บุคคลอันตราย | Ep.9 |
บุคคลอันตราย | Ep.9 |
ตุบ!
ร่างบางของแพรพลอยกลิ้งไปกับท้องถนนหลายตลบ ก่อนจะไปนอนแน่นิ่งอยู่บริเวณไหล่ทาง ซึ่งทำให้คนเห็นอย่างภูผาต้องรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างร้อนใจ พอมาถึงชายหนุ่มก็รีบทรุดนั่ง เรียกคนที่นอนหลับไม่ได้สติพร้อมกับเขย่าตัวเธอเบาๆ
"น้องแพร!...น้องแพรได้ยินพี่ไหม!"
โครมม!!!
ภูผาหันไปมองต้นทางของเสียงก็พบว่ารถตู้คันนั้นได้พุ่งชนรถของเขาเต็มๆ ในสภาพที่ยับเยินทั้งคู่ แต่ชายหนุ่มไม่คิดห่วงรถแม้แต่นิด หันกลับมาสนใจร่างบางที่นอนแน่นิ่งต่อเพราะกลัวหญิงสาวจะเป็นอะไรไป
เมื่อเห็นว่าแพรพลอยไม่มีทีท่าว่าจะตื่น มือหนาจึงคลำชีพจรเช็คอาการเบื้องต้นดู พบว่าเธอยังปกติดี ก้มลงเอาหูแนบหน้าอกก็ได้ยินเสียงปอดทำงานปกติเช่นกัน มีเพียงแค่แผลแตกเล็กน้อยที่หัวคิ้ว กับรอยถลอกนิดหน่อยตามแขนและขา จึงตัดสินใจอุ้มหญิงสาวขึ้นมา ขณะนั้นก็มีรถเก๋งสีขาวขับเคลื่อนเข้ามาจอดพอดี
เอี๊ยดด!
ปึก!
"พี่ผาเกิดอะไรขึ้น!" เปาลงจากรถวิ่งเข้ามาถามพี่ชายต่างสายเลือดอย่างร้อนใจ
"อย่าพึ่งถาม พากูกลับบ้านเกษมนิลก่อน ให้ไอ้เม่นไปส่งกู ส่วนมึงอยู่กับลุงสง่าเคลียร์รถให้หน่อย"
"โอเคพี่" เปารับคำสั่ง
เม่น ที่มาด้วยกันกับเปารีบวิ่งไปเปิดประตูให้ภูผาแล้วกลับมานั่งประจำตำแหน่งคนขับ ส่วนภูผาหลังส่งร่างบางนอนลงที่เบาะด้านหลังเสร็จเขาก็รีบขึ้นไปนั่งข้างหน้า เม่นจึงรีบออกรถทันที
บ้านเกษมนิล
ชายหนุ่มค่อยๆ วางร่างบางที่ยังไม่ได้สติลงบนที่นอนนุ่มสีชมพูอ่อนอย่างเบามือ ก่อนจะหันไปสั่งแกมขอร้องป้าฉินคุณป้าแม่บ้านคนเก่าคนแก่ประจำตระกูลเกษมนิล
"ไม่ต้องโทรรายงานคุณลุงนะครับ ท่านยุ่งอยู่ทางนู้น เกรงว่าจะทำให้ท่านลำบากใจ อีกอย่างน้องแพรก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก"
"ค่ะ ป้าจะไม่บอกคุณผู้ชายค่ะ"
"ขอบคุณครับป้า เดี๋ยวผมขออุปกรณ์ทำแผลหน่อยนะครับ"
"ได้ค่ะเดี๋ยวป้ารีบไปเอามาให้นะคะ" ป้าฉินรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งหน้าตั้งไปหาอุปกรณ์ทำแผล ไม่นานก็กลับมาพร้อมกล่องพยาบาลเล็กๆ
"มีอะไรให้ป้าช่วยไหมคะคุณผา"
"ไม่มีครับ ทางนี้ผมจัดการเอง"
"ถ้ามีอะไรเรียกป้าได้เลยนะคะ"
"ขอบคุณครับ"
หลังจากหมดธุระของตัวเอง ป้าฉินก็เดินออกจากห้องไปเงียบๆ เหลือภูผาที่ลงไปนั่งที่ขอบเตียง จัดการทำแผลที่หัวคิ้วให้หญิงสาว แล้วทายาอีกนิดหน่อยบริเวณแขนขาที่ถลอก เสร็จแล้วจึงเก็บทุกอย่างไว้ที่เดิม
