บทที่ 2 หน้าที่
ป้าอุ่นพาไพลินเดินมายังห้องนอนใหญ่ด้านหลังเรือนไม้ห้องนั้นกว้างมากมีประตูกระจกเปิดออกไประเบียงเพื่อชมพรรณไม้ธรรมชาติ เตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์ตั้งอยู่ด้านขวาสุดของห้องส่วนด้านซ้ายจะเป็นส่วนโซฟาชุดหรูหราไว้พักผ่อนดูโทรทัศน์สีจอแอลซีดีขนาดใหญ่ที่กรุเข้าไปในตัวผนังห้องอย่างลงตัว
ถัดจากเตียงใหญ่เป็นห้องน้ำที่ถูกสร้างไว้กว้างขวางเพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าของห้องผู้พิการโดยเฉพาะ มีเตียงไว้สำหรับนวดกายภาพบําบัดและอ่างอาบน้ำหินอ่อนสวยงาม ทางด้านปลายเตียงมีผ้าม่านฉากกั้นเป็นสัดส่วนมีเตียงเล็กขนาดห้าฟุตพร้อมชุดเครื่องนอนสีฟ้าอ่อนเรียบหรูโต๊ะเครื่องแป้งขนาดเล็กพร้อมเก้าอี้และตู้เสื้อผ้าขนาดกะทัดรัดครบชุด
"นี่เป็นห้องนอนคุณท่านและหนูลินจะต้องพักในห้องนี้ด้วยนะจ๊ะเพื่อความสะดวกในการดูแลท่านทุกเวลาที่ท่านเรียกน่ะ" ป้าอุ่นบอกกับไพลินด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"อ่ออีกอย่างป้าอยากจะบอกหนูนะจ๊ะ อย่าไปคิดมากกับคำพูดของคุณท่านๆ ผ่านอะไรที่เลวร้ายกับชีวิตมาเลยทำให้กลายเป็นคนปากร้ายแต่จริงๆ แล้วท่านเป็นคนดีคนหนึ่งทีเดียว" ไพลินรับคำและตอบกลับป้าอุ่นไปด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
"ถึงจะยังไงหนูก็ต้องอดทนให้ได้ค่ะป้าเพื่อความอยู่รอดของครอบครัวของหนูค่ะ ว่าแต่หนูต้องทำอะไรตอนไหนบ้างคะป้า" แม่บ้านคนสนิทยิ้มอย่างเอ็นดูไพลินก่อนจะบอกหน้าที่ๆ หล่อนต้องทำในแต่ละวัน
"เช้าก่อนคุณท่านตื่นหนูต้องเตรียมเสื้อผ้าและเตรียมห้องน้ำให้พร้อมเช่นน้ำอุ่นในอ่างผ้าเช็ดตัว พอคุณท่านตื่นก็ดูแลให้ท่านทำธุระในห้องน้ำพร้อมทั้งแต่งตัวให้ท่าน เสร็จก็จะมาที่ระเบียงเพื่อรับกาแฟและอาหารเช้าท่านชอบทานที่ระเบียงน่ะ สายท่านจะมาที่ห้องโถงเพื่อเช็คงานธุรกิจของท่านและหนูต้องคอยอยู่เผื่อท่านต้องการอะไร ส่วนอาหารกลางวันก็แล้วแต่ว่าท่านจะสั่งให้ตั้งที่ไหน ต่อมาบ่ายก็นวดกายภาพประมาณ2 ชม.และต่อด้วยช่วงอาหารว่าง และมื้อเย็นตอน19.00น.นะจ๊ะ นอกเหนือจากนี้ก็แล้วแต่คุณท่านจะสั่งการจ้ะ ไหวนะจ๊ะ หนูลิน" ป้าอุ่นเอ่ยถามหลังจากร่ายยาวเรื่องหน้าที่ของไพลินที่ยืนฟังตาแป๋วอย่างตั้งใจ
"ไหวอยู่แล้วค่ะป้าแค่นี้สบายมาก"หล่อนตอบพลางคิดในใจว่า"งานแค่นี้ไม่ได้หนักหนาอะไรเลยถ้าเทียบกับเงินเดือนที่ได้รับทำไมคนดูแลคนก่อนๆ ถึงลาออกกันไปเยอะแยะนะ งงจริง"
"ขอให้ทำให้ได้อย่างที่ปากเก่งเถอะ เอาเสื้อผ้าไปเก็บแล้วเริ่มทำงานได้เลย อย่าคิดอู้ทำงานให้สมกับเงินเดือนด้วย เดี๋ยวจะถึงเวลานวดแล้วเธอต้องมาเรียนนวดจากหมอกายภาพ ฉันจ้างมาสอนเธอ 1 อาทิตย์เธอต้องนวดเป็นเข้าใจมั้ย"
แทนไทกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้มดุ เขาเลื่อนรถเข็นไฟฟ้าอัตโนมัติเข้ามาในห้องตอนไหนหล่อนก็ไม่ทันสังเกต
"ค่ะคุณท่าน" ไพลินรับคำในสมองหล่อนก็ได้แต่ครุ่นคิดว่าอีตาคุณท่านนี่บ้าอำนาจชะมัดนี่จะพูดดีๆ กันบ้างไม่ได้รึไงนะ แต่ก็รีบเอากระเป๋าไปเก็บกำลังจะเปลี่ยนชุดก็ชะงักนึกขึ้นได้ว่าหล่อนไม่ได้อยู่ลำพังในห้องจึงชะโงกหน้าไปดูว่าคุณท่านหน้ายักษ์ยังอยู่รึเปล่า
"งั้นป้าจะไปดูงานในครัวนะคะคุณท่าน"
เสียงป้าอุ่นบอกกับแทนไท หล่อนมองเห็นป้าอุ่นเดินออกจากห้องไป จึงมองด้านหลังของคุณท่านเพลินไปหน่อยไหล่กว้างผมดกดำหยักศกนิดๆ โดยไม่ทันระวังแทนไทหันเก้าอี้รถเข็นมาทางหล่อนซึ่งชะโงกหน้าอยู่ตรงม่านฉากกั้นอย่างลืมตัว
"นี่เธอ ลินใช่ไหม มัวยืนชมวิวทิวทัศน์อะไรรีบเตรียมตัวให้พร้อมเดี๋ยวหมอกายภาพคงใกล้จะมาถึงแล้ว หรือต้องให้ฉันเข้าไปช่วยเปลี่ยนชุดให้รึไง" ไม่พูดเปล่าแทนไทเลื่อนรถเข็นมาจนชิดม่านที่หล่อนยืนอยู่เล่นเอาไพลินผงะถอยหลังอย่างตกใจหน้าตาเหรอหรา
"มะไม่ต้องค่ะฉันเปลี่ยนเองได้" หล่อนรีบปิดม่านและเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรีบร้อนตาก็มองม่านกั้นอย่างระแวงกลัวคนหน้ายักษ์หลังม่านจะเปิดเข้ามา
แทนไทแอบยิ้มขำที่มุมปากเล็กน้อยกับท่าทีเหรอหราของไพลิน เจ้าหล่อนเป็นคนตาโตอยู่แล้วเวลาตกใจแล้วเบิกตากว้างทำให้ตาของหล่อนโตเหมือนไข่ห่านเลยทีเดียวริมฝีปากอวบอิ่มของหล่อนเผยอกว้างยามตกใจเป็นภาพที่น่าเอ็นดูปนน่าขันสำหรับเขายิ่งนัก
เอ๊ะ! แล้วทำไมเขาต้องมานั่งยิ้มคนเดียวกับท่าทางของยัยเด็กบ๊องนี่ด้วย คิดได้ดังนั้นเขาก็หุบยิ้มลงทันที ท่าทีสุขุมเยือกเย็นไร้อารมณ์เข้ามาแทนที่อย่างเคย เขาเลื่อนรถเข็นตรงไปที่ระเบียงเพื่อรอหมอกายภาพบำบัดและไพลินคนดูแลคนใหม่ของเขา ผู้หญิงสวยๆ อย่างเธอจะทนได้สักกี่วันนะกับงานดูแลคนพิการอย่างเขาไม่มีใครทนอยู่กับคนง่อยเปลี้ยเสียขาได้นานหรอกเขารู้ดี
แทนไทเหม่อมองออกไปนอกระเบียง นึกถึงภาพอดีตอย่างปวดร้าวมันเป็นความเจ็บปวดในหัวใจที่เขาปกปิดมันไว้ด้วยความเย็นชาและเกรี้ยวกราด จะไม่มีใครได้เห็นความอ่อนแอของเขาหรอก ไม่มีวัน....
