิกกันแล้ว เพราะเขานอกใจเธอ อีกอย่าง เธอกำลังตั้งครรภ์ เฉิงอี้รู้สึกเห็นใจเธออยู่ไม่น้อย ผู้หญิงดี ๆ แบบนี้ ทำไมถึงต้องถูกทำร้ายจิตใจด้วย! เขาคิดในใจ
“ฉันทานเสร็จแล้ว” เธอบอกและลุกขึ้นยืน แต่เธอเกือบล้ม โชคดีที่เฉิงอี้รับไว้ทัน
“อันอัน คุณโอเครไหม” เขาถามอย่างเป็นห่วง
ลู่ชิงเดินมาตรงทางเดินพอดี เธอเห็นเหตุการณ์นั้นและเข้าใจผิด แต่เธอไม่พูดอะไร เธอถอยหลังไปอยู่ตรงมุมกำแพง
“ขอบคุณค่ะ ฉันโอเค”
“ผมให้คุณหยุดพักได้ หากคุณไม่สบาย”
“ไม่เป็นไรค่ะ คงเป็นเพราะว่าฉันลุกเร็วเกินไป ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ตอนนี้ฉันสบายดีแล้ว” เธอบอกและส่งยิ้มให้เขา บอกให้รู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร
“วันนี้ผมอนุญาตให้คุณหยุดงาน”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันทำ….”
“นี่คือคำสั่ง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เลขาสาวอยากบอกว่าเธอทำงานไหว แต่เมื่อเขายืนยันคำพูดแบบนี้แล้ว เธอก็ไม่ควรปฏิเสธ “ค่ะ งั้นฉันจะกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้ฉันจะกลับมาทำงาน”
เฉิงอี้พยักหน้า “ได้ มีอะไรให้โทรหาฉัน”
“ค่ะ” เธอพยักหน้าตอบ รู้สึกขอบคุณน้ำใจและความเป็นห่วงเป็นใยของเจ้านายมาก
ลู่ชิงรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อไม่ให้พวกเขาเห็นเธอ อันอันเก็บของเสร็จเธอก็แวะเข้าไปห้องน้ำก่อน และได้เจอกับลู่ชิงในห้องน้ำ
“รองประธานไป๋” เลขาสาวเอ่ยทัก
“อันอัน สวัสดีตอนเช้า” เธอทักทายปกติ
“สวัสดีตอนเช้าค่ะ” เลขาสาวตอบ “พึ่งมาถึงเหรอคะ” เธอถาม
“ใช่ เฉิงเยว่ออกมาทำงานก่อน ฉันจึงมาทีหลัง เอาอาหารเช้ามาให้เขาด้วย” เธอยกถุงอาหารขึ้น
“อ๋อ ค่ะ” เลขาสาวตอบรับ อยากจะบอกว่าประธานหยางทานอาหารแล้ว แต่ก็กลัวเสียน้ำใจเธอ “ท่านประทานคงอยู่ในห้องทำงานค่ะ วันนี้ฉันไม่ค่อยสบาย ท่านประธานเลยสั่งให้หยุดงาน กำลังจะกลับแล้วค่ะ”
“คุณไม่สบายเหรอ? งั้นก็กลับไปพักผ่อนเถอะ”
“ค่ะ ฉันลานะคะ”
ทั้งสองแยกทางกันในห้องน้ำ ลู่ชิงจึงถือถุงอาหารเข้ามาในห้องทำงานของเฉิงเยว่ เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป เขากำลังนั่งดูเอกสารบนโต๊ะ