ดวงตาคมทอประกายความอ่อนโยนทอดมองคนที่ยังหลับไม่รู้สึกตัว ก่อนจะเอื้อมมือไปปัดปอยผมสีน้ำตาลหม่นเทาลงด้านข้าง ขยับสายตาลงไปมองริมฝีปากสีชมพูจางๆ แล้วใช้นิ้วโป้งคลึงมันเบาๆ จากนั้นใบหน้าหล่อก็โน้มลงไปประทับจูบแผ่วเบาแล้วเงยหน้ากลับขึ้นมา มือหนาลูบหัวเล็กอย่างเอ็นดู การกระทำของชายหนุ่มช่างแตกต่างจากตอนที่หญิงสาวมีสติโดยสิ้นเชิง โดยที่ใครก็ไม่สามารถคาดเดาสายตาคมคู่นี้ได้เลยว่าเขากำลังคิดและรู้สึกอะไรอยู่
"อย่ายั่วพี่ให้มันมากนัก จะยังไงมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปอยู่แล้ว"
คำพูดที่แปลไปได้หลายทางหลายความหมายของภูผา ไม่อาจเข้าหูของคนที่นอนหลับใหลอยู่ได้ และถึงแม้หญิงสาวจะได้ยิน เธอก็ไม่สามารถตีความประโยคนั้นได้อยู่ดีว่าชายหนุ่มหมายถึงอะไร
ขณะที่ดวงตาคมกำลังไล่มองใบหน้าสวยหวานอย่างเพลิดเพลิน แผลบนหัวคิ้วที่ถูกพลาสเตอร์ยาแปะเอาไว้ก็ทำให้ม่านตาเขาขยายพร้อมกับกัดกรามแน่น
"ฉันจะต้องหาตัวแกให้เจอ ไม่ว่าแกเป็นใคร!" เสียงเข้มต่ำเอ่ยรอดไรฟันออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงคนก่อเหตุที่เกือบทำให้แพรพลอยตาย
สำหรับแพรพลอย ภูผาดูแลอย่างดีมาตั้งแต่เด็ก แม้จะห่างกันสองปีแต่เขาก็ตามใจประคบประหงมแพรพลอยเหมือนน้องสาวทุกอย่าง ใช่ว่าหญิงสาวไปอยู่เยอรมันแล้วเขาจะเปลี่ยนไป เขายังคงเป็นพี่ผาคนเดิมที่หวังดีกับเธอเสมอมา
ขณะที่กำลังใช้นิ้วโป้งลูบไปตามพวงแก้มสีแดงระเรื่อ มือถือในกระเป๋าก็สั่นขึ้นติดต่อกัน ชายหนุ่มจึงถอนหายใจออกมาเหมือนโกรธที่มันสั่นขัดจังหวะ ก่อนจะละมือออกมาแล้วล้วงมือถือขึ้นมาดู
เปา : พี่ผา รถตู้คุณแพรพลอยถูกตัดสายเบรค ไอ้เม่นไปเช็คที่ห้างมาแล้ว มีผู้ชายคนนึงแอบมาตัดสายเบรคแล้วก็หนีไปก่อนคุณแพรพลอยจะกลับมาที่รถประมาณ 10 นาที
เมื่อได้อ่านแชทที่เปาส่งมา ภูผาก็กำโทรศัพท์แน่น ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เขาจะต้องตามตัวมันมาให้ได้ และเชื่อว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุเมื่อยี่สิบปีก่อนแน่ๆ
ภูผา : ไอ้เม่นอยู่ที่ไหน
เปา : มันพึ่งโทรมาเมื่อกี๊บอกว่าเจอตัวคนทำแล้ว พี่ผาไปตามที่อยู่นี้เลยนะ ไอ้เม่นมันแชร์มา
เปา : ส่งโลเคชั่น
ภูผารีบเก็บมือถือแล้วลุกออกจากขอบเตียง ก้มมาดึงชายผ้าห่มห่มให้คนตัวเล็กก่อนจะผละตัวออกมา จากนั้นก็ขับรถที่คนในบริษัทเคทีซีเอช เซฟตี้ ขับมาจอดทิ้งไว้ให้ที่บ้านเกษมนิลไปยังปลายทางที่เปาส่งมาทันที
หมู่บ้าน xx
เอี๊ยด!!
รถเก๋งสีแดงตรงจอดหน้าบ้านไม้เก่าๆ หลังหนึ่งจนฝุ่นตลบ ก่อนที่เจ้าของรถจะลงมาแล้วเดินอาดๆ เข้าไปในบ้านหลังนั้น
"พี่ผามาแล้วเหรอ?" เม่นรีบลุกขึ้นยืนหลังเห็นภูผาผลักประตูเข้ามา
"ไอ้เวรนี่เหรอ?" ดวงตาคมมองคาดโทษชายที่นั่งคุกเข่าแววตาสั่นกลัว
"เอ่อ...จะว่าใช่ก็ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ครับพี่"
"มึงหมายความว่าไง?"
"ไอ้เนี่ยมันเป็นคนตัดสายเบรคก็จริงครับ แต่มันถูกว่าจ้างมาอีกที พี่ผาฟังจากปากมันเองดีกว่า ผมเองก็ยังงงๆ...."
"....เฮ่ย! บอกพี่กูเหมือนที่มึงบอกกูเมื่อกี๊ดิ๊!" เม่นหันไปตะคอกสั่งชายคนนั้น
"คะ..คือว่าผมถูกผู้ชายคนนึงว่าจ้างมาครับ เขาเป็นคนในหมู่บ้านเรานี่แหละ แต่ได้ไปทำงานกับคนใหญ่คนโตที่ไหนก็ไม่รู้ วันดีคืนดีก็มาหาจ้างคนในหมู่บ้านให้ไปทำงานให้"
"ใคร?"
"เขาชื่อต้นครับ เป็นคนในหมู่บ้านนี่แหละ แต่ออกไปอยู่ที่อื่นหลายปีแล้ว เด็กวัยรุ่นแถวนี้ไม่มีใครรู้จักหรอกครับ นอกจากคนรุ่นราวคราวเดียวกันไม่ก็ห่างกันไม่กี่ปี"
"มีรูปมันไหม?"
"มะ..มีๆ ครับ!" ชายคนนั้นรีบคลานไปรื้อกล่องขนมเก่าๆ แล้วหยิบอัลบั้มรูปที่สีภาพมันเหลืองจนดูออกว่าเป็นรูปเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว "นี่ครับ...คนที่ใส่เสื้อสีแดง ผมมีแต่รูปสมัยนี้แหละครับ เพราะเขาออกไปจากหมู่บ้านนานแล้ว เลยไม่มีรูปถ่ายใหม่ๆ"
ภูผารับอัลบั้มรูปมาดู ทันทีที่เห็นก็รู้สึกคุ้นตาเป็นอย่างมาก แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นคนๆ นี้ที่ไหน
"ไปกันเถอะไอ้เม่น" เขาดึงรูปถ่ายใบนั้นติดมือออกไปด้วยแล้วรีบขับรถกลับไปที่บ้านใต้สะพานทันที
บ้านใต้ดินของภูผา
"ผมว่าถ้าพี่สืบต่อไปเรื่อยๆ มีหวังเจอตัวคนบงการแน่ๆ พี่ผา" เม่นออกความเห็นหลังจากภูผาเอารูปที่ได้มาใหม่ไปปักไว้ในบอร์ด
ตอนนี้ทั้งเม่นและเปานั่งกอดหมอนอยู่บนโซฟา ส่วนเจ้าของบ้านอย่างภูผายืนกอดอกหรี่ตามองบุคคลในรูปที่อยู่หน้าบอร์ด
"ผมว่าเป็นเพราะคุณแพรพลอยกลับมาด้วยแหละ ก่อนหน้านี้พี่หามันมาตั้งนาน มันไม่เคยทิ้งรอยอะไรไว้เลย พอคุณแพรพลอยกลับมามันดันเริ่มก่อเรื่องขึ้นอีกครั้ง หรือว่าที่คุณอดิพัชรบอกพี่ผาจะเป็นเรื่องจริง!" เรื่องจริงที่เปาว่าคือเรื่องที่อดิพัชรเล่าให้ภูผาฟังว่าแพรพลอยอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย
"ดูจากอาการน้องแพรแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องจริง" เขาคิดว่าที่แพรพลอยกลัวเสียงแตรรถกับหูที่มีปัญหาน่าจะมาจากสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจเธอมากๆ จนอยากจะลืมไปให้ได้ หญิงสาวจึงไม่สามารถจำเรื่องราวบนรถตอนนั้นได้อีกหลังจากฟื้นขึ้นมา ถ้าจะให้แพรพลอยหายกลับมาเป็นปกติคาดว่าคงต้องทำทุกอย่างให้เรื่องมันคลี่คลาย หรือกระตุ้นความทรงจำ แต่แบบหลังอาจทำให้เธอเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม งั้นก็เหลือทางเดียวคือหาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ และคอยเอาใจช่วยให้เธอยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นในวันนั้น
บ้านเกษมนิล
"แม่คะ..ฮืออ! ทำไมรถคันนั้นต้องบีบแตรใส่เราด้วย...ฮึกก! น้องแพรกลัว~"
"พี่เจษระวังค่ะ!!"
โครมม!!!
"แม่คะ!!!" หญิงสาวตื่นขึ้นมากระทันหันแล้วลุกขึ้นนั่งหน้าตาตื่นพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดังลั่นห้อง เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นตามกรอบหน้า พลางหอบหายใจประหนึ่งตัวเองเข้าไปอยู่บนรถในฝันเมื่อครู่
แอร๊ด~
"คุณหนูตื่นแล้วเหรอคะ! เป็นยังไงบ้างคะเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่า?" ป้าฉินรีบวิ่งเข้ามาดูคุณหนูของบ้านหลังได้ยินเสียงเล็กตะโกนออกไปถึงหน้าบันไดที่ป้ากำลังกวาดอยู่
"พะ..พี่ผาล่ะคะป้า?" เสียงเล็กถามป้าฉินอย่างสั่นเครือ หลังจากจำได้ว่าตัวเองพึ่งพบเจอกับเหตุการณ์อะไรมา คนแรกที่นึกถึงตอนนี้ก็คือ 'พี่ผา' ผู้ชายคนเดียวที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัยที่สุด
"เดี๋ยวป้าจะรีบโทรตามคุณผาให้นะคะ!" ป้าฉินกุลีกุจอวิ่งออกไปหาโทรศัพท์เพื่อโทรหาภูผาตามคำเรียกร้องของหญิงสาว
หลังจากป้าฉินออกไป แพรพลอยก็นั่งทบทวนทั้งเหตุการณ์ร้ายแรงที่พึ่งจะเกิดขึ้นกับตัวเองและเหตุการณ์ในฝันเมื่อครู่ที่เลือนลางจนไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ จู่ๆ น้ำตาก็เอ่อคลออยู่ในดวงตากลมอ่อนล้าพลางขมวดคิ้วมุ่น
ทำไมเธอถึงอกสั่นขวัญแขวนให้กับความฝันนั่น มันก็แค่ความฝัน มันไม่ใช่เรื่องจริง ถึงแม้จะฝันแบบนี้บ่อยก็เถอะแต่ยังไงๆ มันก็คือความฝัน!