บท
ตั้งค่า

เมล็ดผิงกั่ว

หลังจากตรวจสอบข้าวของในห้องอย่างละเอียด จางเหม่ยอิงก็พบผ้าแพรผืนหนึ่งที่มีกลิ่นบางอย่างที่คุ้นเคย

“กลิ่นเมล็ดผิงกั่ว?” ตอนที่เรียนมหาวิทายาลัยเคยค้นเจอว่ามันเป็นสารประกอบเดียวกันกับไซยาไนด์ในยุคปัจจุบัน หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความสงสัยทันที แล้วมันมาอยู่ที่ห้องนี้ได้อย่างไรกัน?

“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าในยุคนี้จะมีการใช้เมล็ดผิงกั่ว… ใครกันที่นำมันมาใช้ หรือว่านี้คือการฆาตกรรม ร่างเดิมของข้าไม่ได้ป่วยตาย?”

จางเหม่ยอิงสวมบทบาทเป็นนิติเวชสาวและเริ่มต้นสืบหาต้นตอด้วยความรู้ด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ในหัว เธอสังเกตเห็นว่ากลิ่นนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ที่ผ้าแพรเท่านั้น แต่มันยังติดอยู่ตามสิ่งของอื่นๆ ในห้อง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับหรือแม้แต่กาน้ำชา ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้ที่อยู่ในร่างเดิมอาจจะสัมผัสกับพิษนี้หลายครั้งจนสะสมเข้าไปในร่างกาย ค่อยออกอาการป่วยและเสียชีวิตในท้ายที่สุด

“พิษจากเมล็ดผิงกั่วนั้นจะไม่ทำให้เหยื่อตายในทันที แต่จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ หายใจลำบาก และหัวใจเต้นเร็ว ก่อนจะนำไปสู่ความตายอย่างช้าๆ…”

เธอพึมพำเบาๆ พร้อมเดินสำรวจไปรอบห้องอย่างระมัดระวัง ด้วยรู้ดีว่าเบาะแสที่มีอยู่นี้อาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการไขคดีการตายของร่างเดิม

หลังจากนั้นจางเหม่ยอิงได้เดินผ่านสวนหย่อมกลางจวนและบังเอิญได้ยินสาวใช้กลุ่มหนึ่งพูดคุยกันอย่างออกอรรถรสเกี่ยวกับตนแอง

“ครั้งล่าสุดที่แม่นางผิงชิงเสียมาหาคุณหนู นางนำของขวัญวันแต่งงานมาให้ เห็นว่าเป็นผ้าแพรผืนหนึ่ง ทันทีที่คุณหนูรับไว้ ท่าทีของนางก็เปลี่ยนไปทันที”

“ข้าเองก็อดสงสารคุณหนูจางของพวกเราไม่ได้ นางเคยสนิทกับแม่นางผิงชิงเสียมาก่อนแต่กลับต้องมาแตกหักกันเพราะองค์ชายสามคนเดียว”

“ข้าเองก็ได้ยินมาว่าองค์ชายสามรักแม่นางผิงชิงเสียมากแต่เพราะถูกบังคับให้แต่งกับคุณหนูของเรา จึงไม่พอใจคุณหนูของเราเป็นอย่างมาก”

“คุณหนูของพวกเราช่างน่าสงสารเสียจริง ข้าเองก็ไม่ชอบแม่นางผิงชิงเสียเอาเสียเลย ถ้าสังเกตดีๆ นางไม่ได้เป็นมิตรกับคุณหนูของเราเลยสักนิด มีแต่คุณหนูของพวกเราที่มองว่านางยังเป็นสหาย”

จางเหม่ยอิงหยุดชะงักทันที คำพูดเหล่านั้นจุดประกายความสงสัยในใจเธอ

“ผิงชิงเสีย…ผ้าแพร?”

จากนั้นด้วยความสงสัยจางเหม่ยอิงรีบไปหาหงเอ๋อร์และสอบถามข้อมูลทันที

“ไม่นานมานี้ ผิงชิงเสียเคยมาเยี่ยมข้าจริงหรือ?”

หงเอ๋อร์ถอนหายใจ “ใช่เจ้าค่ะ แต่ท่านไม่ควรใส่ใจนางมากนัก นางไม่เคยจริงใจกับท่านเลยสักนิด มาทีไรก็มักจะพูดจาหยอกล้อเสียดสี ข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณหนูถึงทนฟังคำพูดเหล่านั้น ไหนจะองค์ชายสามที่มักจะปกป้องนางจนออกนอกหน้า”

“องค์ชายรักนางหรือ?” จางเหม่ยอิงถามขึ้น

“คุณหนูอย่าได้เสียใจเลยเจ้าค่ะ ใครไม่รักท่านก็ช่าง แต่บ่าวรักท่านอย่างหมดใจ และจะภักดีต่อท่านเพียงคนเดียว...”

ได้ฟังเรื่องราวเท่านี้ จางเหม่ยอิงก็เริ่มเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดในทันทีถึงความสัมพันธ์ที่คลุมเครือนี้

ผิงชิงเสียดูจะเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งที่อาจมีส่วนทำให้เจ้าของร่างเดิมหายไปเพราะความหึงหวง ต่อให้ความรักขององค์ชายสามไม่สำคัญกับเธอก็ตามที แต่จางเหม่ยอิงรู้ว่าควรไปพบผิงชิงเสียด้วยตนเองสักครั้ง

หลังจากเครียดมาทั้งวันแล้วจางเหม่ยอิงจึงขออนุญาตบิดามารดาไปเที่ยวเล่นข้างนอก แม้ทั้งสองจะเป็นห่วงแต่เพราะความรักที่มีต่อลูกสาวพวกเขาก็ยอมให้นางออกนอกจวนเพื่อไปเที่ยวเล่น

หลังจากออกจากจวน จางเหม่ยอิงรู้สึกถึงสายตาของผู้คนที่จ้องมองนางด้วยความชื่นชม ก็รูปโฉมของร่างนี้งดงามจนใครๆ ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel