บท
ตั้งค่า

เด็กน้อย 1

3

เด็กน้อย

หานฉงหรงไปได้ยืนรออยู่ตรงปากทางเข้าตรอกชิงฮวาตามที่บอกไว้กับฉางซื่อหลาง กลับเพียงเดินไปอย่างไม่เร่งร้อนเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ห่างหายไปนานและเคยคิดว่าจะไม่มีโอกาสกลับมาอีกแล้ว

แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็ให้รู้สึกผะอืดผะอมจนต้องเอามือปิดปากตนเอง สตรีสองคนตบตีกันเพราะบุรุษสารเลวเพียงผู้เดียว ถ้าผู้ที่ลงมือนั้นเป็นนางในอดีตที่ยังถูกซื่อหลางปิดหูปิดตาจนมืดบอดไม่ใช่หลินหลาง คงทำให้บิดาและสกุลหานอับอายขายหน้าเป็นแน่

เนิ่นนานกว่าที่หานฉงหรงจะยอมเอามือออกจากปากตนเอง นางถอนใจอย่างแช่มช้า ทำท่าจะเดินกลับไปที่บ้านของตน ทว่านางกลับต้องชะงักอยู่กับที่เหมือนถูกบางอย่างกอดรัดตรึงขาเอาไว้

เมื่อก้มลงมองก็เห็นเด็กชายที่อายุประมาณสามสี่ขวบคนหนึ่ง ตาสองข้างวามแววดั่งดวงดารา พวงแก้มกลมยุ้ย ริมฝีปากแดงอิ่มดังผลอิงเถา ช่างเป็นเด็กที่น่ารักน่าเอ็นดูเหลือประมาณ

โดยไม่ได้ตั้งใจ...สายตาของหานฉงหรงเผลอมองใบหน้าของเด็กชายซ้อนทับกับลูกน้อยของตนเอง...ลูกน้อยวัยเก้าเดือนที่สิ้นลมหายใจพร้อมกับนางในเพลิงผลาญซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีต่อมา...สองตาของนางพลันรื้อรื้นไปด้วยหยาดน้ำตาที่จวนเจียนจะหยดด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ นางย่อกายลงพร้อมลูบศีรษะทุยของเด็กน้อยไปมา “เด็กดี พ่อแม่ของเจ้าอยู่ที่ไหนกัน”

เด็กน้อยไม่ตอบหานฉงหรงในทันที เพียงผละมือจากชายกระโปรงของฉงหรงที่จับไว้แน่นมาจับที่มือนุ่มนิ่มปานไร้กระดูกของหานฉงหรงแล้วส่งเสียงปานไข่มุกกระทบจานหยก จับใจคนฟังยิ่ง

“แม่”

ยิ่งได้ยินเช่นนี้หัวใจของหานฉงหรงพลันอ่อนยวบ นางอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอก ก่อนแนบริมฝีปากกดจูบที่แก้มนุ่มนิ่มปานก้อนแป้งหมี่

อย่างมิอาจอดใจไหว

ถ้าลูกชายของนางยังมีชีวิตอยู่คงเติบโตอย่างแข็งแรงเช่นนี้ น่ารักเช่นนี้..

หลังจากกอดหอมฟัดจนพอใจแล้ว นางก็ล้วงหยิบขนมเม็ดบัวคลุกผงกุ้ยฮวาที่เก็บเอาไว้ออกมาจากแขนเสื้อ ป้อนให้เด็กน้อยไปหลายคำ ซึ่งเขาก็ไม่มีอาการตื่นกลัว กลับกัดกินขนมจนหมด ทั้งยังอ้าปากดังลูกนกร่อนปากร้องขออาหาร ขณะที่หานฉงหรงกำลังสอดส่ายหาร้านขนมเพื่อซื้อเพิ่ม หางตาจึงเหลือบไปเห็นบุรุษผู้หนึ่งกำลังวิ่งตรงมาทางนี้พอดี

“อง...ไม่สิ คุณชายน้อย ที่แท้ท่านก็อยู่ที่นี่” ชายผู้นั้นทั้งที่ริ้วรอยบนใบหน้าบ่งบอกว่าชีวิตเข้าสู่วัยกลางคน ทว่ากลับไร้หนวดเคราที่คนวัยเดียวกันพึงมี น้ำเสียงที่แม้จะดัดให้ดูแหบห้าวอย่างไรก็ยังแหลมเล็ก อีกทั้งยังแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเนื้อดี ยังไม่นับปิ่นและกวานที่เรียบหรู ต่อให้นางคาดเดาอย่างส่งเดชเด็กคนนี้ก็คงเป็นเชื้อพระวงศ์สูงศักดิ์เป็นแน่

“คุณชายน้อยผู้นี้เป็นคนของท่านหรือ? ข้าเห็นเขาเดินหลงทางมาที่ข้าจึงอุ้มเขาไว้ให้ จะได้ไม่หลงทางไปที่อื่น” หานฉงหรงอธิบายเสียงนุ่ม

