บท
ตั้งค่า

อ่อย | Ep.3 |

อ่อย | Ep.3 |

วันต่อมา

"อืม~" มือบางยกขึ้นมาแตะขมับพร้อมกับเบ้หน้าให้กับหัวที่ปวดเหมือนจะระเบิดหลังจากรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

แพรพลอยค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วปรือตาขึ้นมองบรรยากาศรอบตัวที่แปลกไป อ่อ...เธอกลับไทยมาแล้วนี่นา หลังจากที่คิดขึ้นได้ ดวงตาคู่สวยก็กวาดมองไปรอบห้องนอนอีกครั้ง ไม่มีใครอยู่ในนี้ ทุกๆ อย่างนิ่งและเงียบสงบ และเธอก็เหมือนจะจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานได้ พอนึกถึงมัน มือก็เริ่มสั่นและเปียกเหงื่อที่มาจากการกดดันตัวเอง ไม่แม้แต่อยากจะหยิบเครื่องช่วยฟังมาใส่ด้วยซ้ำ เธอต้องการอยู่อย่างสงบอีกสักพัก

หลังจากนั่งทำความเข้าใจกับตัวเองได้แล้ว หญิงสาวก็ค่อยๆ ลุกไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ วันนี้เข้าบริษัทวันแรก เธอจะต้องเป็นคุณหนูแพรพลอยที่แข็งแกร่งให้ได้ จะไม่ยอมให้เรื่องความผิดปกติทางการได้ยินมาทำให้เธอต้องเสียจุดยืนและความมุ่งมั่น แค่หูผิดปกติก็ไม่ได้หมายความว่าสมองเธอจะผิดปกติสักหน่อย ก็แค่...ปริญญาโทที่พึ่งจบมาหมาดๆ จากเยอรมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานที่บริษัทเลยสักกะนิดเดียวเท่านั้นเอง

ภายในห้องนอนขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนเจ้าหญิงในการ์ตูนดิสนีย์ นั่นก็เพราะภาพจำของบิดายังคงเห็นลูกสาวเป็นเด็กห้าขวบอยู่เสมอ จึงสั่งให้คนตกแต่งออกมาเป็นโทนนี้ เสื้อผ้า เครื่องประดับตกแต่ง รองเท้า กระเป๋า อดิพัชรได้ไปกว้านซื้อมาเตรียมไว้ให้ครบครันก่อนที่จะไปเยอรมัน ซึ่งเจ้าของห้องก็ไม่ได้ตื่นตาตื่นใจกับของพวกนี้มากนัก แต่ก็ไม่ได้ไม่ชอบซะทีเดียว

หญิงสาวตั้งใจเลือกชุดสูทสีแดงเลือดนก เสื้อตัวในสีดำ กางเกงขายาวห้าส่วน ใส่อย่างลงตัวคู่กับรองเท้าหุ้มส้นสีเดียวกันกับชุดส้นสูงสามนิ้ว และหยิบกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นลิมิเต็ดราคาครึ่งล้านมาคล้องแขน ซึ่งกระเป๋าก็ยังเป็นสีแดงโดดเด่น แต่ทรงผมเธอทำได้แค่ปล่อยให้มันเป็นทรงเดิมแบบนั้นเพื่อที่จะปกปิดใบหู จากนั้นก็เดินไปรื้อกระเป๋าเดินทางเพื่อเอาเครื่องช่วยฟังสำรองที่มีเป็นโหลมาใส่ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เธอจึงลงไปข้างล่าง

ปลายเท้าเรียวเล็กชะงักลงที่บันไดสามขั้นสุดท้ายเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เธอเคยอยากได้มาเป็นพี่ชายยืนรอรับอยู่กลางบ้าน จริงสิ...เธอลืมพี่ผาคนคูลที่มีใบหน้าหล่อนิ่งแถมยังหยิ่งนี้ไปได้ยังไงนะ ใส่ชุดบอดี้การ์ดสีดำมาแบบนี้คงมาทำตามหน้าที่อีกล่ะสิ ไม่เป็นไร วันนี้ทำตามหน้าที่ วันหน้าเขาต้องได้ทำตามหัวใจแน่นอน เพราะเธอจะเดินหน้าจีบเขาและเขาต้องกลับมาเป็นพี่ผาคนเดิมของเธอคนเดียว

"สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ผา" ร่างบางย่างกรายเดินลงไปหาชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มหว่านเสน่ห์ตามประสาผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองสูง เนื่องด้วยเติบโตมาท่ามกลางความอิสระและฝึกใช้ความคิดเองมาตั้งแต่เด็ก แพรพลอยจึงมีนิสัยที่ชอบเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ชอบก็เข้าหาและทำทุกอย่างให้ได้มา ถ้าไม่ชอบก็ปล่อยผ่านไม่แม้แต่จะคิดเข้าไปเฉียดใกล้แม้สิ่งนั้นจะมากด้วยปริมาณและคุณภาพแค่ไหนเธอก็ไม่สนใจ

ทว่าชายหนุ่มกลับเมินเฉยเหมือนเสียงทักทายเมื่อครู่เป็นเสียงนกเสียงกา ไม่ได้แสดงความหวั่นไหวให้กับความสวยของอีกฝ่ายเหมือนผู้ชายทั่วไป จากที่สร้างความมั่นใจมาจนล้นเปี่ยม แพรพลอยกลับต้องมาเสียท่ากลอกตาไปมาเพราะไม่ได้ดั่งใจ

"รีบไปกันเถอะจะสายแล้ว"

"เอ่ออันที่จริง....พี่ผาไม่ต้องมารับแพรก็ได้นะคะ ให้คนขับรถที่บ้านไปส่งก็ได้" หญิงสาวกอดอกเชิดหน้าหนีไปอีกฝั่ง การที่แพรพลอยถูกเมินมันทำให้เธอค่อนข้างที่จะหงุดหงิดเหมือนถูกอีกฝ่ายหยามเหยียดอย่างไรอย่างนั้น

ตอนนี้เธอไม่ได้มองเขาเป็นพี่ชายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่มองเป็นผู้ชายคนนึงที่พิเศษกว่าคนอื่น และเธอต้องได้ผู้ชายคนนี้มาครอบครองในสักวัน! แพรพลอยซะอย่าง ไม่มีทางที่เธอจะไม่สามารถสยบเขาได้!

ภูผากระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อได้เห็นสีหน้าน้อยอกน้อยใจของหญิงสาว ก่อนจะขยับเท้าเดินเข้าไปประชิดร่างเล็กที่ซ่อนความเซ็กซี่เอาไว้ไม่มิดแม้จะนุ่งขาวห่มขาวก็ตาม ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าสวยหวานจนร่างบางไหวตัวตกใจเล็กน้อย

ภูผาแค่นยิ้มที่มุมปากกดตามองริมฝีปากอวบอิ่มเย้ายวนที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ ก่อนจะเบนใบหน้าไปที่ข้างใบหูขาวแล้วกระเส่าเสียงแหบพร่าใส่

"ไหนว่าอยากเป็นน้องสาว...หรือตอนนี้มองพี่เป็นพี่ชายไม่ได้แล้ว?"

บริษัท New.k

รถสปอร์ตสีดำคันหรูตรงจอดหน้าประตูบริษัทผลิตโซฟาที่ใหญ่ที่สุดและขายดีติดท็อปห้าอันดับของประเทศ และบริษัทแม่ในเยอรมันก็ติดหนึ่งในสิบของโลก

เปา น้องชายต่างสายเลือดของภูผาและเป็นสมาชิกในทีมบอดี้การ์ดของบริษัทเคทีซีเอช เซฟตี้ เฉกเช่นเดียวกันลงจากที่นั่งคนขับแล้วขยับมาเปิดประตูให้ภูผากับแพรพลอยลง

"ถ้าพี่ผาจะใช้รถโทรหาผมได้เลยนะผมอยู่แถวนี้"

ภูผาพยักหน้าให้น้องชายที่ผู้ซึ่งเป็นลุงรับอุปถัมภ์ไว้ตั้งแต่สิบขวบ จากนั้นเปาก็รีบขึ้นรถและขับออกไปทันที

ด้านในบริษัท

หญิงสาวยืนกอดอกรอลิฟท์ที่ชายหนุ่มเป็นคนกดให้ ท่ามกลางสายตาชื่นชมปนประหลาดใจของเหล่าพนักงานที่จับจ้องมา นั่นเป็นเพราะแพรพลอยไม่เคยมาที่บริษัทเลยสักครั้ง ทุกคนจึงไม่รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของท่านประธานใหญ่

ติ๊ง!

หลังจากประตูลิฟท์เปิด ขาเรียวขาวก็เดินสับรองเท้าส้นสูงนำหน้าชายหนุ่มเข้าไปข้างใน พอประตูลิฟท์ปิดนิ้วชี้เรียวสวยจึงยื่นออกไปกดปุ่มที่มีเลขสิบเก้านั่นก็คือชั้นของผู้บริหาร แต่ดันไปกดทับนิ้วแกร่งที่ยื่นมาก่อนไม่กี่วินาที

".....!"

"......"

ดวงตาคู่สวยเลิ่กลั่กเสียอาการ หญิงสาวยังใจเต้นให้กับคำพูดรู้ทันนั้นไม่หาย ตอนนี้ก็ดันมีเหตุการณ์ใหม่เข้ามาให้ใจมันเต้นรัวเล่นอีก

'ไหนว่าอยากเป็นน้องสาว...หรือตอนนี้มองพี่เป็นพี่ชายไม่ได้แล้ว?'

แพรพลอยส่ายหน้าเบาๆ สะบัดเสียงแหบพร่าที่ยังก้องในหูให้ออกไป ก่อนจะชะงักมือออกแล้วเก็บเข้ามากอดอก

...เธอต้องรีบวางแผนรับมือกับเขาให้ดีกว่านี้

จะว่าไปหญิงสาวก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะว่าอีกฝ่ายโตเป็นหนุ่มใหญ่แล้ว แถมยังหน้าตาดีจนพระเอกซีรีย์ชิดซ้าย เลยทำให้คนที่ตกหลุมรักเขามาตั้งแต่เริ่มเป็นสาวแรกแย้มอย่างเธอรู้สึกประหม่าทุกครั้งที่อยู่ใกล้

เสี้ยววินาทีที่ดวงตาคู่สวยเหลือบไปมองใบหน้าหล่อนั้น จึงได้เห็นว่ามุมปากหนากำลังแสยะยิ้มให้กับเหตุการณ์มือกระตุกเมื่อครู่

...ยิ้มแบบนั้นคือพอใจหรือไม่พอใจกันแน่นะ

ช่วงที่ใบหน้าสวยกำลังก้มลงคิดหาแผนดีๆ มาสยบคนคูลอย่างภูผา จู่ๆ เสียงลิฟท์ก็ดังขึ้นมาตามด้วยประตูลิฟท์ที่แยกออกจากกัน เรียวขาขาวจึงรีบสับเท้าเดินออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

"สวัสดีครับคุณแพรพลอย"

"สวัสดีค่ะอาสิทธิ์" เสียงหวานเอ่ยสวัสดีพร้อมกับประนมมือขึ้นมาระดับอกไหว้คนที่เปรียบเสมือนบิดาคนที่สอง

เพราะตั้งแต่แพรพลอยย้ายไปอยู่เยอรมันตอนห้าขวบ ก็มีสิทธิ์ธาที่คอยเดินเอกสารให้ไม่ว่าจะเข้าโรงเรียนหรือว่ารับสิทธิ์ต่างๆ อีกฝ่ายคือเลขาคนโปรดของอดิพัชรที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายปีเสมือนครอบครัวเดียวกัน ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ตามไปเป็นเพื่อนคู่คิดกับอดิพัชรที่เยอรมัน แต่มาคอยดูแลและช่วยเหลือแพรพลอยเรื่องงานแทน

หลังจากทักทายสิทธิ์ธาเสร็จ แพรพลอยก็เหมือนพึ่งจะนึกได้ว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องที่เธอตามติดชีวิตชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงแอบกลัวว่าสิทธิ์ธาจะเผลอหลุดปากพูด

"ผมเตรียมเอกสารไว้แล้ว วันนี้คุณแพรพลอยตั้งใจอ่านเอกสารเกี่ยวกับบริษัทไปก่อนนะครับ"

"ได้ค่ะแพรจะพยายาม" ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มแหยพลางขยิบตาให้อีกฝ่ายรัวๆ ซึ่งสิทธิ์ธาเองก็หัวเร็วใช้ได้ เข้าใจในการกระทำของหญิงสาวที่สื่อออกมา เลยเผลอยกยิ้มเบาๆ ก่อนจะก้มหน้ากะแอมหนึ่งครั้งแล้วเงยขึ้นมาทำหน้าปกติพยักหน้าให้หญิงสาวไปครั้งหนึ่งเป็นอันรู้กัน ร่างบางจึงรีบเดินเข้าไปในห้องที่ภูผาเปิดประตูรอ

แพรพลอยไม่ได้สนใจอะไรอีกนอกจากป้ายชื่อที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ มือบางหยิบมันขึ้นมาดูแล้วยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจในตัวบิดา

อดิพัชรสู้เพื่อบริษัทนี้มาหลายปี ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เลย ไม่แปลกที่ใครๆ ต่างก็ชื่นชมเขาในเรื่องธุรกิจ

"น้องแพร.."

"คะ?" แพรพลอยรีบวางป้ายชื่อของบิดาลงอย่างเบามือแล้วหันไปหาเจ้าของเสียงเรียก "อ๊ะ!" แต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อหันไปชนแผงอกกำยำของคนตัวสูง

กลิ่นกายหอมของบุรุษเพศตีขึ้นจมูกจนเธออยากจะลองซบอกเขาสักครั้ง

แต่คงยังไม่ใช่ตอนนี้

"เอกสาร" เสียงเรียบเอ่ยขึ้นพร้อมกับมือหนาที่ชูแฟ้มเอกสารขึ้นมา ร่างสูงไม่ได้ถอยห่างแต่อย่างใด เขายังคงยืนทำหน้านิ่งอยู่ตรงนั้น

ตอนนี้กลิ่นละมุนละม่อมของชายชาตรีไม่อาจทอดถอนออกจากต่อมรับกลิ่นในโซนสมองของแพรพลอยได้ ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนยากที่จะควบคุม

"เอ่อ..." ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแล้วอมยิ้มเบาๆ อย่างมีนัยแฝง เพราะเธอกำลังเตรียมตัวที่จะอ่อยเขา

...มีโอกาสได้ใกล้ชิดขนาดนี้แล้ว ปล่อยเบลอคงน่าเสียดายแย่

ร่างบางเขย่งปลายเท้าขึ้นจนปลายจมูกโด่งรั้นเฉียดคางแหลมได้รูปขึ้นไป ขณะนั้นภูผาก็ยังคงยืนนิ่ง ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแสดงให้แพรพลอยได้เห็นว่าเขาไม่ได้หวั่นไหว

คนอ่อยแอบหงุดหงิดแต่ไม่คิดยอมแพ้ มือบางหยิบเอกสารในมือชายหนุ่มอย่างอ้อยอิ่งแล้วหมุนตัวเบียดอกแกร่งอ้อมเข้ามานั่งที่โต๊ะทำงาน

...ชิ! เอาซิ๊ จะเฉยได้สักกี่น้ำเชียว ลงทุนอ่อยชนิดที่โปรโมชั่นยังเรียกพี่ ยั่วยวนขนาดนี้ไม่หวั่นไหวก็ให้มันรู้ไป พี่ผาของน้องแพร!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel