ลายแทง
แบมือรับเอากล้องไม้เก่า ทว่าสลักลวดลายงดงาม ประดับด้วยมุกและหยกด้านบนของฝากล่อง ที่บอดี้กร์าดวางลงบนมือเบาๆ ซุนเยี่ยเต๋อวางกล้องไม้ลงบนโต๊ะ
มือเหี่ยวหยิบม้วนกระดาษที่มัดไว้ด้วยด้ายสีแดง อย่างทะนุถนอม เบามืออย่างที่สุด
“นี่คือสิ่งที่อยากให้คุณดู พริมมี่ลุกขึ้น เอื้อมมือไปหยิบ ม้วนกระดาษมาราวกับของมีค่าเหมือนกันนาฬิกาพกหลุดออกมาจากอกเสื้อห้อยต่องแต่งตรงหน้า
นั่งลงบนเก้าอี้เหมือนเดิม สมศักดิ์ชะโงกหน้ามามอง ม้วนกระดาษที่จากสีขาวกลายเป็นเหลืองนั้นตาไม่กะพริบ พริมมี่เองก็รู้สึกว่าใจเต้นราวกับจะทะลุออกจากอก แกะด้ายสีแดงที่รัดม้วนกระดาษออกช้าๆ คลี่ออกเบาๆ
ตัวอักษรแปลกตา หมึกสีดำตวัดเป็นลายเส้นด้วยความตั้งใจ สวยงามราวกับภาพพิมพิ์
“ไป๋กว่อ เหลืองอร่าม
แต่เจ้ากลับงดงามท่ามกลางคืนมืดมิด
พรุ่งนี้หากตื่นลืมตาไม่พบข้า จึงไม่มีเจ้า
ของกำนัลมากมาย เพื่อเจ้ายามพานพบ
แค่เพียง หล่อหลอมรวมกัน ใต้แสงจันทร์ข้าก็พร้อมมอบของกำนัลให้เจ้า
อำลา หรืออาลัยไร้ซึ่งความหมาย
นำพาข้าและเจ้ามาพบเจอกันอีกครา”
พริมมี่ขมวดคิ้วมุ่น ลายแทงไม่ได้บ่งบอกสิ่งสำคัญอะไร ต้นแปะก๊วย จะไม่ง่ายไปหน่อยหรือถ้าจะบังเอิญว่าสมบัติจะฝังไว้ใต้ต้นแป๊ะก๊วย
"มีต้นไป๋กว่อที่นี่ไหม"คุณปู่ซุนยิ้ม
"ต้นไป๋กว่อ เก่าแก่แลนมาร์คที่นักท่องเที่ยวมักจะมาถ่ายรูปอยู่ทางด้านเหนือของบ้านหลังนี้"
พริมมี่ยื่นลายแทงอะไรนั่นคืนให้กับคุณปู่ซุน
"คงต้องลองไปที่ต้นไป๋กว่อในนี้ ไม่มีอะไรที่ชี้จุดชัดเจน ลายเส้นดูเหมือนว่าตั้งใจจะสับขาหลอกว่าคือลายแทงวกไปวนมาแต่ก็พูดถึงเรื่องของกำนัล ซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไรอาจเป็นแค่ถ้วยโถโอชามหรืออาจเป็นหินสีซึ่งสมัยนั้นก็นับว่าเป็นของหายาก"คุณปู่ซุนพยักหน้าขึ้นลง
"ไม่สำคัญแค่พานพบก็พอ คงต้องอาศัยทีมงานขุดค้นคุณภาพเช่น ทีมงานย้อนเวลาหาความจริง"
สมศักดิ์ยิ้มยื่นมือสัมผัสมือคุณปู่ซุน ที่ถอนหายใจ
"เราจะไม่ทำให้ ทุกคนผิดหวัง"
สมศักดิ์ พูดขึ้นแทนทุกคนตามทำเนียม
"ของกำนัลมากมาย คำนี้ที่ทำให้ฉันคิดว่าจะต้องเป็นสมบัติเพราะของสิ่งนี้ตกทอดพร้อมคำสั่งเสียจากรุ่นสู่รุ่น"
"หากเป็นเรื่องจริง อย่างที่คุณซุนพูด นี่ก็คือสมบัติที่ตั้งใจซ่อนไว้เพื่อลูกหลาน คุณซุน พริมขออนุญาตถามตระกูลซุนมีเชื้อสายของใครกันระหว่างจักรพรรดิเจี้ยนเหวินหรือจักรพรรดิหย่งเล่อ"คุณซุนยิ้ม
"ตระกูลซุนเดิมคือแซ่จูหลังจากที่เอี้ยนอ๋องจูตี้ก่อกบฏ คนที่เคยอยู่ภายใต้การดูแลของจักรพรรดิเจี้ยนเหวินจึงเปลี่ยนชื่อแซ่ใหม่เสียพวกเราจึงใช้แซ่ซุนตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา"
พริมมี่ครุ่นคิด จักรพรรดิเจี้ยนเหวินหลานของจักรพรรดิหมิงไท่จูหรือที่เรารู้จักกันในนามจูหยวนจางผู้ที่ปลดแอกชาวฮั่นจากมองโกลและราชวงค์หยวน ที่กดขี่ชาวฮั่นแต่ในประวัติศาสตร์ไม่ได้บอกว่าเจี้ยนเหวินตายหรือถูกตัดรากถอนโคนแต่หายไปไม่มีใครพบเห็นอีกเลยเป็นไปได้มากว่าเจ้าเจี้ยนอพยพหนีหรืออาจเปลี่ยนชื่อแซ่แต่จากที่มองบ้านซุนที่ตระกูลเดิมคือแซ่จูร่ำรวยขนาดนี้เท่ากับไม่เคยหนีไปไหนยังอยู่ที่เป่ยจิงสั่งสมบารมีและเงินทองตกทอดสู่ลูกหลาน หรือว่าเอี้ยนอ๋องจูตี้หรือหย่งเล่อไม่เคยระแคะระคายเรื่องนี้มาก่อนหรืออาจรู้แต่ไม่คิดจะทำอะไรพริมมี่เผลอหัวเราะดังๆ
"ฮ่าาาาา เรื่องนี้น่าสนุกพิลึก”
นิยายดีดีคือนิยายที่ไม่มีคนทะลุมิติ เขาว่างั้น พริมมี่จะสืบอยู่ที่ในปี2024นี่แหละให้ความจริงปรากฏ จบกันทีนิยายทะลุมิติฮ่าาาาาา สมศักดิ์สะกิดเบาๆ พริมมี่ยิ้มเกาหัวแกรกๆ
"เริ่มงานได้ทันทีนับตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ที่นี่เป็นของคุณแล้วหว่ออาจไม่ได้มาที่นี่บ่อยนักขอให้คุณสนุกกับมัน”