ตอนที่ 8 ข่าวดัง
ตอนที่ 8
ข่าวดัง
ภาพของโซ่ หนุ่มหล่อสุดโหด ดีกรีเฮดว้ากจากวิศวะ และสาวน้อยหน้าหวาน สมบัติของคณะเภสัช ถูกแอบถ่ายและเผยแพร่ลงโซเซียล เป็นที่ฮือฮาของทุกคนในมหา’ลัยเป็นอย่างมาก
“ใช่เหรอแก?” สาว ๆ ที่เป็นแฟนคลับของโซ่ก็รีบสืบถามกันจ้าละหวั่น
“กรี๊ดดด นี่พี่โซ่มีแฟนแล้วเหรอ?”
เมื่อเจ้าแก้มและเพื่อนเดินผ่านมาก็พากันชี้เพื่อนให้ดูด้วย
“นั่นไง ๆ”
“ทำไมคนมองมาที่เราแปลก ๆ” ชิงชิงเอ่ยขึ้นแล้วมองไปรอบ ๆ ด้วยความสงสัย เพราะเธอรู้สึกว่าจะมีคนมองมาที่เธอและเพื่อนแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้
“นั่นสิ” หนูดีเองก็รู้สึกเช่นกัน จึงพยักหน้าเห็นด้วย
“หน้าแก้มมีอะไรติดหรือเปล่า?” เจ้าแก้มที่รู้สึกว่าคนจะมองมาที่เธอคนเดียวจึงหันไปถามเพื่อนด้วยความไม่มั่นใจ
“ไม่มีนี่” ชิงชิงส่ายหน้า
จากนั้นทั้งสามสาวก็รีบเดินไปด้านในคณะทันที
“พี่ฟีน” เจ้าแก้มเอ่ยเรียกพี่รหัสของตนเองที่กำลังจะเดินผ่านไป
“อ้าว เจ้าแก้ม” ฟีนหันมาเห็นน้องรหัสของตนเองก็ยิ้มให้เล็กน้อย
“มาเอาข้าวเหรอ?”
จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้น เพราะวันนี้มีกิจกรรมรับน้อง โรงอาหารจะไม่เปิด นักศึกษาทุกชั้นปีจะมีข้าวกล่องแจกให้ทุกคน
“ค่ะ” เจ้าแก้มพยักหน้ารับ
“ตามมาสิ” ฟีนจึงเอ่ยขึ้นแล้วเดินนำหน้าไป
จนไปถึงที่โต๊ะแจกข้าว สามสาวจึงไปต่อแถวรอรับข้าว
“เสื้อสวยนะเจ้าแก้ม” จนมาถึงคิวแล้ว เพื่อนของฟีนก็ทักขึ้นพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม
“พี่เซ็น” เจ้าแก้มมองรุ่นพี่ของตนเองด้วยความเขินอาย
“มึงก็ไปแซวน้อง เดี๋ยวกูฟ้องไอโซ่เลย” เพื่อนอีกคนของฟีนจึงว่าให้ แต่ก็ไม่วายแซวเจ้าแก้มไปด้วยสายตา
“มึงยิ่งหนักเลย อ่ะนี่ข้าว” ฟีนจึงขัดขึ้นแล้วหยิบกล่องข้าวส่งให้รุ่นน้องทั้งสาม
“ขอบคุณค่ะ” เจ้าแก้มรับกล่องข้าวมาถือไว้คนเดียว
ส่วนเพื่อนทั้งสองตอนนี้กำลังสุ่มหัวคุยกันอยู่ด้านหลัง
“ฉันว่าฉันรู้แล้ว ว่าทำไมคนมองมาที่เราแปลก ๆ”
หนูดีพูดขึ้นแล้วยื่นโทรศัพท์ไปให้ชิงชิงดู
“โหหห เพจข่าวมหา’ลัยเลยเหรอ”
เมื่อเห็นแล้วชิงชิงก็ตาโตขึ้นมาทันที เพราะเพจข่าวที่ลงคือเพจของคณะนิเทศศาสตร์เลย
“มีอะไรหรือเปล่า?”
