70 ช็อต
มุมหม่าล่า
“เออ อร่อยดีนะ” ผมกล่าวถึงหมูสไลด์สามชั้นเสียบไม้ที่กำลังถืออยู่
“แน่นอนอยู่แล้วเว้ย…นอกจากหมาล่าแล้วกูก็ว่าลูกสาวเจ้าของร้านนี่แหละโคตรแซ่บ" ไอโดมกอดคอผมแล้วกล่าว ในตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้วที่เรามากินมาดื่มกัน ซึ่งที่ร้านนี้ส่วนใหญ่แล้วจะขายเหล้าปั่นกับเบียร์ แต่เรากินเหล้าปั่นกัน ก็กินกันไปหลายเหยือกแล้วนะ โดยเรานั่งกันอยู่ 7 คนด้วยกัน
“แจ่มจริง” ผมกล่าวเมื่อหันไปมองผู้หญิงที่กำลังคิดเงินตามโต๊ะอยู่ เธอสวมเสื้อเอวลอยสีขาวเผยให้เห็นร่อง 11 ที่หน้าท้องและสวมกางเกงขาสั้นโชว์ขาเรียวขาวน่าสัมผัส
“ไปกดเงินแปปนะ” ผมกล่าวก่อนจะปิดออเดอร์ในโทรศัพท์ ซึ่งในวันนี้กราฟจากโทรศัพท์เครื่องใหม่มันปรากฏว่าตลาดทองจะพุ่งขึ้นสูงมากๆ และในตอนนี้ตลาดก็ได้หยุดลงแล้วหลังจากผ่านข่าวสามทุ่มมา ผมก็เลยกดปิดออเดอร์จบไปที่ 5420 ดอลล่า เป็นเงินราวๆ 180,000 บาทไทย และในครั้งนี้เงินก็ได้โอนเข้ามาที่บัญชีของผมแล้ว
“เออ…รีบมา…” โดมกล่าวพร้อมกับหัวของมันที่ส่ายไปส่ายมา เพราะมันก็ดื่มไปเยอะสมควรด้วยความกดดันที่ต้องเข้าไปอยู่หอในที่เหมือนกับโรงพยาบาลเก่าๆ
“แม่มึงให้มาเท่าไหร่วะ?”
“สองพันอะดิ”
“เยี่ยมเลย!” เมื่อชายกลุ่มหนึ่งได้เดินออกไปจากตู้กดเงิน ผมก็ได้เข้าไปยืนหน้าตู้ ที่จริงแล้วผมสามารถเทรดได้มากกว่านี้อีก แต่มันจะดูผิดสังเกตเกินไป ผมเลยต้องค่อยๆเทรด และเทรดตามข่าวที่มั่นใจ
40,000
ผมได้ถอนเงินออกมาสี่หมื่นบาท ที่จริงผมอยากจะถอนสักหกหมื่นหรือเจ็ดหมื่น แต่กลัวว่าแบงค์พันในตู้จะไม่พอ เพราะเมื่อช่วงบ่ายผมก็มากดไปครั้งหนึ่งแล้ว และมันบอกว่าแบงค์ร้อยไม่พอ ผมก็เลยต้องกดแบงค์พันมาแทน จึงเดาว่าธนาคารน่าจะยังไม่ได้มาเติมแบงค์ แต่พอกดแบงค์พันมันได้เฉยเลย…
ฟึบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แบงค์สีเทาจำนวนมากกำลังส่งออกมาจากเครื่อง และเมื่อมันออกมาครบผมก็หยิบขึ้นมาใส่กระเป๋าตังค์ คนข้างหลังที่ได้ยินเสียงนับแบงค์ถึงกับจ้องมองผมเป็นตาเดียวกันเลย แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ผมเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซต์ของผมและขับกลับไปที่ร้านมุมหมาล่า
“ไอทีมาล่ะ…มันไม่เมาเลยมอมมันหน่อย” โดมกล่าวเมื่อผมเดินกลับมาที่โต๊ะ
“ได้ดิ”
“มาเลยที” และการกล่าวของโดมทำให้เพื่อนในโต๊ะต่างยื่นแก้วให้กับผม ผมก็ตอบรับและรับแก้วมาดื่ม แต่ผมไม่ได้ดื่มจนหมด ผมดื่มเพียงแค่จิบๆให้เห็นว่าขนาดน้ำในแก้วมันลดลงเท่านั้น
“เอาไรอีกป่าว?” ก่อนที่ผมจะเดินมานั่งที่แล้วกล่าวถามเพื่อนในโต๊ะ
“ไม่ล่ะ…เงินจะไม่พอกินเอา”
“อืมใช่” ซึ่งทุกคนก็ตอบมาเป็นเสียงเดียว ก็นั่นแหละเนอะ เรายังไม่สามารถหาเงินกันเองได้ และเราก็ได้รับเงินมาอย่างจำกัดจากพ่อแม่ ที่จริงแล้วเงินพวกนี้พ่อแม่ส่งให้เรามากินข้าว แต่เราก็อดข้าวมากินเหล้า
ดีจริงๆ
“ไม่เป็นไร…สั่งเลยเราเลี้ยง” ผมกล่าว ซึ่งที่ผมไม่ได้ขึ้นมึงกูกับใครเพราะว่าผมไม่ค่อยสนิทกับคนอื่น ผมสนิทแค่กับไอโดมคนเดียว
“เอาดีๆ”
“จริงปะเนี่ย?” ทำให้เพื่อนในโต๊ะตกใจกันมากที่บอกว่าผมจะเลี้ยง ถึงแม้หลายคนพอจะรู้ว่าครอบครัวผมมีกินมีใช้กันพอสมควร แต่ผมเองก็ยังหาเงินเองไม่ได้ เอาเงินมาเลี้ยงแล้วจะเอาเงินไหนจ่ายค่าห้องค่ากินกันล่ะ?
“จริง…สั่งดิป่ะ” ผมกล่าวก่อนจะยกมือเรียกพนักงาน ซึ่งลูกสาวสุดสวยของเจ้าของร้านก็ได้เดินมาที่โต๊ะของเรา
“เมื่อวาน…” เมื่อเธอเห็นหน้าผม เธอแสดงสีหน้าสงสัยออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่ายหัวและรอฟังการสั่งอาหารของพวกเรา
“วอดก้า 18 ช็อต โค๊ก 1 ถัง แล้วก็เฟรนฟรายชีส 2 จาน” ผมกล่าวจบเพื่อนๆถึงกับสะอึกกันเลยทีเดียว เพราะวอดก้ามันจะมาเป็นแก้วช็อต แก้วละ 35 บาท ซึ่งราคามันก็หกร้อยกว่าบาท นั่นเราสามารถใช้กินได้เกือบอาทิตย์หนึ่งเลยนะ!
“ใจเย็นเพื่อน…เมาแล้วปะเนี่ย?” ทำเอาเพื่อนๆยิ้มแห้งกันเลยทีเดียว
“ไม่ได้เมา…” ผมกล่าวพร้อมกับแสดงสีหน้าและท่าทางปกติออกไปให้เห็น เพื่อนๆก็เลยยอมเชื่อผม แต่ก็ไม่มีใครสั่งอะไรเพิ่มเติมผมก็เลยพยักหน้าให้กับพี่สาวสุดสวยคนนี้
และหลังจากนั้นพวกเราก็ดื่มกันไปอีกเยอะพอสมควร และถ้าหากนับๆแก้วช็อตดูแล้ว รวมๆเกือบ 70 แก้ว และมันเริ่มทำให้ผมมึนๆ ถึงแม้ผมจะยั้งตัวเองไว้ไม่ดื่มเยอะเพราะต้องแบกไอโดมกลับ แต่ขึ้นชื่อว่าวอดก้ามันก็ต้องฤทธิ์แรงเป็นปกติอยู่แล้ว สภาพแต่ละคนก็เริ่มดูไม่ไหว จนแต่ละคนเริ่มขอตัวกลับกันก่อนสุดท้ายก็เหลือเพียงแค่ผมกับไอโดม
“ทั้งหมด 4,356 บาทค่ะ” ลูกเจ้าของร้านกล่าว ผมก็เลยยื่นแบงค์พันให้ไปห้าใบ และเธอก็ทอนเงินผมกลับมาทันที
“ไหวป่าวน้อง" คนที่ชงเหล้าให้พวกเราเดินมากล่าวถาม เพราะเราเหลือกันอยู่โต๊ะเดียวในร้าน
“ผมไหวแต่เพื่อนผมไม่น่าไหวครับพี่” ผมหันไปกล่าวก่อนจะยิ้มแห้งให้ดูน่าสงสาร
“หออยุ่ไหนล่ะเดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่เขาเลยกล่าวถามก่อนจะเดินไปที่หน้าร้านและปลดล็อครถกระบะของตนเอง
“หอลาวาครับพี่” ผมกล่าวก่อนจะพยุงร่างไอโดมขึ้นและผลักมันเข้าไปในที่นั่งหลังรถและผมก็เดินไปนั่งข้างหน้าข้างคนขับ โดยที่มีลูกสาวเจ้าของร้านคอยช่วยดูเผื่อไอโดมมันสะดุดล้ม
“เรียนอะไรล่ะเรา?” พี่เขากล่าวถามระหว่างขับรถไปที่หอลาวา ซึ่งมันติดกับถนนหลัก และเป็นถนนทางเข้าเดียวของมหาลัย
“ผมเรียนสารสนเทศครับ…ส่วนไอข้างหลังเรียนสถาปัตย์” ผมกล่าวแนะนำก่อนที่พี่เขาจะพยักหน้าตอบรับ
“อืมๆ…พี่ชื่อโอนะ"
"ดวงตาเราสวยมาก” พี่เขากล่าวแนะนำตัวเองกลับมาเช่นกัน และกล่าวถึงดวงตาข้างขวาของผมที่เป็นสีฟ้า เพราะความผิดปกติบางอย่างทำให้ดวงตาของผมมีสีดำและฟ้าอย่างละข้าง ซึ่งพี่คนนี้เขาเป็นญาติกับเจ้าของร้าน เขาชอบชงเหล้าก็เลยมาทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ที่นี่
“ขอบคุณครับ”
“ผมชื่อทีครับส่วนเพื่อนผมชื่อโดม”
“พี่ชงเหล้าเข้มจังนะเพื่อนผมเมาหลับไปเลย” ผมกล่าวก่อนจะหัวเราะออกมา
“แน่นอนน้อง…มากินเหล้าต้องเมาดิ” ซึ่งพี่เขาก็หัวเราะเหมือนกัน โดยที่ผมพยายามชวนพี่เขาคุยเพื่อไม่ให้พี่เขาชวนคุยเป็นฝ่ายเดียวเป็นการให้ความนับถือและนอบน้อมพี่เขาไปในตัว และระหว่างนั้นเราก็พูดคุยกันพอสมควรจนมาถึงหอลาวา ซึ่งมันเป็นหอพักรายวันที่แพงที่สุดที่มหาลัย
“พี่โอผมไปเปิดห้องให้เพื่อนแปปนึงนะครับ" ผมกล่าวก่อนจะเปิดประตูลงจากรถซึ่งพี่เขาก็ดับเครื่องและลงจากรถมาเช่นกัน
“พี่ช่วย” พี่โอกล่าว ผมจึงยิ้มกลับไปและแบกร่างไอโดมออกมาจากรถยนต์
‘ยังเหมือนเดิมเลยจริงๆ’ ผมคิดในใจ
ซึ่งพี่โอนี่ผมก็สนิทกับแกมากพอสมควรในชีวิตก่อน เพราะผมมาดื่มเหล้าปั่นร้านแกบ่อย พอค่ำๆก็นั่งดื่มกับแกต่อเสมือนแกเป็นพี่ชายผมคนหนึ่งเลยทีเดียว
“ขอบคุณมากครับ” ผมกล่าวเมื่อเราทั้งคู่เข้ามาล็อบบี้ของหอพัก ผมก็ได้ยื่นบุหรี่ไฟฟ้าของผมให้พี่แกไปและยิ้มให้แกเอาไปสูบพรางๆ ส่วนไอโดมมันก็นอนบนโซฟาของล็อบบี้