เมื่อเห็นว่าหานฉงหรงไม่มีกิริยามารยาทอย่างสตรีชาวบ้านทั่วไป ทั้งการแต่งกายที่แม้ไม่ได้ประดับเครื่องประดับมากมายนัก แต่ทุกชิ้นล้วนมีค่าเหมาะสมกับเจ้าตัว ก็ให้นึกเกรงใจหลายส่วน จากเดิมที่คิดจะส่งตวาดวางอำนาจก็ลดเสียงอ่อนลง “ขอบคุณแม่นางที่ช่วยดูแลคุณชายน้อยของข้า

แต่ว่าตอนนี้นายท่านของข้ากำลังจะเดินทางกลับแล้ว คงต้องขอให้แม่นางส่งคุณชายน้อยคืนให้ข้าด้วย”

แม้จะอยากรั้งเด็กน้อยไว้ ทว่าลูกผู้อื่นอย่างไรเสียก็เป็นลูกของผู้อื่น หานฉงหรงจึงส่งเด็กชายตัวน้อยคืนให้อย่างไม่อิดออด ทว่าเด็กชายกลับยกมือกอดคอหานฉงหรงไว้แน่น ทั้งยังเบะปากเอ่ยเสียงเครือ “ท่านแม่...ช่วยด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวใจของหานฉงหรงประหนึ่งร่วงลงตาตุ่ม คล้ายเด็กน้อยคนนั้นคือเลือดในอกของนางที่กำลังร้องไห้ขอความช่วยเหลือ นางกระชับอ้อมกอดแน่นก่อนต่อรองเสียงอ่อน “พี่ชายท่านนี้ คุณชายน้อยของท่านคงงอแงเพราะเหนื่อยและง่วงนอน ขอท่านอย่าได้บังคับ เอาเป็นว่าข้าจะอุ้มเด็กคนนี้เดินตามท่านไปยังที่พักเอง ดีหรือไม่”

ขันทีผู้นั้นท่าทางลังเล ยังไม่ทันที่จะตอบรับข้อเสนอของหานฉงหรง พลันมีเสียงๆ หนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง น้ำเสียงนั้นแม้เรียบนิ่งทว่าทรงอำนาจอย่างบอกไม่ถูก

“หลี่ฉาง เวลาสายป่านนี้แล้วยังไม่พาหลานข้ากลับบ้านอีก”

เมื่อหานฉงหรงมองอีกฝ่ายเต็มตาก็เห็นว่าเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มปักลายมงคล กวานสีเงินฉลุลวดลายเรียบหรูยิ่งเสริมส่งให้ใบหน้าหล่อเหลาดูงามสง่าขึ้นเปี่ยมบารมีเป็นเท่าตัว ถ้าไม่ติดว่าอุ้มหนูน้อยเอาไว้ หานฉงหรงคงเข่าทรุดอยู่เบื้องหน้าเขาเป็นแน่

“นายท่าน” ขันทีผู้นั้นรีบรายงาน ท่าทางนอบน้อมอย่างยิ่ง “คุณชายน้อยดูท่าจะชอบแม่นางผู้นี้มาก ทั้งร้องไห้ ทั้งกอดไม่ยอมปล่อย ข้าน้อยเลยคิดว่าจะให้แม่นางผู้นี้ตามข้าน้อยไปยังโรงเตี๊ยมเพื่อส่งคุณชายน้อยกลับ”

บุรุษผู้นั้นทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จึงยื่นมือไปยื้อยุดแขนป้อมของหลานชายที่อยู่ในอ้อมกอดของฉงหรงจนน้ำตาร่วงเผาะ

“ท่านอย่า!”

หานฉงหรงเห็นเช่นนั้นจึงยกมือตีแขนใหญ่ของชายหนุ่มอย่างลืมตัว เสียงเผียะดังกังวานก้องจนขันทีผู้นั้นหัวใจแทบหลุดกระเด้งกระดอนออกมาจากปาก ผู้ติดตามชายร่างใหญ่ผู้นั้นก็พากันเงียบกริบ เงียบงันราวกับความตายมาเยือนตรงหน้า

บุรุษผู้นั้นมองแขนตนเองที่เป็นรอยแดงจางๆ สีหน้ามืดครึ้มดั่งเมฆาฟ้าคำรณ หานฉงหรงที่รู้ตัวว่าล่วงเกินคนตรงหน้า แม้ว่าจะหวาดกลัวจนแทบจะเป็นลมแต่ก็ยังพยายามใจดีสู้เสือ “คุณชายโปรดอภัย คุณชายน้อยยังเล็ก ท่านอย่าได้รุนแรงกับเขา”

ชายหนุ่มหลุบตาลงมองหญิงสาว มองนางที่ยังลูบหลังลูบไหล่ปลอบเด็กชายตัวน้อยอย่างรักใคร่ทะนุถนอมก็พาให้โทสะที่คุกรุ่นลดลง เพียงแต่เอ่ยเสียงเรียบ “เจ้าอุ้มเขาตามข้ามา”

คล้ายได้รับการอภัยโทษจากนายเหนือหัว หานฉงหรงเพียงก้าวเท้าเดินตามอีกฝ่ายไปติดๆ โดยมีเหล่าผู้ติดตามเดินตามหลังกันเป็นพรวนจนเหมือนลูกหงส์ดำว่ายน้ำตามแม่ดูน่าขันไม่เบา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel