กินจานเดียวกัน | Ep.6 |
กินจานเดียวกัน | Ep.6 |
ภูผาหลับตาถอนหายใจ ก่อนจะเก็บมือถือลงในกระเป๋าเสื้อแล้วลุกขึ้นยืนโดยไม่สนว่าใบหน้าจะสัมผัสกับหญิงสาวไหม ทว่าพอเขาลุกอีกฝ่ายดันยืดตัวขึ้นทันแบบพอดิบพอดี แล้วขยับตัวถอยหลังเพราะถูกเขาต้อน
จนในที่สุดแพรพลอยก็ล้มลงไปนั่งบนโซฟาแทน จากนั้นชายหนุ่มก็ก้มตัวลงมา ยืดมือทั้งสองข้างไปจับพนักพิงโซฟากักคนตัวเล็กไว้ข้างใน
"พี่ผาจะทำอะไรคะ?" ดวงตาคู่สวยทอประกายแวววาวสบดวงตาคมรีมีเสน่ห์ไม่กะพริบ ก่อนจะลากสายตาลงมาเชยชมจมูกโด่งเป็นสัน ต่อด้วยริมฝีปากหยักสีแดงธรรมชาติน่าสัมผัส ผิวหน้าดูนวลเนียนกว่าสตรีบางท่านเสียอีก หญิงสาวได้แต่คิดในใจ หากอีกฝ่ายจู่โจมเข้ามาเธอก็พร้อมที่จะรับมือ แม้ยังด้อยประสบการณ์แต่เธอก็ใจถึงพึ่งได้ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น
"จะอยากรู้ไปทำไมว่าพี่มีแฟนรึยัง?" เสียงทุ้มกระเส่าถามพร้อมมุมปากที่ยกยิ้มเบาๆ ส่อแววตาเจ้าเล่ห์น่าค้นหา น้ำเสียงแหบพร่าช่างปั่นหัวคนฟังได้เป็นอย่างดีเพราะตอนนี้แพรพลอยไม่สามารถรู้ได้ว่าเขารู้หรือไม่ว่าเธอตั้งท่าจะจีบ
"แพรจะได้ตัดสินใจถูกยังไงล่ะคะว่าจะเดินหน้าต่อหรือว่าหยุดอยู่แค่นี้"
คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยให้กับประโยคที่ได้ฟัง การที่เขามีแฟนหรือไม่มีมันเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตต่อไปของแพรพลอยยังไง เด็กคนนี้ชอบพูดเพ้อเจ้อไปเรื่อย
ใบหน้าหล่อเอียงลงเล็กน้อยแล้วขยับเลยริมฝีปากอวบอิ่มสีหวานไปที่ใบหูขาวก่อนจะกระเส่าเสียงแหบพร่าชวนใจเต้นแรง "พี่จะมีแฟนหรือไม่มี...มันขึ้นอยู่กับคนถาม"
แพรพลอยเหล่มองใบหน้าหล่อที่ห่างกันไม่ถึงคืบตาเขียว นี่เขาจงใจปั่นประสาทเธอใช่ไหม?
ได้! เจอเด็กเอาแต่ใจคนเดิมคนนี้หน่อยเป็นไง
ม๊วฟ!
ภูผาชะงักไปเมื่อริมฝีปากบางนุ่มสัมผัสลงที่ใต้คางด้านข้าง ก่อนจะดึงใบหน้าถอยมาสบตากับเจ้าของการกระทำ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้แต่นั่งทำหน้ายียวนไม่รู้ไม่ชี้
"ทำอะไร?" เสียงเข้มถามขึ้น
"ก็หอมแก้มไงคะ แพรก็เคยหอมพี่ผาเป็นประจำอยู่แล้วนี่"
"นั่นมันสมัยไหนแล้ว ตอนนี้โตเป็นสาวแล้วนะ จะมาทำตัวแบบนี้ไปเรื่อยไม่ได้"
...ไม่รู้ว่าไปทำแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นอีกไหม มันน่าจับตีนัก
"ไม่ต้องมาดุแพรหรอกค่ะ แพรพึ่งเคยทำกับพี่ผาคนแรกหลังจากโตเป็นสาว"
ภูผากลอกตาไปมาอย่างเอือมละอา ลึกๆ ในแววตาก็รู้สึกโล่งใจ ก่อนจะยืดตัวขึ้นหลังตรง
คนตรงหน้าคงคิดว่าเขายังมองเธอเป็นเพียงเด็กขี้ดื้อเอาแต่ใจ แต่ความจริงแล้วตอนนี้แพรพลอยเป็นผู้หญิงคนนึงที่สามารถทำให้ผู้ชายอย่างเขามีอารมณ์บางอย่างเกิดขึ้นในตัวได้ รวมถึงผู้ชายคนอื่นด้วย
"อย่าเล่นแบบนี้เข้าใจไหม พี่กับน้องแพรไม่ใช่เด็กๆ แล้ว"
"แพรก็ไม่ได้คิดว่าเราเป็นเด็กสักหน่อย แพรโตเป็นสาวแล้วนะ พี่ผาดูสิ" ด้วยความคิดที่ว่าอีกฝ่ายคงจะยังเห็นเธอเป็นเพียงเด็กน้อย จึงไม่อยากคิดเกินเลยอะไรกับเธอด้วย หญิงสาวจึงอ้าแขนแอ่นอกให้ชายหนุ่มดูชัดๆ ว่าเธอโตเป็นสาวแค่ไหน
ภูผาเหล่ตามองแวบสั้นๆ เพราะถ้ามองนานตบะเขาอาจจะแตกเอาได้ นึกโมโหอยู่ในใจเมื่อคิดไปว่าแพรพลอยอาจทำแบบนี้กับผู้ชายหลายคน เพราะสาวเจ้ายังดูไร้เดียงสาขาดประสบการณ์
"กลับไปนั่งอ่านเอกสารซะ ไม่งั้นพี่จะรายงานคุณลุง"
"ไม่ต้องเอาคุณพ่อมาขู่หรอกค่ะ แพรไม่กลัวท่านหรอก..."
"ไม่รู้สิ...บางทีคุณลุงอาจจะหาบอดี้การ์ดคนใหม่มาแทนพี่..."
"แพรไปก็ได้ค่ะ!" ร่างบางลุกขึ้นยืนแทบจะทันทีแล้วเดินกลับโต๊ะด้วยความกระตือรือร้น ทำเอามุมปากหนาแสยะยิ้มเบาๆ ให้กับชัยชนะในครั้งนี้
ภูผากลับมานั่งบนโซฟาตามเดิม หยิบหนังสือนิตยสารต่างๆ มาอ่านฆ่าเวลาสลับกับเล่นเกมในมือถือรอ จนเวลาล่วงเลยมาถึงหกโมงเย็น
"ได้เวลากลับบ้านแล้ว"
หญิงสาวละสายตาจากเอกสารตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงเรียบชวนกลับ
...เฮ้อ~ เมื่อยชะมัด แต่อยากจะบอกว่าเธอพอจะเข้าใจมันบ้างแล้วล่ะ
เพราะหลังจากทำใจแข็งไม่สนใจเขา สมาธิเธอก็ได้กลับมารวมตัวกัน ทำให้เธออ่านรายงานตรงหน้าได้อย่างแตกฉาน
"ค่ะ" มือบางเกี่ยวเส้นผมสีน้ำตาลหม่นเทาขึ้นทัดหูข้างที่ไม่มีเครื่องช่วยฟัง ก่อนจะรีบเก็บของเคลียร์งานบนโต๊ะแล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาคล้องไหล่ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินนำร่างสูงออกไปจากห้อง
ก่อนกลับหญิงสาวก็ได้แวะสวัสดีสิทธิ์ธาที่ยังนั่งทำงานอยู่และเหมือนว่าอีกฝ่ายจะอยู่ทำงานดึกทุกวัน คนมีความรับผิดชอบมักจะต้องเสียสละเวลาอันเป็นส่วนตัวแบบนี้
"เดี๋ยวพี่พาแวะกินข้าว วันนี้เห็นกินข้าวไปนิดเดียวเอง ไม่ปวดท้องรึไง"
ดวงตาคู่สวยทอดมองวิวนอกกระจกรถ ดูบรรยากาศที่เปลี่ยนไปของเมืองไทย ถึงแม้มันจะเงียบเพราะถอดเครื่องช่วยฟังออก แต่วิวข้างทางในยามราตรีได้ช่วยขจัดความกลัวออกไปจากใจจนหมด แพรพลอยใช้เครื่องช่วยฟังตั้งแต่เด็กก็จริง แต่เธอไม่เคยชินกับมันเลย หากเป็นไปได้ เธอก็อยากที่จะปกติเหมือนคนทั่วไป
...เอ๊ะ! ทำไมพี่ผาเลี้ยวจอดข้างทางล่ะ?
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างงุนงงก่อนที่ใบหน้าสวยจะหันไปมองคนข้างๆ พลางขมวดคิ้วให้เชิงคำถาม อีกฝ่ายจิ้มๆ อยู่ที่โทรศัพท์ครู่หนึ่งแล้วยื่นมาให้เธออ่าน
'พี่จะพาแวะกินข้าว'
อ่านจบดวงตากลมก็เหลือบมองชายหนุ่มอีกครั้ง แพรพลอยลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง
...ก็ดีเหมือนกัน หิวจะแย่อยู่แล้ว
หลังจากที่ได้รับคำตอบ ภูผาก็เคลื่อนตัวรถออกจากข้างทางแล้วขับต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง รถสปอร์ตคันหรูก็ขับเข้าไปจอดในลานจอดรถข้างร้าน
มือบางหยิบเครื่องช่วยฟังออกจากกระเป๋าขึ้นมาใส่ที่หูข้างขวา ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินไปหาชายหนุ่มที่ยืนรออยู่หน้ารถ จากนั้นทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในร้านพร้อมกัน โดยที่ภูผาไม่ลืมจะมองหน้ามองหลังเฝ้าระวังให้ร่างบางที่เดินนำหน้าอยู่ ซึ่งภูผาก็เดินตามหญิงสาวไปติดๆ ทิ้งระยะห่างแค่เพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น
ในร้าน
"เอาสปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเลจานนึงค่ะ แล้วก็ขอน้ำเปล่านะคะ"
"รอสักครู่นะคะ"
"ค่ะ อ้าว...พี่ผาไม่ทานเหรอคะ?" เมื่อเห็นพนักงานรับออเดอร์แค่เธอคนเดียวแล้วจากไป เสียงหวานจึงเอ่ยถามคนที่นั่งกอดอกฝั่งตรงข้าม
"ไว้พี่ไปกินที่บ้าน" เสียงเรียบตอบกลับมาหน้านิ่ง
ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าสวยจึงพยักหน้าให้เขาสองสามครั้งแล้วนั่งรออาหารไม่ได้พูดอะไรต่อ แอบงงอยู่นิดหน่อยที่ชายหนุ่มไม่คิดจะทานอะไรแต่ดันจอดแวะร้านอาหาร
...อย่าบอกนะว่าแวะเพราะเธอโดยเฉพาะ?
หลังจากนั่งรอไม่นาน พนักงานก็เดินเอาอาหารมาเสิร์ฟ
"สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเลได้แล้วค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ" หลังจากได้รับอาหารที่สั่งไว้ แพรพลอยก็เตรียมจะลงมือกิน แต่พอเห็นพริกในจานแล้ว ใบหน้าสวยก็ต้องชะงักไป
...สีแบบนี้ พริกเยอะขนาดนี้ เผ็ดตายแหงๆ เลย!
"ทำไมไม่บอกเขาว่าไม่เอาเผ็ด" คนนั่งกอดอกส่งเสียงเข้มแกมดุหญิงสาวที่นั่งมองอาหารอย่างลังเล ภูผารู้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าแพรพลอยกินเผ็ดไม่ได้ ถึงแม้ตอนนี้อีกฝ่ายจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม แต่เชื่อสิ เขารู้ว่าเธอยังกินของเผ็ดขนาดนี้ไม่ได้แน่นอน
"ไม่เป็นไรค่ะ แพร...กินเผ็ดเก่งขึ้นแล้ว หมายถึง...กินได้...นิดหน่อยแล้วค่ะ" พูดจบเรียวปากบางก็ฉีกยิ้มหวานให้เขา พยายามซ่อนพิรุธของตัวเองให้เนียนที่สุด
...ไม่ได้! เธอจะมาอ่อนแอเพราะของเผ็ดเหมือนเด็กๆ ไม่ได้!
ใบหน้าสวยยังคงแสดงความสดใส แล้วหมุนเส้นสปาเก็ตตี้ขึ้นมากิน ทว่า!...
ซี๊ดดด!!! เผ็ดชะมัด!!
นี่คือครั้งแรกเลยที่หญิงสาวเอาอาหารเผ็ดๆ เข้าปาก เพราะกลัวเสียหน้าเลยยอมฝืนทำอะไรโง่ๆ คำแรกเข้าปากไปแล้ว คำที่สองก็ต้องไปต่อ และคำที่สามก็ตามมาอีก สุดท้ายก็ฝืนไม่ไหวเลยต้องรีบคว้าน้ำมาดื่ม
ครืด!!