“เปิดห้องสองคืนครับ” ผมกล่าวกับพนักงานต้อนรับ ซึ่งเธอก็ได้ขอบัตรประชาชนของผมไป และผมก็จ่ายค่าห้องไปพันสี่ ที่จริงมันก็มีที่อื่นแหละที่ราคาถูกลง แต่ผมต้องการความสบาย ผมก็เลยใช้เงินซื้อความสบายให้ไอโดม มันคงจะนอนเตียงแข็งๆ บรรยากาศไม่ค่อยดีมาแล้ว ก็ให้มันนอนดีๆไปสักสองคืน
ฟึบ
“ไอโดมมึงนอนไปก่อนนะ”
“ไม่รู้มึงได้ยินป่าว” ผมกล่าวก่อนที่ไอโดมมันจะพยักหน้าเบาๆ
“เออ…เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นแล้วโทรหากู”
“เดี๋ยวกูมาหา” ผมกล่าวก่อนจะเดินไปเปิดประตูและกดล็อคลูกบิดและปิดประตูลง
“น้องที…บุหรี่ไฟฟ้าน้องควันเยอะมาก”
“รสหวานด้วย” พี่โอกล่าวพร้อมกับยื่นกล่องบุหรี่ไฟฟ้าคืนให้ผม
“ขอบคุณมากนะครับพี่โอ” ผมรับมาและเข้าไปนั่งในรถข้างคนขับที่เดิม
“เดี๋ยวพี่ให้ลองของพี่…ของพี่น้ำยามาโบทอง” พี่โอกล่าวผมก็พยักหน้าตอบรับ และเราก็ได้คุยอะไรกันเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับการเรียน
มุมหมาล่า
“เป็นยังไงบ้าง?” พี่เอมกล่าวถามผม ซึ่งในชีวิตก่อนผมไม่ค่อยสนิทกับพี่เอมสักเท่าไหร่ พี่เอมเป็นผู้หญิงคนนึงที่เข้าหายากมาก และครั้งนี้แกก็น่าจะถามเป็นมารยาท
“ส่งเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยครับผมฮ่าๆ” ผมกล่าวก่อนจะหัวเราะออกมา ซึ่งพี่โอก็ได้หยิบบุหรี่ไฟฟ้าเดินมาหาผม โดยบุหรี่ไฟฟ้าของพี่โอจะเป็นทรงกระบอกแต่ขนาดและความยาวจะเท่ากับกล่องบุหรี่ไฟฟ้าของผม
ฟืดด ฟู
“อร่อยมากครับ" ผมกล่าวก่อนจะสูบอีกครั้งนึงและยื่นให้พี่โอบ่งบอกว่ามันเป็นของดีมาก ทำให้พี่โอยิ้มอย่างพอใจ
“ดื่มอีกไหมดื่มกับพี่” พี่โอกล่าวก่อนที่พี่เอมจะเก็บเนื้อเสียบไม้ในตู้กระจกไปจนหมด เป็นความหมายว่าร้านมุมหมาล่าในวันนี้ปิดลงแล้ว
“ครับผม” ผมกล่าวและยิ้มให้พี่โอ ซึ่งพี่โอก็ได้ให้ผมมานั่งที่บาร์
“เอมดื่มด้วยพี่โอ" พี่เอมกล่าวก่อนจะนั่งลงข้างๆผม สีหน้าของเธอดูเป็นกังวลมาก มันราวกับเธอกำลังเจอเรื่องเครียดอะไรอยู่
“พี่ชื่อเอมใช่ไหมครับ?” ผมกล่าวถาม
“ชื่อเอม…เราชื่ออะไร?” พี่เขากล่าวถามกลับมาอย่างเป็นมิตร
“ชื่อทีครับ” ผมกล่าวก่อนจะรับแก้วมาจากพี่โอ
“ปีหนึ่งใช่ไหม?…เรียนอะไร?” พี่เอมกล่าวถามกลับมาทำให้ผมแอบยิ้มอยู่ในใจ ยังดีที่พี่เขาชวนคุยกลับ
“ใช่ครับ"
"ทีเรียนสารสนเทศครับ…คอนเทนต์และสื่อ” ผมกล่าวจบพี่เอมก็หันมายิ้มให้กับผม
“พี่เรียนบัญชีปีสี่…เดี๋ยวพี่ก็รับปริญญาแล้ว” พี่เอมกล่าวก่อนจะรับแก้วมาจากพี่โอ ซึ่งพี่โอไม่ได้ชงเหล้าปั่นให้กับเรา แต่พี่โอชงคอกเทลให้กับเราทั้งคู่ ส่วนแก้วของพี่โอแกกินเบียร์
“ชนหน่อยน้อง” พี่โอกล่าวผมก็ยื่นแก้วออกไปชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“นั่งบื้ออะไรอยู่ชนแก้ว” พี่โอหันไปดุพี่เอมทำให้พี่เอมยื่นแก้วมาชน
“เอม!” เสียงเรียกพี่เอมดังขึ้นพร้อมกับกลุ่มผู้ชายราวๆสี่คนกำลังเดินมาที่บาร์
“น้องออกไป” เพื่อนของคนที่ตะโกนเสียงดังกล่าวกับผมแต่ผมก็ไม่ได้ขยับไปไหน ส่วนสีหน้าของพี่โอดูโมโหมาก
“ออกไปจากร้านกู” พี่โอกล่าวด้วยความโกรธก่อนจะเดินออกมาจากบาร์
“น้องออกไปก่อน…” เพื่อนอีกคนของกลุ่มนี้เดินมากล่าวกับผมก่อนที่ชายคนที่ตะโกนเรียกพี่เอมจะยื่นมือออกมาจับไหล่ของพี่เอม แต่ก็ต้องโดนมือของผมกันเอาไว้ก่อน
“มึงใครวะ!?" และเมื่อผมยื่นมือออกไปกัน ทำให้คนที่จะจับไหล่พี่เอมหัวร้อนมากและหันมามองผมด้วยสายตาโกรธ
‘ดูแล้วน่าจะเป็นคนที่ตามจีบพี่เอม…แล้วทำพี่เอมเครียด’
‘เพราะอะไรกันนะ?’ ผมคิดในใจ ซึ่งดูจากท่าทางของพวกเขาแล้วมันไม่กลัวใครเลย ผมพอจะเข้าใจได้ว่าพวกเขามีพรรคพวกเยอะและวางท่าเป็นนักเลงโต
“เขาเป็นอะไรกับพี่ครับ?” ผมหันไปกล่าวถามพี่เอมและทำให้พวกข้างหลังตกใจสีตาของผมเล็กน้อย
“ไม่ได้เป็นอะไรกัน” พี่เอมตอบกลับมาและผลักมือผมออกประมาณว่าไม่ต้องการให้ผมเข้ามายุ่ง
“กูบอกให้ออกไปจากร้านกู!” พี่โอตวาดเสียงดังแต่พวกมันก็ยังไม่ไปไหน
“ไอ้เด็กเหี้ย!” ชายคนที่จะจับไหล่พี่เอมได้เดินเข้ามาและง้างหมัดจะต่อยผม
ฟุบ ตุบ
เพียงแค่พริบตาเดียวผมใช้ศอกเสยคางชายคนนั้นสลบกลางอากาศและหงายหลังลงไปนอนบนพื้นก่อนที่ผมจะยืนขึ้น เพื่อรอดูสถานการณ์ว่าเพื่อนของชายคนนั้นจะทำอะไรต่อไป
“เห้ย!"
“มึง!-” เพื่อนของชายคนนั้นสองคนได้ก้มลงไปดูเพื่อนของตนส่วนอีกคนเดินเข้ามาหาผม ผมไม่รอช้ารีบคว้ามือของคนนั้นและพลิกร่างของมันกลับไปพร้อมกับรวบมือข้างหนึ่งของมันและผลักออกไปให้มันกลิ้งลงพื้น
“ตำรวจแน่เลยว่ะ…” สองคนที่นั่งดูเพื่อนของตนอยู่กล่าวออกมาก่อนจะรีบแบกร่างเพื่อนและเดินออกไปจากร้านเงียบๆ ซึ่งผมก็ปล่อยพวกมันไป
“กลับก่อนมันน่าจะเป็นตำรวจ” ส่วนชายคนที่กลิ้งลงไปบนพื้นมันจะพุ่งเข้ามาชกผม แต่ก็โดนเพื่อนอีกคนห้ามเอาไว้ก่อน ส่วนผมก็จ้องมองพวกมันด้วยสีหน้าเวทนา
“ดื่มต่อเถอะครับ…ไร้สาระ” ผมกล่าวก่อนจะหันกลับมานั่งที่เดิม