10 อดีตของเรา
“ไม่ได้กินราดหน้าร้านนี้มานานแล้วรสชาติยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะ แม่ค้ายังเป็นป้าจำเนียรคนเดิมอยู่ไหมคะ” พิมพ์พันดาวถามถึงแม่ค้าร้านราดหน้าที่เธอทานมาตั้งแต่เด็กเพราะร้านนี้ตั้งอยู่หน้าโรงเรียนของบิดา
“ป้าแกทำไม่ไหวแล้วครับ แต่ก็ยังนั่งอยู่หน้าร้านคอยคุยกับลูกค้าส่วนคนที่ทำก็เป็นลูกชายกับลูกสะใภ้”
“นั้นสิคะ มันนานหลายปีแล้ว”
“ผมกินร้านนี้ตัวแต่ ม.1 พอเรียนม.ปลายนานๆ ถึงจะได้กิน”
“ทำไมล่ะคะ”
“ก็เพราะตอน ม.ปลายผมย้ายไปเรียนในตัวจังหวัดน่ะสิ”
“คุณเรียนที่เดียวกับพิมพ์เหรอคะ ทำไมไม่เคยเห็นหน้า”
“ผมก็แค่นักเรียนห้องทั่วไป ตอนเรียนก็ไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่ ใครจะเหมือนคุณล่ะทั้งเรียนทั้งกิจกรรม”
“คุณจำพิมพ์ได้เหรอคะ”
“จำได้สิ ถึงหน้าจะเปลี่ยนไปบ้างแต่ผมก็จำได้”
“มันผ่านมานานแล้ว พิมพ์ก็อายุเยอะแล้วไม่คิดว่าจะมีคนจำตอนเรียนม.ปลายได้ คุณรู้มาตลอดเลยเหรอว่าพิมพ์เคยเรียนโรงเรียนเดียวกับพิมพ์”
“ตอนย้ายมาใหม่ผมเคยเห็นพิมพ์อยู่หลายครั้งแต่ไม่กล้าเข้าไปทักเพราะตอนนั้นพ่อคุณยังเป็นอาจารย์อยู่ ถึงผมจะย้ายไปเรียนในเมืองแต่ท่านก็ยังจำผมได้”
“คุณเคยเรียนกับพ่อด้วยเหรอคะ”
“ครับ”
“แต่ตอนนี้เหมือนว่าคุณจะไม่กลัวพ่อแล้วนะคพิมพ์เห็นคุณสนิทกับท่านมาก” เธออยากจะพูดว่าเขาสนิทกับบิดามากกว่าเธอเองที่เป็นลูกสาวด้วยซ้ำ
“ก็ผมเรียนจบแล้ว และท่านก็เกษียณแล้วเลยไม่ต้องกลัว อันที่จริงพ่อของพิมพ์ก็ไม่ได้น่ากลวเลย พอได้คุยกับท่านแล้วผมว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งเลยล่ะคะ”
“ค่ะ แต่เพราะพ่อเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองเลยทำให้คนคิดว่าท่านจะดุ”
“ใช่ครับ ทุกคนกลัวท่านเพราะท่านอยู่ฝ่ายปกครองและไม่ใช่แค่ที่โรงเรียนที่ท่านสอนนะ”
“หมายถึงอะไรคะ”
“พิมพ์เคยสงสัยไหมลั่ว่าเป็นถึงดาวโรงเรียนทำไทมในโรงเรียนถึงไม่มีใครกล้าจีบ”
“ก็นิดหน่อยค่ะ เพื่อนของพิมพ์มีหนุ่มๆ มาจีบเพียบเลยตอนนั้นพิมพ์ก็คิดว่าเพราะพิมพ์ไม่สวยเหรือเปล่าถึงไม่มีใครมาจีบเลย”
“นั่นเพราะเขารู้ว่าคุณเป็นลูกสาวของอาจารย์ฝ่ายปกครอง ถึงจะอยู่คนละโรงเรียนแต่กิตติศัพท์ความดุก็มีคนพูดถึง”
“เหรอคะ แต่ก็ดีเหมือนกันนะที่ไม่มีคนมาจีบ พิมพืถึงได้โฟกัสกับการเรียนอย่างเต็มที่”
“แล้วพอเข้ามหาวิทยาลัยล่ะ มีคนมาจีบไหม”
“มีสิมีเยอะด้วย”
“แล้วตอนนี้ล่ะ”
“ถามเพราะไม่รู้หรือถามเพราะอยากจะให้พิมพ์อายเหรอตรัย”
“ถามเพราะไม่รู้จริงๆ”
“ก็อย่างที่เห็นแหละ โสดสนิทเลย”
“ไม่อยากมีแฟนเหรอ”
“เฉยๆ นะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ ตอนนี้พิมพ์มีหลายอย่างที่ต้องจัดการเลยไม่มีเวลาคิดเรื่องนั้นเท่าไหร่”
“อายุเยอะแล้วนะพิมพ์น่าจะหาใครสักคน”
“ตรัยกับพิมพ์ก็อายุเท่ากัน แล้วตรัยล่ะกำลังจีบใครอยู่จีบติดหรือยัง”
“รู้เหรอว่าผมกำลังจีบใครอยู่”
“รู้สิก็ตรัยบอกเองว่าจะเอาตุ๊กตาไปให้สาวที่ชอบ เขาว่ายังไงบ้างชอบหรือเปล่า”
“ยังไม่ได้เอาไปให้เลย”
“ทำไมกลัวเขาไม่ชอบเหรอ มั่นใจหน่อยสิ”
“พิมพ์ว่าผู้หญิงเขาจะชอบชาวไร่อย่างผมไหม”
“ชาวไร่ก็ไม่มีอะไรน่าเสียหายตรงไหนเลยนะ หน้าตาก็หล่อคมแบบนี้ตรงสเปกของสาวเลย”
“แล้วพิมพ์ล่ะมีสเปกไหมผู้ชายที่ชอบไหม”
“ก็มีนะ พิมพ์ชอบแบบขาวๆ ตี๋ๆ เหมือนพระเอกจีนประมาณนั้น” พิมพ์พันดาวพูดโดยไม่คิดอะไรแต่คนฟังนั้นใจเหี่ยวไปแล้ว
ตรัยคุณผิดหลังกับคำตอบที่ได้ยินเพราะเขานอกจากจะไม่ตี๋แล้วยังไม่ขาวไม่ขาวเหมือนพระเอกพวกนั้น เขาคิดว่าตนเองแพ้ตังแต่ยังไม่ทันได้จีบเธอด้วยซ้ำ
“ผมนึกว่าพิม์จะไม่มองคนแค่ภายนอก” เขาตัดพ้อ
“ก็ตรัยถามพิมพ์เองว่าสเปกเป็นแบบไหนพิมพ์ก็ตอมตามที่ตัวองชอบไง”
“งันผมถามใหม่นะ ถ้าคนที่มาจีบพิมพ์เขาไม่ได้ใกล้เคียงกับสเปกที่พิมพ์พูดเลย พิมพ์จะให้โอกาเขาไหม”
“ให้สิ พิมพ์ไม่ใช่เด็กๆ ที่จะคบคนที่หน้าตานะ แต่พิมพ์ไม่คิดถึงเรื่องมีแฟนแล้ว”
“ทำไม”
“อีกไม่กี่เดือนพิมพ์ก็จะ 30 แล้วนะตรัยผู้หญิงอายุขนาดนี้มันยากที่จะหาแฟนได้ ส่วนใหญ่คนอายุเท่ากันเขาก็มีครอบครัวกันไหมหมดแล้วพิมพ์ไม่อยากเป็นเมียน้อยใครหรอก หรือจะให้มีแฟนอายุน้อยกว่ามันก็ยากที่จะคุยกันเข้าใจนะ”
“แค่ 30 เองไม่ถือว่าอายุมากหรอกนะ”
“ผู้หญิงกับผู้ชายไม่เหมือนกันนะตรัย ผู้หญิงถ้าขึ้นเลขสามแล้วก็คงอยู่ยาวบนคานนั่นแหละ”
“ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าพิมพ์อายุเท่าไหร่ ดูอย่างหัวหน้าช่างสิเขายังคิดว่าพิมพ์เพิ่งเรียนจบแล้วมาเปิดร้านเลย”
“พูดให้พิมพ์สบายใจใช่ไหมล่ะ”
“ผมพูดจริงนะ พิมพ์ดูเด็กกว่าอายุจริงเยอะเลย”
“ขอบใจนะที่ช่วยพูดให้พิมพ์สบายใจ”
“แต่ก่อนพิมพ์เคยคิดถึงอนาตคไหมว่าจะแต่งงานตอนอายุเท่าไหร่”
“เคยสิ ตอนพิมพ์คบกับแฟนก็เคยคิดเรื่องนี้ เราคุยกันถึงขั้นว่าจะแต่งงานตอนไหน มีลูกกี่คน แต่นั้นมันก็ผ่านมาแล้ว”
“เลิกกันนานแล้วเหรอ”
“เกือบห้าปีแล้ว”
“แล้วพิมพ์โสดมาตลอดเลยเหรอ”
“อือ”
“เพราะลืมรักแรกไม่ได้เหรอ”
“ที่ไม่ลืมไม่ใช่เพราะรักนะแต่เพราะประสบการณ์ที่ไม่ดีมากกว่าเลยลืมไม่ได้”
“พิมพ์คงเจ็บมาก”
“ก็นิดหน่อยแต่เสียดายเวลาที่คบกันมากกว่า พิมพ์คบกับเขาสามปีเลยนะ แต่มารู้อีกทีว่าเขาคบซ้อนมันเลยก็เลยรู้สึกแย่”
“จากนั้นก็เลยปิดตายหัวใจเหรอ”
“ไม่ได้ปิดนะ แต่พิมพ์ว่าอยู่คนเดียวมันก็สบายดี ถ้าจะต้องเริ่มคบกับใครสักคนแล้วต้องเสียเวลาดูใจ เสียเวลาศึกษากันอีกกว่าจะได้แต่งงานก็คงอีกนานพิมพ์ว่าคงไม่มีใครรอได้หรอก”
“ก็ไม่ต้องคบ ไม่ต้องดูใจนานสิ”
“พิมพ์ไม่อยากโดนหลอก”
“ผมว่าพิมพ์โตพอที่จะดูคนออกนะ”
“ทำไมวันนี้ถึงพูดแต่เรื่องของพิมพ์ล่ะ”
“แล้วจะคุยเรื่องผมไหมล่ะ”
“ได้สิ พิมพ์ขอถามบ้างว่าทำไมถึงยังไม่มีแฟนสักที น้องพลอยบอกว่าตรัยโสดมานานแล้ว”
“ก็เบื่อๆ ตอนเรียนกับตอนทำงานที่กรุงเทพผมใช้ชีวิตได้แบบคุ้มค่ามาก มีแฟนมาก็หลายคนนะแต่ก็คบใครได้นาน”
“ทำไม ตรัยออกจะหล่อ”
“ผมเป็นคนเอาใจใครไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ อย่างเทศกาลหรือวันพิเศษก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่ผู้หญิงก็เลยไม่ค่อยชอบ”
“ถ้าเดาไม่ผิดสาวๆ ก็คงจะอายุยังน้อย”
“ผมคบมาหมดแล้วทั้งเด็กกว่าและโตกว่า”
“เคยคบคนโตกว่าด้วยเหรอ แต่เขาว่าคบคนที่โตกว่าจะดีนะเพราเธอจะใจเย็นและเข้าใจผู้ชายได้มากกว่าคนที่อายุน้อยๆ”
“ผมว่าเรื่องอายุไม่เกี่ยวเลย เรื่องนี้ใช้ใจล้วนๆ ผมรู้สึกเหมือนมันยังไม่ใช่”
“แล้วคนที่กำลังจะจีบล่ะอายุเท่าไหร่”
“เท่าๆ กัน”
“นี่ยังมีคนโสดที่อายุเท่าพิมพ์อีกเหรอน่าแปลกจัง”
“แปลกยังไง”
“ก็ผู้หญิงที่อายุขนาดนี้หายากนะที่จะยังโสด ดูดีๆ ตรัยว่าเธอโสดจริงไหม อย่าไปจีบเมียชาวบ้านเขาล่ะ”
“ดูดีแล้ว เธอยังโสดและก็สวยมากด้วย”
“พิมพ์ขอเอาใจช่วยนะขอให้จีบติดไวๆ นะจะได้รีบมีลูกก่อนที่อายุผู้หญิงจะมากกว่านี้”
“ขอบใจนะพิมพ์ ผมก็ขอให้พิมพ์เปิดใจให้ใครสัก”
“ก็บอกแล้ว่าไม่เคยปิด แต่ไม่มีคนมาจีบเอง”