บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ยาในสุรา2

เขาแค่นสบถเสียงหนึ่ง มองอย่างเย็นชา แววตาดำดิ่งราวบ่อลึก ยื่นมือเรียวยาวที่มีเส้นเลือดปูดนูนเด่นปัดจอกสุราออกห่าง พรวดพราดลุกขึ้นทันที เดินไปอย่างไม่ไยดีต่อมารยาทพึงมีด้วยซ้ำ

รัชทายาทจ้าวไท่หรงมองตามยิ้ม ในดวงตาดอกท้อเผยความเจ้าเล่ห์ร้าย

ร่างสูงในชุดดำแลดูสง่างามเป็นพิเศษแม้เดินโอนเอนในความมืดสลัว

จ้าวเฟิ่งที่ลำตัวร้อนผ่าว กลางกายปวดหนึบเพราะดื่มสุราที่มียาบางอย่างผสมอยู่ ยามนี้ริมฝีปากบางเม้มแน่น เร่งรุดเดินไปตามทางศิลาอย่างคนที่ยากสะกดกลั้นอาการรุ่มร้อนเกินทานทน

จู่ๆ ตรงหน้าพลันปรากฏหญิงสาวในชุดงามหรูหราบอกฐานะไม่ธรรมดา ใบหน้าสะสวยหมดจด เดินมาขวางทางเอาไว้

“พี่เฟิ่ง”

นางเรียกจ้าวเฟิ่งอย่างสนิทสนมด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานปานน้ำผึ้ง

อ๋องหนุ่มหรี่ตาลง ความงามพิสุทธิ์แต่กลับยวนใจตรงหน้าทำกล้ามเนื้อตึงแน่นยิ่งเคร่งครัดกว่าเดิม

“น้องเหยา เจ้ามาทำอะไรที่นี่” จ้าวเฟิ่งถามเสียงพร่า

หญิงผู้นี้มีนามว่า หวังซูเหยา บิดาคือหวังซวี่ ขุนนางใหญ่ในราชสำนัก นับเป็นขุนนางน้ำดีผู้หนึ่ง ส่วนมารดาคือญาติผู้น้องของอดีตฮองเฮาผู้ล่วงลับซึ่งเป็นมารดาของเฉิงอ๋อง กล่าวก็คือ หวังซูเหยานับเป็นสตรีที่ไม่อาจดูเบาในเรื่องสายสัมพันธ์

หวังซูเหยามองจ้าวเฟิ่งด้วยสายตาตัดพ้อ มีน้ำตาเอ่อคลอน่าสงสาร สื่อนัยคล้ายต่อว่าสามีที่มิค่อยกลับบ้านมาดูดำดูดีภรรยา

“พี่เฟิ่ง รัชทายาททรงให้เหยาเอ๋อร์เข้าวังมาเพื่อพูดคุยกับท่านเรื่อง...เอ่อ...การหมั้นหมายของเราเจ้าค่ะ”

ไม่พูดเปล่า นางยังโถมกายอ้อนแอ้นเข้าใกล้ ส่งกลิ่นหอมเชิญชวนให้คนต้องโอบกอดเกินห้ามใจ

สองแขนงามราวหยกที่เกาะเกี่ยวไหล่หนาคล้ายเกาะเกี่ยวเข้าไปในอณูเนื้อตรงอกด้านซ้าย ความรู้สึกนี้แทรกผ่านเสื้อผ้าเข้าปะทะกล้ามเนื้อหน้าอกทำเอาหัวใจเต้นรัว จ้าวเฟิ่งขนลุกเกรียว

ลำคอบุรุษแห้งผาก หากเขาคล้อยตามนางสักเล็กน้อย แม้จะกึ่งผลักไสกึ่งโอนอ่อน นางย่อมเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ดังใจ

ทว่าจ้าวเฟิ่งแค่ขมวดคิ้ว เม้มริมฝีปากบาง ก้มมองนางนิ่งๆ มิได้กอด แค่ไม่หลบเลี่ยง

อาจเพราะร่างกายของเขาตอนนี้กำลังมีความต้องการที่เข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ สตรีผู้หนึ่งจึงเข้าประชิดได้อย่างง่ายดาย

หวังซูเหยายื่นมือจับสาบเสื้อตรงคอแกร่งแน่นขึ้น นางเงยหน้านวลที่มีแก้มแดงเรื่อ ช้อนดวงตาวาวฉ่ำ ริมฝีปากเผยอน้อยๆ ราวกับกลีบดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน มีน้ำหวานมากมายในนั้นเข้าใกล้เขามากกว่าเดิม

“พี่เฟิ่ง...”

จ้าวเฟิ่งมิทันได้ตอบหรือเผยปฏิกิริยาใด พอสิ้นเสียงหวาน นางยื่นหน้า ประกบริมฝีปากกับเขาทันที 

ทั่วตัวนางมีกลิ่นหอมไม่เว้นโพรงปาก รสชาติยังหวานมาก ยามนางยื่นปลายลิ้นนุ่มชื้นมาไล้เลียริมฝีปากเขา สัมผัสวาบหวามจากกลีบปากอ่อนนุ่มยิ่งแผ่ความร้อนขุมหนึ่งซาบซ่านไปทั่วร่าง ชายหนุ่มเบิกตากว้าง สั่นสะท้านไปทั้งตัว

แต่ยังไม่ทันที่ปลายลิ้นน้อยๆ จะอาจหาญมากไปกว่านั้น จ้าวเฟิ่งพลันเบี่ยงหน้าเม้มปากอย่างรังเกียจ หมัดของเขากำแน่น เพียรระงับโทสะมิให้เผลอฟาดฝ่ามือใส่ร่างเล็กจนตายตก

หวังซูเหยาเองก็ไม่ย่อท้อ นางรวบรวมความกล้าที่มีทั้งหมดในชีวิตสิบหกปี ปลิดความขวยเขินสะเทิ้นอายไปสิ้น เบียดกายนุ่มแนบชิดแผงอกแข็งแรง สองมือเล็กโอบเอวสอบไว้แน่น ลูบเบาๆ ส่งสัญญาณพร้อมทอดกายให้เขา ช่วยเขาจากยาเยี่ยงคนใจงาม

“พี่เฟิ่ง ข้ารักท่าน อย่าหมางเมินเย็นชาต่อข้าอีกเลย”

ด้านข้างเพียงสามก้าวคือห้องๆ หนึ่ง ซึ่งถูกจัดเตรียมไว้แล้ว พยานรู้เห็นที่ไว้ใจได้ก็พร้อมพรั่ง คืนนี้คือการเดิมพันครั้งสุดท้าย นางต้องได้แต่งงานกับเขา เป็นพระชายาเฉิงอ๋อง

“พี่เฟิ่ง แค่ท่านพยักหน้า ข้าหวังซูเหยา ต่อให้มิได้เป็นเอก มิได้รอง ข้าก็ยินดีทั้งนั้น ข้าพร้อมเคียงท่านโดยไม่โต้แย้งเจ้าค่ะ”

หากไม่ทำเช่นนี้ บุรุษที่หวงเนื้อหวงตัวเกินเอื้อมเช่นเขา นางก็ไม่รู้แล้วว่าต้องทำอย่างไรจึงจะได้ครอบครอง

เงาร่างสองสายพลันปรากฏเป็นภาพให้เห็นว่ากำลังกอดกระหวัดรัดรึงเข้าไปในห้องจนถึงเตียงนอน สองแขนบุุรุษโอบกอดสตรีร่างนุ่มอย่างคุมอารมณ์ไม่อยู่ ทั้งคู่พากันพลิกตัวจนพบความสุขสมหวานล้ำ เรือนร่างชุ่มเหงื่อไร้อาภรณ์ห่มกายเสียดสีกันครั้งแล้วครั้งเล่า พายุอารมณ์ที่จู่โจมทำคนเคี่ยวกรำจนรุ่งสาง…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel