9 เป็นคนแบบไหนกันแน่นะ
พิมพ์พันดาวมองชายหนุ่มที่กำลังผัดอะไรสักอย่างด้วยความทะมัดทะแมงอยู่ในห้องครัว
“รอแป๊บหนึ่งนะน้องพลอยเหลือแค่ผัดบล็อคเคอรี่อีกอย่างก็เสร็จแล้ว น้องพลอยส่งจากให้น้าหน่อน” ตรัยคุณพูดโดยไม่ได้หันมามองก่อนจะหยิบจานไปใส่ผัดที่สุกพอดี
“น่ากินจังค่ะ”
“อ้าว พิมพ์เหรอผมขอโทษทีผมนึกว่าน้องพลอย”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“น้าตรัยคะทำไม่วันนี้มีกับข้าวหลายอย่างจัง” พลอยมนมองกับข้าวบนที่มีแต่ของโปรดของตนเองก็ถามขึ้น
“ก็น้องพลอยเสียเลือดต้องบำรุงเยอะๆ น้าทำตับทอดกระเทียมพริกไทยของโปรดให้หนูด้วยนะ”
“ขอบคุณค่ะ กับข้าวฝีมือน้าตรัยอร่อยที่สุดเลยนะคะพี่พิมพ์”
“เชิญตามสบายนะครับ ผมทำกับข้าวไม่ค่อยเผ็ดมากเท่าไหร่ไม่รู้จะถูกปากคุณไหม”
“พิมพ์ไม่ค่อยชอบกินเผ็ดค่ะ”
“ดีจังค่ะ น้องพลอยจะได้มีเพื่อนกินกับข้าวไม่เผ็ด” เด็กสาวตักอาหารฝีมือน้าชายเข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อย
“น้องพลอยกินช้าๆ สิเดี๋ยวก็ได้ติดคอกันพอดี”
“ก็พลอยหิวนี่คะ เขาว่าตอนเป็นเมนส์จะหิวมากกว่าปกติใช่ไหมคะพี่พิมพ์”
“ก็ประมาณนั้นแหละคะ”
“ก็น้าไม่เคยเป็นเมนส์ก็เลยไม่รู้ แล้วน้องพลอยอยากกินอะไรเพิ่มไหม”
“ไม่แล้วค่ะแค่นี้ก็เยอะแล้วค่ะ”
พิมพ์พันดาวทานอาหารจนอิ่มก็อาสาจะเป็นคนล้างจานแต่ตรัยคุณก็ไม่ยอมให้เธอล้างหญิงสาวจะนั่งคุยกับพลอยมนต่ออีกนิดก่อนจะขอตัวกลับบ้านและรอเวลาที่ช่างจะเข้ามทำงาน
พอถึงเวลาลาที่นัดไว้คนงานและหัวหน้าก็มาที่หน้าบ้านพร้อมกับตรัยคุณ ชายหนุ่มให้หัวหน้าคนงานแนะนำตัวเองและลูกน้องอีกสี่คนกับพิมพ์พันดาวได้รู้จักครบทุกคนเพราะจากนี้พวกเขาจะต้องเข้าออกบ้านของเธออีกอย่างต่ำก็น่าจะเป็นสองสัปดาห์
เมื่อรู้จักกับเจ้าของร้านยาที่กำลังจะสร้างหัวหน้าคนงานก็คุยกับตรัยคุณเรื่องรายละเอียดต่างๆ อีกครั้งก่อนจะเริ่มทำงาน พิมพ์พันดาวมองท่าทางจริงจังของตรัยคุณเวลาที่เขาคุยงานก็ทำให้นึกไปถึงวันที่เจอเข้าที่งานวัดซึ่งวันนั้นเขาดูขี้เล่นผิดกับตอนนี้มาก อีกทั้งวเลาที่เขาทำกับข้าวและอยู่กับหลานสาวก็ท่าทางอ่อนโยนจนเธอไม่รู้เลยว่าแบบไหนคือตัวตนที่แท้จริงของชายคนนี้กันแน่
หญิงสาวยืนฟังที่เขาคุยกับหัวหน้าช่างซึ่งบางครั้งเขาก็หันมาถามความเห็นของเธอ พิมพ์พันดาวฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่พอตรัยคุณธอธิบายเธอก็พอจะมองภาพรวมทั้งหมดออกและเธอก็เพิ่งรู้ว่าคนที่ออกแบบร้านก็คือตรับตคุณ
เมื่อคุยเสร็จหัวหน้าช่างก็ขอตัวไปสั่งงานลูกน้องส่วนเจ้าของร้านก็ยังยืนอยู่กับตรัยคุณอย่างเดิม
“คุณไปเอาลังน้ำแข็งมาจากไหนเหรอ” หญิงสาวถามแล้วชี้ไปยังลังน้ำแข็งสีส้มที่วางอยู่ข้างรั้วซึ่งตอนนี้มีโต๊ะตัวเล็กกับเครื่องดื่มชูกำลังและน้ำอัดลมรวมถึงแก้วพลาสติกวางรวมกันอยู่
“ก็ที่ร้านขายของตรงหัวมุม เขามีลังให้ยืมแล้วจะเอาน้ำแข็งมาส่งทุกวัน”
“คุณจ่ายไปเท่าไหร่เดี๋ยวฉันโอนคืนให้ค่ะ”
“เขายังไม่เก็บเงินหรอกครับรอจบงานแล้วจะคิดทีเดียวพวกเครื่องดื่มที่เอามาถ้ากินไม่หมดเอาก็ไม่คิดเงิน”
“มีแบบนี้ด้วยเหรอคะ เขาไม่กลัวเราโกงเหรอ”
“ไม่หรอกครับปกติถ้าเป็นคนอื่นก็จะต้องจ่ายค่ามัดจำถึงแต่นี่เป็นร้านของลูกศิษย์พ่อคุณเขาเลยให้เราเอามาก่อน”
“ค่ะ แต่ก็ขอบคุณนะคะที่จัดการทุกอย่างให้ แล้วระหว่างที่เขาทำงานฉันต้องมาดูไหม”
“ไม่ครับ ผมคุยกับหัวหน้าช่างแล้วถ้าเขาจะเอาอะไรหรือถามอะไรเขาจะมาถามที่ผมก่อน ถ้าผมตัดสินใจไม่ได้ผมจะโทรหาพิมพ์เอง คุณเอาเบอร์โทรคุณให้ผมนะขอไลน์ด้วยก็ดีเพราะอาจต้องส่งรูปบ้าง” ตรัยคุณส่งโทรศัพท์ของตนให้เธอกดเพิ่มเบอร์โทรศัพท์และแอดไลน์ ซึ่งตรัยคุณแค่หาข้ออ้างขอเบอร์ของพิมพ์พันดาวเธอเท่านั้นเพราะเรื่องงานคงไม่มีอะไรต้องติดต่อเพราะเขาคิดว่าทุกอย่างคงเป้นไปตามที่ได้คุยกันไว้ตังแต่แรกแล้ว
“เรียบร้อยค่ะ แล้วอาหารกลางวันล่ะคะพิมพ์ต้องเตรียมให้คนงานด้วยไหม”
“ไม่ต้องหรอกครับเขาจะหาทานกันเอง คุณเข้าบ้านเถอะ ช่วงแรกแบบนี้ยังไม่มีอะไรต้องดูมาก เดี๋ยวผมจะไปส่งน้องพลอยเรียนพิเศษขากลับจะแวะมาดูให้” ตรัยคุณอยากจะชวนเธอไปส่งหลายสาวด้วยกันเพราะอยากจะคุยกับเธอมากขึ้นแต่อีกใจก็คิดว่ามันยังเร็วไปและกลัวเธอจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
“ค่ะ” พิมพ์พันดาวพยักหน้าเขาใจก่อนจะเดินกลับยังบ้านของตนเองที่อยู่ด้านในและปิดปตระตูลงกลอนอย่างแน่นหนาเพราะคนงานที่มาทำนั้นมีแต่ผู้ชายทั้งนั้น
ปกติแล้วที่บ้านจะจะมีเด็กชื่อแป้งที่เธอจ้างให้มาช่วยงานบ้าน ซักซักผ้ารีดผ้าและทำความสะอาดบ้านแต่ก็จะมีวันหยุดให้คือวันอาทิตย์แต่บังเอิญว่าเสาร์นี้บิดของฌะอไม่อยู่พิมพ์ดาวก็เลยให้แป้งหยุดทั้งเสาร์และอาทิตย์เพราะอยากจะอยู่แบบเงียบๆ คนเดียว
หญิงสาวนั่งดูรายการยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นจะต้องมีในร้านก่อนจะรวบรวมเป็นไฟล์เดียวกันแล้วส่งเข้าแทปเล็ตเพื่อง่ายต่อการเปิดดู ระยะเวลาก่อสร้างที่บิดาทำสัญญาไว้คือทุกอย่างจะต้องเสร็จถายในเวล 20 วันและเธอมีเวลาตกแต่งร้านรวมถึงเอาของมาลงอีก 10 วันเนื่องจากบิดาของเธอให้หลวงพ่อที่วัดดูฤกษ์ดีสำหรับวันเปิดร้านมาแล้ว
เธอนั่งทำงานจนใกล้จะถึงเวลาอาหารกลางวันพิมพ์พันดาวคิดว่าจะไปอุดหนุนร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ถัดจากนี้ไม่ไกลเพราะบิดาบอกว่าให้เธอหัดมีมนุษยสัมพันธ์กับคนอื่นบ้างซึ่งเธอก็เห็นด้วยกับท่านเพราะถ้าเปิดร้านแล้วเธอก็อยากใคนรู้จักใกขึ้น
แต่ยังไม่ทันออกไปอย่างที่คิดไว้ตรัยคุณก็โทรศัพท์เข้ามาเสียก่อน หญิงสาวรับกดรัยสายและเดินออกมาหน้าบ้านเพราะคิดว่าเขาโทรมาถามเรื่องงาน
“ฮัลโหลพิมพ์ กินข้าวกลางวันหรือยัง” ปลายสายถามเสียงดังดังแข่งกับเสียงแม่ค้าที่กำลังรับออเดอร์ของคนก่อนหน้า
“ยังค่ะ”
“ดีเลยอย่าเพิ่งกินอะไรนะตอนนี้ผมอยู่ร้านราดหน้าในตลาดว่าจะซื้อไปเผื่อคุณด้วยแต่ไม่รู้ว่าคุณชอบกินแบบไหน”
“อย่าเลยค่ะฉันเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่าเร็วๆ รีบบอกมาว่าจะเอาแบบไหนเส้นอะไร”
“หมี่ขาวราดหน้าหมูหมักค่ะ” พิมพ์พันดาวรีบตอบเพราะเธอได้ยินเสียงแม่ค้าถามเขาว่าจะเอาอะไรบ้าง
“รอไม่ถึง 15 นาทีนะ” เขาบอกก่อนจะวางสาย
หญิงสาวเดินเข้าครัวจากนั้นก็เอาฝรั่งที่อยู่ในตู้เย็นออกมาล้างก่อนจะเฉาะเป็นชิ้นใส่จานเพราะคิดว่าจะชวนตรัยคุณทานด้วยเนื่องจากเมื่อเช้าเธอไปทานที่บ้านของเขามาแล้ว