เจ้าแก้มหันมาเห็นเพื่อนทั้งสองมีท่าทีแปลก ๆ จึงถามขึ้นด้วยความสงสัย
“เปล่า ไปหาที่กินข้าวเถอะ”
ซึ่งชิงชิงและหนูดีส่ายหน้าพรืด รีบเก็บโทรศัพท์แล้วชวนเจ้าแก้มไปหาที่กินข้าวทันที
จนมาถึงสวนหย่อมด้านข้างคณะ ที่มีโต๊ะไว้นั่งเล่นอยู่ สามสาวจึงนั่งกินข้าวกันที่นี่
“ดังใหญ่แล้วนะเจ้าแก้ม” ทันทีที่นั่งลงก็มีเพื่อนร่วมคลาสเข้ามาเอ่ยแซว
“หื้ม? อะไรเหรอ?” เจ้าแก้มหันไปมองและถามขึ้นด้วยความสงสัย
“อ้าว ก็..” เพื่อนคนนั้นจะเอ่ยขึ้น แต่ถูกหนูดีและชิงชิงโบกมือห้ามเสียก่อน
“ไม่มีอะไรหรอก เราแค่เข้ามาคุยด้วยน่ะ ขอตัวนะ” เธอจึงว่าขึ้นแล้วขอตัวเดินออกไปทันที
“เอ๊ะ” เจ้าแก้มจึงได้แต่มองตามด้วยความสงสัย
“มีอะไรกันหรือเปล่า? ทำไมทุกคนดูแปลก ๆ”
เมื่อหันมาเห็นหนูดีและชิงชิงมีท่าทีแปลกไปเช่นกันจึงถามขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอก กินข้าวเถอะ”
ชิงชิงปฏิเสธ ที่เธอไม่อยากให้เจ้าแก้มรู้เพราะไม่อยากให้เพื่อนคิดมากแล้วเข้าไปดูเพจนั่น ซึ่งเธอเห็นแล้วว่าคอมเมนต์บางคอมเมนต์นั้นไม่มีหัวคิดกันแค่ไหน กลัวเจ้าแก้มจะคิดมาก
เจ้าแก้มจึงพยักหน้ารับเปิดกล่องข้าว แต่แล้วก็มีสีหน้าที่เศร้าลง
“มีอะไรเจ้าแก้ม?” หนูดีจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย
เจ้าแก้มเบะปากแล้วหันกล่องข้าวของตนให้เพื่อนดู
“อ้าว!” เมื่อเห็นแล้วชิงชิงและหนูดีก็รีบเปิดกล่องข้าวตัวเองทันที
“ของฉันก็เหมือนกัน” และเห็นว่าข้าวพวกเธอก็ไม่ได้ต่างจากเจ้าแก้มเลย
“เอาไงล่ะทีนี้?” ชิงชิงถามขึ้น เพราะข้าวที่พวกเธอได้มาคืออาหารที่มีรสเผ็ด แต่เจ้าแก้มไม่กินเผ็ดเลย ฉะนั้นข้าวนี่เพื่อนเธอกินไม่ได้แน่ ๆ
“สั่งข้าวดีไหม?”
“จะทันเหรอ โรงอาหารก็ไม่เปิดนะ”
“หรือจะออกไปหาอะไรกินข้างหน้า”
หนูดีเสนอความคิดเห็น เพราะด้านหน้านอกจากร้านน้ำแล้วก็มีอาหารมาขายมากมายเช่นกัน เนื่องจากวันนี้ทางมหา’ลัยอนุญาตให้แม่ค้าพ่อค้าเข้ามาขายของได้
“พวกแกกินเถอะ เดี๋ยวแก้มนั่งรอแล้วค่อยออกไป”
เจ้าแก้มพยักหน้าจำยอมแล้วบอกให้เพื่อนกินข้าวเลย เธอจะรอ แล้วค่อยออกไปหาซื้อกินข้างนอก
สองสาวจึงพยักหน้ารับแล้วก้มหน้ากินข้าว
“สวัสดีครับ” แล้วจู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาทัก
“เอ่อ สวัสดีค่ะ”
เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นว่าเป็นกลุ่มของโซ่ เพื่อนของเจ้าแก้มก็ทำตัวกันไม่ถูกทันที
“พวกพี่ขอนั่งกินข้าวด้วยนะครับ พอดีมาหาเพื่อน แต่หาไม่เจอ”
ไลอ้อนเอ่ยขึ้นทันทีแล้วยิ้มให้ว่าที่แฟนเพื่อนเล็กน้อย เนื่องจากตอนแรกตกลงกันว่าจะกินข้าวที่คณะ แต่เพราะเขาอยากจะรู้จักว่าที่แฟนเพื่อน จึงลากทุกคนมาด้วย ไม่เว้นแม้แต่โซ่เอง
“เอ่อ ค่ะ” ชิงชิงพยักหน้ารับแล้วขยับไปนั่งข้างหนูดี
โซ่เดินไปนั่งลงข้าง ๆ เจ้าแก้มทันที
พรึบ
“เร็วเชียวนะมึง” ไลอ้อนเอ่ยขึ้นด้วยความหมั่นไส้แล้วนั่งลงข้างน้องชายฝาแฝดของตนเอง
“เป็นอะไร? ทำไมหน้างอ” โซ่ไม่ได้สนใจคนอื่น เขาถามเจ้าแก้มที่นั่งทำหน้าบึ้งอยู่ข้าง ๆ
“ไม่มีอะไรค่ะ” เจ้าแก้มส่ายหน้าเล็กน้อย
“แล้วทำไมไม่กินข้าว?” โซ่จึงถามขึ้นแล้วมองเจ้าแก้มที่ไม่กินข้าว
“เจ้าแก้มไม่กินเผ็ดน่ะค่ะ” เป็นชิงชิงที่ตอบแทนเพื่อนสนิท
โซ่จึงหยิบกล่องข้าวของเจ้าแก้มมาดู จากนั้นก็เลื่อนกล่องตัวเองไปให้เจ้าแก้ม
“อ่ะ”
“???” เจ้าแก้มมองเขาด้วยความสงสัย
“กิน” โซ่จึงเปิดกล่องข้าวออกแล้วบอกให้เจ้าแก้มกิน ข้าวเขาคือข้าวผัดหมู ฉะนั้นเจ้าแก้มน่าจะกินได้
“แล้วพี่โซ่จะกินอะไร?”
“ก็นี่ไง” โซ่หยิบกล่องข้าวเจ้าแก้มมาไว้ตรงหน้าเขาแล้วเปิดออก
“แต่มันเผ็ดนะ” เจ้าแก้มจึงพูดขึ้นด้วยใบหน้าใสซื่อ
“คิดว่าคนอื่นไม่กินเผ็ดเหมือนตัวเองหรือไง” ชิงชิงจึงเอ่ยขึ้นขัด
“กิน ๆ ไป” โซ่พูดขึ้นแล้วหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวกิน
“ขอบคุณค่ะ” เจ้าแก้มฉีกยิ้มแล้วหันมากินข้าวของโซ่ แต่ก็ไม่วายมีสิ่งที่เธอไม่กิน นั่นก็คือผักนั่นเอง
“ไม่กินผัก?” โซ่เหลือบไปเห็นเจ้าแก้มเขี่ยผักออกจึงเอ่ยถามขึ้น
“แฮ่ ค่ะ” เจ้าแก้มยิ้มแหยแล้วพยักหน้ารับ
“เด็กน้อยจังวะ” โซ่พูดพึมพำกับตัวเองแล้วเอื้อมมือไปตักผักที่เจ้าแก้มเขี่ยออกมากินเอง
“พี่โซ่!!” เจ้าแก้มมองเขาด้วยความตกตะลึง นั่นเธอเขี่ยทิ้งไปแล้วนะ
“ดูแลตัวเองทุกอย่าง นอนเร็ว ออกกำลังกาย สายสุขภาพ แต่ไม่กินผัก นี่ย้อนแย้งนะ”
ชิงชิงอมยิ้มให้กับความใส่ใจที่โซ่มีให้เจ้าแก้ม จากนั้นก็บ่นขึ้น
“เราก็ทำทุกอย่างเพื่อทดแทนการกินผักไง” เจ้าแก้มจึงหันมาเถียงเธอทันที
“เหตุผลเถียงไม่ขึ้นย่ะ”
“ชิ” เจ้าแก้มเลิดหน้าขึ้นแล้วหันมากินข้าวต่อ
โซ่หยิบขวดน้ำข้าง ๆ ของเจ้าแก้มมาเปิดไว้ให้
“ขอบคุณค่ะ”
“เราเป็นฝุ่นหรือว่าโลกนี้ของมันมีแค่น้องเขาวะ?”
ไลอ้อนกระซิบกับลีออนแล้วมองเพื่อนสนิทหน้านิ่งของตนที่ดูแลสาวอย่างดี เป็นภาพที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต
“อย่าใช้คำว่าเรา กูไม่ได้ขี้เสือกเหมือนมึง” ลีออนปรายตามองพี่ชายแล้วพูดขึ้นเสียงนิ่ง
“อ้าว ไอ้สัส”