"พะ..พี่ผา!" จู่ๆ มือหนาก็ดึงจานสปาเก็ตตี้ไปไว้ตรงหน้าเขา แล้วยกมือเรียกเด็กเสิร์ฟให้มาหา
"เอาแบบนี้อีกจานนึง ขอไม่เผ็ดนะครับ เผ็ดได้แค่สองเปอร์เซ็นต์ของจานนี้..."
"แต่ว่าแพรทานได้!..."
"เลิกดื้อเถอะน้องแพร คิดว่าพี่เชื่อเราเหรอว่ากินเผ็ดขนาดนี้ได้แล้ว"
ใบหน้าสวยก้มลงทันทีที่ถูกจับได้ ส่วนชายหนุ่มก็หันไปคุยกับเด็กเสิร์ฟให้จบ
...เฮ้อ! เธอคงเล่นละครไม่เนียนสินะ คิดว่าตอนนี้สีหน้าเธอคงจะฟ้องเขาหมดแล้ว แผนพังไม่เป็นท่า ซี๊ดดด! แสบปากไปหมด ไม่น่าทำอะไรแบบนี้เลย
ใบหน้าสวยรีบเงยขึ้นไปมองเมื่อได้ยินเสียงเหมือนชายหนุ่มกำลังกิน แล้วก็ใช่ เขากินสปาเก็ตตี้จานนั้นต่อจากเธอ แถมยังใช้ช้อนคู่เดิมที่เธอเอาเข้าปากไปแล้วด้วย
...หึๆ แสดงว่าเธอยังมีอิทธิพลต่อเขาอยู่บ้าง
"เอ่อพี่ผาคะ คือว่าช้อนนั่น...แพรกินไปแล้วนะคะ" หญิงสาวนั่งเท้าคางบอกพลางฉีกยิ้มยั่วยวน
...นี่เรียกว่าจูบทางอ้อมหรือเปล่านะ
"แล้ว?" แต่ชายหนุ่มกลับเลิกคิ้วถามหน้านิ่ง
"ก็...." ย้อนถามด้วยท่าทีแบบนั้นแพรพลอยจึงพูดอะไรต่อไม่ถูก ผู้ชายคนนี้ไม่โรแมนติกเอาซะเลย
"จะเป็นไรไป เมื่อก่อนเราก็กินข้าวจานเดียวกัน ใช้ช้อนเดียวกัน ดูดน้ำก็หลอดเดียวกัน แถมน้องแพรยังเคยจู...!"
"ค่ะพี่ผา! แพรเข้าใจแล้วค่ะ!" เสียงเล็กรีบแทรกขึ้นมา เมื่อคนตรงหน้าเอามือค้ำคางรื้อฟื้นความเอาแต่ใจในวัยเด็กของเธอ แถมมุมปากหนายังยกยิ้มเบาๆ อีก เธอโดนเขายั่วกลับแล้วหรือเปล่า เธอคงประเมินอีกฝ่ายผิดไป เพราะเขานั้นร้ายลึกไม่ธรรมดา บางทีก็เหมือนจะจัดการเขาได้ไม่ยาก แต่บางทีเธอก็คิดว่ามันน่าจะเกินความสามารถ
แพรพลอยได้แต่นั่งหลบตาอีกฝ่ายระหว่างรออาหารจานใหม่ เพราะไม่สามารถคาดเดาอะไรจากสายตาเรียบนิ่งคู่นั้นที่ซ่อนกลอุบายไว้มากมายได้เลย
หลังจากสปาเก็ตตี้จานใหม่มา หญิงสาวก็ตั้งหน้าตั้งตากินเพราะว่าจริงๆ แล้วหิวมาก ขนาดจานใหม่ไม่ได้เผ็ดใบหน้าสวยยังร้อนเลย แต่มันร้อนเพราะว่าเหลือบไปเห็นชายหนุ่มตรงหน้ากินสปาเก็ตตี้มากกว่า เขากินได้เซ็กซี่มาก ยิ่งมองหน้าเธอก็ยิ่งร้อน ไม่รู้ว่าแดงด้วยหรือเปล่า นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอีกฝ่ายกินในตอนที่เขาโตเป็นหนุ่มหล่อขนาดนี้ ขนาดเธอยังใจเต้นแรง แล้วผู้หญิงคนอื่นล่ะ?
...ไม่ได้ๆ เธอจะต้องรีบคว้าเขามาครองให้ได้ ให้เขารักเธอ หลงเธอ ตามใจแต่เธอคนเดียว!