บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ยาในสุรา1

รัชศกจิ้นหยวนปีที่สิบเก้า กลางเดือนสาม

ในโถงงานเลี้ยงอันโอ่อ่าหรูหรา เบื้องบนฝั่งแท่นประธานปรากฏเรือนร่างสูงศักดิ์ขององค์รัชทายาทเด่นสง่า

ใบหน้าคมสันหล่อเหลาและงดงามเป็นเอกมีรอยยิ้มน้อยๆ ประดับริมฝีปากสีแดงสดตลอดเวลา ให้ความรู้สึกอบอุ่นน่าค้นหา ทั้งน่าหลงใหลชวนฝันถึง

พระองค์สวมผ้าแพรสีม่วงลายมังกรสีขาวปักดิ้นสีทองอร่าม ขับเน้นให้เผยคำว่า ‘รูปงาม’ ยากหาใดเทียม

เขาคือองค์รัชทายาทแคว้นจิน นามจ้าวไท่หรง

ด้านข้างพระวรกายสูงค่าขององค์รัชทายาทจ้าวไท่หรงคือเรือนร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีดำเข้มของเฉิงอ๋อง นามจ้าวเฟิ่ง

เดิมทีหากไม่มีบุรุษสูงศักดิ์ผู้อื่นนอกจากรัชทายาท ทุกสายตาของบรรดาคุณหนูวัยกำดัดทั้งหลายต่างย่อมต้องมองเพียงว่าที่ประมุขแผ่นดินผู้นี้ผู้เดียว ทว่าวันนี้นั้นแตกต่าง เมื่อในงานเลี้ยงมีเฉิงอ๋องอยู่ด้วย ทุกสายตาจึงเปลี่ยนมาจับจ้องที่จ้าวเฟิ่งเป็นตาเดียว

เหล่าสาวงามนางรำในห้องรับรองก็เช่นกัน พวกนางต่างแอบมองบุรุษหนุ่มเจ้าของใบหน้าคมคายเปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์เหลือร้ายอย่างจ้าวเฟิ่งจนตาเป็นมัน

หากเอ่ยว่ารัชทายาทหนุ่มทรงหล่อเหลารูปงามเหนือผู้คน บุรุษผู้เหมาะสมเปรียบเทียบเท่าเทียมย่อมมีหนึ่งเดียวคือเฉิงอ๋อง

เพราะนอกจากความคมคายสง่างามที่มีเฉกบุรุษสูงศักดิ์ เขากลับมีความคมคร้ามโดดเด่นเหนือพี่ชายอย่างจ้าวไท่หรง

เฉิงอ๋องผู้นี้ร้อยวันหมื่นราตรียากนักจะมีโอกาสได้พบพาน ความทรงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์นี้เป็นที่โจษจัน แค่สายตาของเขาที่มองมาอย่างไม่ตั้งใจก็สามารถสะกิดใจสตรีให้ว้าวุ่นหวั่นไหวได้แล้ว เหล่าสตรีได้เห็นเขาเพียงครั้ง ล้วนเก็บไปฝันสมคำร่ำลือ

งานเลี้ยงในตำหนักบูรพาเกิดขึ้นและดำเนินเหมือนทุกครา

ทว่าในจอกเหล้าวันนี้คล้ายมีสิ่งหนึ่งเปลี่ยนไป มิใช่รสชาติ แต่เป็นความรู้สึกหลังดื่มเข้าปากเพียงไม่กี่จอก

จ้าวเฟิ่งรู้สึกร้อนรุ่มอย่างประหลาดมากขึ้นทุกขณะ

ภายในงาน ผู้คนต่างสรวลเสเฮฮา จ้าวไท่หรงร่ำสำราญกับสาวงามที่คอยประกบสงบยอมอยู่ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา หันไปด้านหนึ่งมือเรียวเสลาก็ยื่นกับแกล้มถึงริมฝีปากอันสูงค่า หันอีกฝั่งยังมีมือนุ่มประคองจอกสุราส่งให้อย่างแช่มช้าชดช้อย

เขาหันมายกจอกสุราขึ้น สองตาเจ้าชู้เสเพลเหล่มองน้องชายผู้ทำตัว ‘สุภาพชนผู้สง่างาม’ ด้วยรอยยิ้มเยาะ

“น้องพี่ เจ้าเอาแต่วางท่าเช่นนี้ไม่เมื่อยหรือไร?”

คำพูดรัชทายาทแฝงนัยชัดเจนว่ารู้ตัวตนที่แท้จริงของน้องชายที่เหมือนเสือร้ายไม่ต่างจากพี่ชายคนนี้สักนิด

ช่วงเวลางดงามยามค่ำคืน คนย่อมหื่นกระหายไม่ต่างกัน

คำพูดเมื่อครู่หาใช่ต้องการคำตอบใดเพียงหยอกเย้าเท่านั้น ยิ่งเห็นน้องชายมีสีหน้านิ่งครึมข่มอารมณ์ก็ยิ่งชอบใจ รัชทายาทมองยิ้มๆ ก่อนหันไปสนใจสองสาวงามเหนือสามัญข้างกายตนต่อ

จ้าวเฟิ่งสวมชุดสีดำสนิทปักลายสีแดงสดตัดกันอย่างดุดัน ยิ่งขับเน้นให้ใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อแลดูทรงเสน่ห์เกินบรรยาย

เขานั่งนิ่งๆ เอนกายอิงพนักเก้าอี้เงียบๆ ทำตัวสงบราวกับไร้ตัวตน แต่กลับไม่มีผู้ใดมองข้ามรัศมีเปล่งประกายของเขาได้

อ๋องหนุ่มมิอาจปลีกตัวออกได้ตามแต่ใจ จำต้องนั่งมองนางรำโยกย้ายบั้นท้าย พาตัวนุ่มนิ่มราวไร้กระดูกพลิ้วกายยั่วเย้าเร้าอารมณ์ไม่สิ้นสุด

ยังไม่นับรวมสาวงามหยาดเยิ้มอย่างหาตัวจับยากนางหนึ่งที่นั่งขนาบอยู่ข้างกายคอยปรนนิบัติรินสุราพะเน้าพะนอเอาใจ  แสดงออกชัดเจนว่าปรารถนาตำแหน่งใดในตำหนักอ๋องก็ได้ ขอเพียงคืนนี้ได้มีช่วงเวลาหอมหวานด้วยกันจนล่วงพ้นราตรีวสันต์

นางผู้นี้มีกลิ่นกายหอมหวนชวนสนเท่ห์ยิ่งนัก “ท่านอ๋อง สุราเพคะ”

สาวงามยื่นเรียวนิ้วขาวผ่องนวลเนียนส่งจอกสุราให้จนถึงริมฝีปากหยักได้รูปด้วยกิริยาเย้ายวน น้ำเสียงไพเราะอ่อนหวาน ดวงตาพราวระยับมองอย่างเชิญชวนพร้อมขึ้นเตียงตลอดเวลา

งานสังสรรค์ค่อยๆ ล่วงพ้น คนหลายคนร่ำสำราญมัวเมา  ข้างกายพวกเขามีสาวงามเอาใจ พวกเขาจึงเอาแต่ใจกับสาวงาม

เปลวเพลิงในตะเกียงเผาไหม้เวลาไปพอควร ทั้งสุราปลุกอารมณ์และคนงามเร้าอารมณ์ บุรุษผู้หนึ่งจะทนอยู่อย่างไรไหว ในที่สุดจ้าวเฟิ่งก็สะกดกลั้นไฟในใจเอาไว้มิได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel