บทย่อ
“รับเงินก้อนนี้ไป แล้วนับจากนี้ ห้ามมารบกวนฉันอีก” “คุณคิดว่าฉันเป็นคนแบบไหนกัน คุณตีค่าตัวฉันเป็นราคา เหยียดหยามฉันมากไปแล้ว เอาเงินโง่ ๆ ของคุณกลับไป หวังว่านับจากนี้พวกเราอย่าได้พบเจอกันอีก ลาก่อน” เรื่องย่อ เรื่องย่อ ยากหักใจให้ลืมรัก รินรดาไม่เคยคิดมาก่อนว่า แม่สามีจะมอบเงินก้อนหนึ่งให้เธอ เพื่อให้เธอออกไปจากชีวิตของเขา ด้วยความจำเป็นหญิงสาวจึงจำเป็นต้องตัดใจ แล้วเดินออกมาจากชีวิตของ แดน หรือเขตแดน เกียรติภูมิดนัยกูล บุตรชายของคุณรัศมี เกียรติภูมิดนัยกูล ซึ่งเธอเป็นนักธุรกิจชื่อดัง ส่วนรินรดาคือผู้หญิงหน้าเงิน ซึ่งแม่สามีชิงชังตั้งแต่แรกพบ คุณรัศมี มารดาของเขตแดน จำใจให้ลูกชายจดทะเบียนสมรสกับรินรดา และ...ในเมื่อรัศมี ไม่ชอบหน้าลูกสะใภ้ จึงวางแผนต่าง ๆ นานา เพื่อเสือกไสรินรดาให้ออกไปในที่สุดวันเวลาที่รอคอยก็มาถึงเสียที แต่แล้ววันเวลาทำให้อดีตสามีได้มาพบกับอดีตภรรยาอีกครั้ง เขาเห็นว่ารินรดาลำบากและย้อนกลับไปคิดถึงวันที่หย่ากับเธอ เขตแดนไม่ได้มอบค่าเลี้ยงดูให้รินรดา ด้วยเหตุนี้จึงยื่นข้อเสนอให้เธอลงชื่อในสัญญาว่านับจากนี้ ห้ามให้เธอยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกเป็นอันขาด ทว่าแดนกลับคาดไม่ถึงว่า รินรดาจะเย่อหยิ่งถึงกับฉีกสัญญา แล้วปามันใส่หน้าเขา เธอยังต่อว่าเขาอีกหลายคำ จนทำให้เขาตกตะลึงนิ่งงันไปชั่วครู่ เมื่อเห็นน้ำตาของเธอร่วงหล่นลงมาเป็นสาย ส่วนหญิงสาวเจ็บปวดใจนักความรู้สึกปวดร้าวถูกเหยียดหยามนั้นหวนกลับคืนมาอีกครั้ง หัวใจเธอเจ็บแปลบรวดร้าวเหลือเกิน เพราะเขาคิดว่าเธอยอมขายศักดิ์เพียงเพราะเงินอย่างนั้นหรือ “รับเงินก้อนนี้ไปซะ แล้วนับจากนี้ ห้ามมารบกวนผมอีก” “คุณคิดว่าฉันเป็นคนแบบไหนกัน คุณตีค่าตัวฉันเป็นราคา เหยียดหยามฉันมากไปแล้ว เอาเงินโง่ ๆ ของคุณกลับไป หวังว่านับจากนี้ไปพวกเราอย่าได้พบเจอกันอีก ลาก่อน”
ตอนที่ 1 คำยุแยงของแม่สามี
ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง คุณรัศมีได้นัดพบลูกสะใภ้ที่ชิงชังเข้าไส้ เมื่ออีกฝ่ายมาตามนัดแล้วหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ ด้วยความร้อนใจ คุณรัศมีรีบยื่นซองขาวให้ทันที
“นี่อะไรคะคุณแม่” หล่อนถามตามความใสซื่อ แววตาของเธอจึงสงสัยนักว่าในซองนี้มีอะไรซ่อนอยู่
“เงินจำนวนนี้ น่าจะทำให้เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้นะ หวังว่าเธอจะตัดใจจากตาแดนได้” หญิงสูงวัยรีบร้อนตัดบทสนทนา เกรงว่าลูกชายจะพบเห็นเข้า แรกเริ่มลูกชายขอร้องอยากแต่งงานกับรินรดา
หากไม่ได้แต่งงานกับอีกฝ่ายแล้วละก็ เขาจะไม่รับช่วงกิจการ ด้วยความจำใจรัศมีจึงรับปาก แต่มีข้อแม้ว่าให้จดทะเบียนสมรสไร้งานแต่ง เท่ากับว่ายื่นหมูยื่นแมวให้ลูกชายได้คิดตรึกตรอง
รัศมีหว่านล้อมลูกชายไปอีกครู่ใหญ่ หลังจากนั้นเขตแดนจึงตัดสินใจรับปากมารดา ว่าจดทะเบียนสมรสแล้วค่อยแต่งงานกับรินรดาในภายหลัง
เมื่อนานวันเข้าลูกชายแสนดีก็ดื้อรั้นขึ้นทุกที หากไม่ใช่เพราะนังตัวดีคนนี้ยุแยงแล้ว ลูกชายหัวอ่อนเช่นเขตแดนจะกล้าต่อกรกับเธอหรือไรกัน วันนี้เป็นโอกาสอันดีงาม ที่จะให้รินรดาถอยห่างจากลูกชายของเธอ
เพราะเขตแดนมีอนาคตอันสดใสรออยู่ ไม่ใช่จมจ่อมอยู่กับผู้หญิงไร้ค่า ไร้ราคาคอยถ่วงอยู่อย่างนี้ รัศมียังคงดันซองสีขาวให้อีกครั้ง แววตาของหล่อนจงใจให้อีกฝ่ายรับไว้ “รับมันไปสิ แล้วก็หย่ากับตาแดนซะ”
“คุณแม่คะ รินไม่คิดว่าคุณแม่จะทำร้ายแดนได้ลงคอ คุณแม่ก็ทราบดีว่า แดนกับรินรักกัน” ความรู้สึกตีบตันจนแทบจะพูดไม่ออก ไม่คิดไม่ฝันว่าแม่สามีของเธอจะใจร้ายถึงเพียงนี้ ช่างหักหาญใจเธอเกินไปหรือไม่ เธอไม่ใช่ผู้หญิงหน้าเงินเลือกเขตแดนก็เพราะความรัก ไม่ใช่เพราะมีฐานะร่ำรวยเป็นลูกชายนักธุรกิจ
“พูดจาซะหวานรื่นหู นี่เธอ...อย่ามาแสดงละครต่อหน้าฉันเลย ฉันรู้ดีว่าเธอน่ะที่คบกับตาแดนก็เพราะเงินทั้งนั้น ครอบครัวของเธอไม่ใช่ว่า ร้อนเงินหรือไรกัน” รัศมีเหยียดยิ้มหัวเราะเบา ๆ
คิดไม่ถึงว่ารินรดาจะเสแสร้งเก่งกาจเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังร้องไห้ให้ดูน่าสงสารเห็นใจ แต่ขอโทษนะเธอมิใช่ไก่อ่อนที่จะดูคนไม่ออก ว่าเมียลูกชายช่างเสแสร้งแสดงละครเก่งราวกับนางเอกเจ้าน้ำตาเสียอย่างนั้น
“คิดจะตบตาใคร ควรคิดให้ดีก่อนนะ ฉันไม่ใช่แม่พระใจบุญที่คอยชุบเลี้ยงปลิง ให้คอยเกาะแกะสูบเลือดสูบเนื้อลูกชายฉันจนหมดตัว” คำพูดทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนที่รัศมีจะลุกแล้วเดินออกไปจากร้านกาแฟ
ส่วนรินรดาคว้ากำซองขาวเอาไว้ด้วยความคับอกแค้นใจเหลือเกิน ที่ถูกแม่สามีตราหน้าว่าเป็นปลิงดูดเลือด เธอวิ่งพรวดออกจากร้าน ตามแผ่นหลังของรัศมีมาจนทันในที่สุด “คุณแม่เก็บเงินนี้เอาไว้เถอะค่ะ รินไม่ขายศักดิ์ศรีเพื่อเงิน ถ้าคุณแม่ต้องการให้รินหย่าจริง ๆ ละก็ ก็ทำให้แดนเขาพูดกับรินเองสิคะ”
“นี่หล่อน ช่างกล้ามากนักนะ ได้แล้วเธอจะเห็นดีกัน ว่าใครกันที่แน่กว่า รอดูผลลัพธ์หลังจากนี้ได้เลย หวังว่าเธอจะไม่เสียใจภายหลังนะ ที่จะไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือหลังหย่ากับตาแดน”
“ถ้าคุณแม่ทำให้แดนขอหย่ากับรินได้ รินจะยอมถอยออกมาเองค่ะ” เพราะเธอมั่นใจในความรักของเขตแดน ว่าจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอเอาไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน
เขาเคยให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ว่า นับจากที่จดทะเบียนกันแล้ว เป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะร่วมกันสร้างครอบครัวให้มีแต่ความสุข หวังว่าสักวันคุณแม่จะเปิดใจรับรินรดาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว
แต่สุดท้ายแล้ว ระยะเวลาที่อยู่กินกับเขตแดนมา คุณรัศมีไม่เคยเปิดใจให้เธอเลยสักครั้ง มักคิดว่าเธอคอยสูบเงินจากเขตแดนอยู่เสมอ และวันนี้เองก็เช่นเดียวกัน ที่ทำให้คุณรัศมีถึงขั้นมอบเงินให้รินรดาเพื่อลงชื่อขอหย่ากับเขตแดน
“เธอช่างหมั่นหน้าเหลือเกินนะ รู้หรือเปล่าว่าพักนี้ทำไมตาแดนถึงไม่ค่อยกลับบ้าน ฉันจะบอกเธอเอาบุญนะ ตอนนี้ตาแดนกำลังหลงรักหนูดารันจนโงหัวไม่ขึ้น”
“คุณแม่กำลังโกหก รินไม่เชื่อค่ะ เมื่อคืนแดนบอกเองว่ามีงานด่วนเข้ามา ทำไมคุณแม่ถึงใจร้ายกับรินขนาดนี้คะ รินไปทำอะไรให้คุณแม่ไม่พอใจนักหนา” รินรดาเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ไม่คาดคิดมาก่อนว่า เรื่องนี้จะออกมาจากปากมารดาของเขตแดน จงใจให้เธอระแคะระคายสามี จงใจปั่นหัวเธอให้ระแวงเขาว่ากำลังปันใจให้ผู้หญิงคนอื่น
“ก็เพราะเธอทำให้ลูกชายฉันหัวแข็ง ไม่ยอมเชื่อฟังฉันอีก ฉันปูทางวาดอนาคตเอาไว้ สุดท้ายก็เพราะผู้หญิงอย่างเธอเข้ามา ทำให้ทุกอย่างแทนที่จะดีขึ้นกลับพังลง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอจะเป็นเพราะใครกัน!”
รัศมีตะคอกเสียงดัง เธอยังคงไม่มีทีท่าว่าจะยอมรามือ ดวงตาคู่สวยจดจ้องรินรดาอย่างไม่ยอมความ แล้วจงใจพูดเรื่องโกหกขึ้นว่า “คืนนี้หากเธอไม่เชื่อ ก็ไปที่ห้อง 405 สิ พวกเขาเปิดห้องด้วยกันมาหลายวัน ตาแดนไม่อยากกินน้ำพริกถ้วยเก่าอย่างเธออีกแล้วล่ะนะ”
หญิงสูงวัยล้วงกระเป๋าหยิบแว่นดำสวมใส่ ก่อนจะเหยียดยิ้มแล้วขึ้นรถยนต์คันหรูออกไป โดยที่รินรดายังคงยืนนิ่งงัน รัศมีเหลือบมองกระจกหลังก็สาแก่ใจนัก
จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “เปิดห้อง 405 เอาไว้ด้วย แล้วนัดปกรณ์ให้ไปเจอที่นั่น บอกว่าฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” ในไม่ช้าเธอกับดารันต้องเกี่ยวดองกันอย่างแน่นอน
เพราะดารันทั้งสวยและมีชื่อเสียง ไม่เหมือนผู้หญิงจน ๆ คนหนึ่งกำลังตะเกียกตะกายถีบตัวเองให้ขึ้นจากโคลนตมอย่างรินรดา ที่แรกพบก็ไม่ชอบหน้าแล้ว ก็เพราะไม่มีอะไรที่คู่ควรส่งเสริมลูกชายของเธอสักนิด
“ทราบแล้วค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะทำการนัดคุณปกรณ์ให้เดี๋ยวนี้นะคะ” เลขาสาวรับคำเจ้านาย แล้วจึงทำการนัดกับปกรณ์ หนุ่มหล่อประจำบริษัทตกแต่งภายใน และยังเป็นพี่ชายของนางเอกดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างดารัน
ปกรณ์รับสายแล้ว จากนั้นจึงโทรกลับไปยังคุณรัศมี ซึ่งเขาหวังว่าจะเกี่ยวดองกันในไม่ช้า “สวัสดีครับคุณรัศมี ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ”
“อยากนัดทานข้าวค่ะ อย่าลืมพาหนูดารันมาให้ได้นะคะ ฉันจะพาตาแดนไปด้วย” รัศมีกำชับ จากนั้นจึงวางสาย รอยยิ้มแสนร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าสะสวยแต่งแต้มอย่างงดงาม หากกำจัด รินรดาไม่ได้ ก็ทำให้เข้าใจผิด แค่นี้แผนทุกอย่างก็ลงตัวแล้ว
ส่วนรินรดาได้สติแล้ว ในมือของเธอยังไม่ได้คืนซองขาวให้แก่แม่ของสามี มองออกไปยังถนนซึ่งคลาคล่ำไปด้วยรถมากมาย ไม่เห็นแล้วรถคันนั้น เธอจึงตัดสินใจส่งข้อความหาสามี สอบถามว่าคืนนี้เขาจะกลับบ้านกี่โมง
ชายหนุ่มได้รับข้อความแล้ว ชักสีหน้าเล็กน้อย ครุ่นคิดให้วุ่นวายใจ ทำไมกันช่วงหลัง ๆ มานี้ รินรดาไม่เหมือนเดิมเหมือนเมื่อก่อน มักจะถามเสมอและยังเซ้าซี้ไม่เลิกรา จ้องจับผิด หาเรื่องทุกครั้งที่เขากลับบ้าน
ทั้ง ๆ ที่เขาทำงานหนักก็เพื่อเธอ ด้วยความหงุดหงิดใจ ชายหนุ่มจึงโทรกลับ เขาตอบเสียงห้วน ๆ ว่า “รินอย่าส่งข้อความแบบนี้มาอีก ผมทำงานไม่มีเวลาจะมานั่งตอบข้อความของคุณหรอกนะ”
“รินก็แค่ถาม ทำไมคุณถึงใส่อารมณ์แบบนี้ละคะ” ปลายสายเสียใจนัก กลั้นเสียงสั่นเครือไม่ให้ร้องไห้ออกไป ตอนนี้หัวใจเธอราวกับแตกสลาย เพราะเสียงกระแทกกระทั้นที่ส่งมาบ่งบอกว่าเขาอารมณ์ไม่ดีก็เพราะเธอ
“คุณต่างหากที่จ้องจับผิดผม เย็นนี้ผมมีนัดกลับบ้านดึก กินข้าวก่อนแล้วก็ไม่ต้องรออีก เข้าใจไหมริน” เธอมักรอเขาเสมอ ทำให้ปวดท้องเป็นโรคกระเพาะ ช่วงนี้มีงานสำคัญคุณแม่มอบหมายงานใหญ่ให้เขารับผิดชอบ
หากผ่านคณะกรรมการชุดนี้ คุณแม่รับปากว่าจะให้เขาจัดงานแต่งงาน เพราะเหตุนี้ช่วงนี้เขาจึงโหมงานหนัก เพื่ออนาคตของเขากับเธอ แต่ทำไมกันรินรดามักทำตัวงี่เง่าเสมอ ยังเอาแต่ใจไม่น่ารัก หรือเข้าใจเขาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
และปลายสาวเงียบกริบ เขาจึงดูหน้าจออีกครั้งว่าเธอยังฟังเขาอยู่ไหม ยิ่งที่ไม่ตอบก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดใจจึงตะคอกเธอว่า “ที่ผมบอกได้ยินไหม กินข้าวก่อนไม่ต้องรอ”
หยาดน้ำตาแห่งความเสียใจ ร่วงหล่นลงมาทันใด มือเรียวจับโทรศัพท์อยู่นั้นสั่นสะท้าน หัวใจดวงน้อย ๆ เจ็บแปลบขึ้นอย่างกะทันหัน
เพราะสิ่งที่เธอได้ฟังมานั้น มันย่อมเป็นไปตามที่คุณรัศมีบอกมาแน่นอน พักหลังเธอเห็นข่าวซุบซิบดาราว่า ดาราสาวคนหนึ่ง กำลังปลูกต้นรักอย่างเงียบ ๆ กับชายหนุ่มนอกวงการ
ผู้ชายคนนั้นเป็นลูกชายนักธุรกิจ มารดาอักษรย่อคือ รอเรือ ส่วนลูกชายอักษรย่อคือ ดอเด็ก ถ้าไม่ใช่เขตแดนแล้วจะเป็นใครกัน “ค่ะ รินเข้าใจแล้ว รินเข้าใจแล้วค่ะ”