บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 เมื่อรักปักใจ2

ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี...

เพ่ยหนิงที่หลายครั้งหลายคราเคยคิดว่าบนโลกใบนี้จะมีความรักที่ทำให้คนใจเต้นรัวอยู่จริงหรือไม่ นางปรารถนาพิสูจน์ยิ่ง จึงแอบเร้นกายจากสำนักยวี้จู๋มาท่องเที่ยวที่นี่คนเดียว

กระทั่งเจอหนุ่มน้อยจอมเสเพลประจำหมู่บ้านเข้าหา แล้วเกี้ยวพาอย่างหน้าไม่อาย ตามติดหมายลวนลามอย่างย่ามใจ

แน่นอนว่าเพ่ยหนิงสามารถฆ่าคนได้ภายในฝ่ามือเดียว

ทว่าฝ่ามือของนางไม่สังหารชาวบ้านทั่วไป นางจะเก็บไว้ฆ่าศัตรูตัวฉกาจฝีมือทัดเทียมกันเท่านั้น

ส่วนเจ้าเสเพลตรงหน้าก็แค่ชายธรรมดา หาได้มีวิชายุทธ์ไม่

เพ่ยหนิงจึงไม่คิดลงมือ ไม่ใช้ความรุนรแง เพียงเบี่ยงกายเดินหนี แสร้งทำทีเป็นบีบน้ำตาอย่างน่าสงสารหวังขอความเห็นใจ ให้อีกฝ่ายรามืออย่างละมุนละม่อม

หากแต่หนุ่มน้อยเจ้าสำราญผู้นี้กลับไม่ยอมจากไปง่ายๆ ทั้งยังตามติดคิดรังแกสตรีที่อ่อนแอกว่าหมายรวบรัด พริบตานั้นบุรุษผู้หนึ่งพลันยื่นมือช่วยเพ่ยหนิงจากหนุ่มเสเพล

เขาคือบุรุษร่างสูงผิวขาวท่าทางคล้ายบัณฑิตคงแก่เรียน ท่าทีมีความเป็นสุภาพชนเต็มเปี่ยม

และด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่กว่าและอายุที่มากกว่าของเขา หนุ่มน้อยที่กำลังทำตัวเกเรกับเพ่ยหนิงจึงล่าถอยไปมิกล้าตอแยอีก

เขาทั้งรูปงาม มีน้ำใจ ใฝ่คุณธรรม

และใช่ เขาคือรักแรกพบของเพ่ยหนิง คือบุรุษที่ทำให้นางใจเต้นรัวได้อย่างแท้จริง

บุรุษใจดีผู้นี้ก็คือเฉินเฟิง

เพ่ยหนิงวิ่งตามไล่ถามจนรู้นามเขา

นอกจากนั้นยังเหมือนฟ้าประทานบันดาลฝัน

เมื่อมีอันธพาลหนุ่มใหญ่มาคุกคามเพ่ยหนิง สาวน้อยยังได้เฉินเฟิงที่บังเอิญเห็นเหตุการณ์เข้าพอดิบพอดีดั่งชะตาลิขิตวาสนาพานพบอีกครา แน่นอนว่าอันธพาลกับบัณฑิตมิใช่ของคู่กันยิ่งมิใช่คู่ต่อสู้ชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน เฉินเฟิงจึงฉุดมือเพ่ยหนิงวิ่งหนี

นับเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับบุรุษธรรมดาผู้หนึ่งโดยแท้

เจ้าอันธพาลผู้นั้นดื่มเหล้าจนเมามายจึงวิ่งตามไปล้มไปสุดท้ายก็เลิกรา เหลือเพียงความรู้สึกหนึ่งที่ไม่อาจลบล้างเลือนราง มือเล็กนุ่มของเพ่ยหนิงที่ถูกเฉินเฟิงจับยังคงอุ่นร้อนจนถึงบัดนี้ หัวใจที่เต้นแรงก็เช่นกัน

วันนั้นเส้นผมของเพ่ยหนิงหลุดลุ่ยหัวยุ่งเหยิงอัปลักษณ์นัก เฉินเฟิงมองแล้วหัวเราะน้อยๆ ช่วยจัดปิ่นให้นาง

สาวน้อยเบิกตากลมโต อกข้างซ้ายเต้นกระหน่ำดุจรัวกลอง

หากเป็นเพียงรักแรกพบฉาบฉวยคงไม่เท่าใด แต่เพ่ยหนิงกลับรู้สึกตกหลุมรักแบบหัวปักหัวปำยากถอนตัวในเสี้ยวเวลานั้น นางถึงขั้นทำตัวหน้าหนา แสร้งเดินล้มจนเจ็บข้อเท้า แล้วร้องไห้ออดอ้อนให้เขาไปส่งที่บ้านของหานตงเพราะอยากอยู่กับเขานานๆ

ท้ายที่สุดยิ่งกว่าสวรรค์บันดาลให้สมใจทุกความปรารถนา

เมื่อเรือนของหานตงยังอยู่ใกล้กับเรือนของเฉินเฟิง

เพ่ยหนิงจึงใช้ฐานะหลานสาวเจ้าสำนักบีบบังคับหานตงให้รับนางเป็นบุตรสาวบุญธรรม เพื่อความแนบเนียนในการอาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้

เมื่อหานตงรู้ถึงต้นสายปลายเหตุก็ถึงกับอุทานเสียงห้วน “ไอ่หยา เจ้าชอบเจ้าหนุ่มหน้าตางดงามในเรือนข้างๆ เนี่ยนะ”

นอกจากเสียงแหบห้วนแล้วยังมีสายตาห่วงใยชัดเจน

แน่นอนว่ามิได้ห่วงใยเพ่ยหนิง

หานตงกล่าวอีก “ข้าล่ะห่วงเจ้าหนุ่มผู้นั้นยิ่งนัก อ๊ะ! ใจเย็น ข้าไม่สะดวกประมือกับหลานสาวของท่านอาจารย์ เก็บไอสังหารของเจ้าเร็วเข้า”

สาวน้อยจึงเก็บมีดหั่นผักไว้บนผนังห้องครัวดังเดิม

“ท่านคงไม่คิดขัดขวางความรักของข้ากระมัง”

ชายร่างใหญ่คลี่ยิ้มขบขัน พลางเก็บเขียงแล่เนื้อวางเข้าที่ เขาดึงผ้าเช็ดมือบนไหล่มาซับเหงื่อบนหน้าแล้วเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ไม่ห้ามๆ เจ้าเติบโตเป็นสาวเต็มวัยแล้ว ปีนี้สิบหกแล้วกระมัง สมควรมีความรักจริงๆ นั่นล่ะ”

เขาทำท่าครุ่นคิดหนักอก ให้ความร่วมมือเต็มที่

“แต่ข้าว่า หากต้องการเข้าหาเจ้าบัณฑิตหนุ่มหน้าขาวผู้นั้น เจ้าสมควรทำตัวให้สมเป็นกุลสตรีสักหน่อย ข้าเห็นเขาพูดจานุ่มนวลกิริยาอ่อนโยนท่วงท่าเรียบร้อยงดงามเหลือเกิน บุรุษเช่นนี้ข้าดูออกว่าไม่ชอบสตรีก้าวร้าวแน่นอน”

คำว่าก้าวร้าวย่อมหมายถึงพูดจาฉะฉานเสียงดังท่าทีผ่าเผยท่วงท่าห้าวหาญต่อสู้เป็นต่อยตีได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการมีวรยุทธ์เลย

และบุรุษเรียบร้อยไม่มีทางชอบสตรีก้าวแกร่งเก่งกาจ เขาเรียกว่าศีลธรรมไม่ทัดเทียมมิอาจเคียงข้างนั่นล่ะ

ดังนั้น เพ่ยหนิงจึงเก็บงำความห้าวหาญของตนอย่างมิดชิด กลายร่างเป็นเพียงสาวน้อยผู้หนึ่งที่มีกิริยาเรียบร้อยท่าทีอ่อนหวาน ซึ่งกำลังบ่มเพาะรักแท้กับพี่ชายข้างบ้าน...

[1]สำนักไผ่หยก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel