บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 อีกมุม

ตอนที่ 7

อีกมุม

กึก

ขาที่กำลังจะก้าวเดินชะงักลง เนื่องจากว่าคนด้านหน้าได้หยุดชะงัก โซ่หันไปมองเพื่อนสนิทที่จู่ ๆ ก็หยุดเดินด้วยใบหน้านิ่ง ๆ

“เชี้ยยยยย” แต่คนที่กำลังเป็นเป้าสายไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้สายตาของเขาไปหยุดอยู่ที่ด้านข้างของเต็นท์คณะแล้วร้องขึ้นทันที

“อะไรของมึง?” พายัพถามขึ้นด้วยความสงสัย

“นั่นใครวะ? ทำไมน่ารักแบบนี้กูไม่เคยเห็น”

ไลอ้อนชี้ไปที่กลุ่มของสามสาวที่กำลังจัดเตรียมของกันอยู่

“ไหน?” พายัพหันไปมองตามมือของไลอ้อนที่ชี้ไปแล้วก็ตาลุกวาวทันที

“เออว่ะ”

“เด็กแพทย์หรือเปล่า?”

เป็นเรย์ที่พูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ เพราะดูจากการแต่งตัวและกล่องปฐมพยาบาลที่ถือแล้วก็คงจะเป็นอย่างที่เขาพูด

“น่าจะใช่แหละ” ซึ่งคนอื่นก็เห็นด้วยกับคำพูดนั้น

“แต่น่ารักว่ะ คนนั้นน่ะ ตัวเล็ก ๆ” ไลอ้อนชี้มือไปที่สาวน้อยน่ารักที่ตัวเล็กที่สุดในนั้นแล้วเอ่ยขึ้น

โซ่หันไปมองตามแล้วเห็นว่าคนที่เพื่อนเขาพูดถึงคือใครก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

“มีอะไรวะ?” ลีออนเห็นสีหน้าของเพื่อนแล้วแปลกใจ จึงถามขึ้น

ทำให้เพื่อนทั้งสามหันมามอง โซ่จ้องหน้าไลอ้อนนิ่งแล้วเอ่ยปฏิเสธ

“เปล่า”

จากนั้นก็เดินหนีไปทันที ตามด้วยลีออนและเรย์

“ทำไมกูรู้สึกขนลุกกับสายตามันวะ?”

ไลอ้อนหันมาถามพายัพที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบแขนตนเองไปมา

“ไม่รู้ดิ แต่กูก็รู้สึกเหมือนกัน” พายัพส่ายหน้าแล้วก็คิดเหมือนกันกับไลอ้อน

ปี๊ดดดดดดด

เสียงนกหวีดที่ดังขึ้นทำให้เด็กปีหนึ่งที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่รีบวิ่งมาต่อแถวกันทันที

“ไปกันเถอะแก” เจ้าแก้มยกกระเป๋าปฐมพยาบาลขึ้นมาสะพายแล้วหันไปบอกเพื่อน

“อื้ม”

จากนั้นสามสายก็แยกย้ายกันไปดูแลเด็กคณะวิศวะที่ตนเองได้รับมอบหมาย

“ยาดมไหมคะ?” เจ้าแก้มเอ่ยถามรุ่นน้องที่ยืนกันกลางแดดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

พรึบ

แล้วจู่ ๆ ก็มีคนมายืนข้าง ๆ เจ้าแก้มจึงหันไปมองด้วยความแปลกใจ

“พะ พี่โซ่” และเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ตกใจเล็กน้อย

“ร้อนไหม?” โซ่ถามขึ้นแล้วมองใบหน้าหวานที่แดงก่ำเพราะแดดด้วยความเป็นห่วง

“นิดหน่อยค่ะ” เจ้าแก้มตอบแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย

“นิดหน่อยอะไร ตัวแดงหมดแล้ว” โซ่บ่นขึ้นแล้วขอตัวเดินออกไป

“เดี๋ยวมา”

“เอ๊” เจ้าแก้มมองตามหลังร่างสูงในชุดช็อปวิศวะสีเลือดหมูไปด้วยความแปลกใจ

“ไหวไหมคะ?” จากนั้นก็เลิกสนใจแล้วหันมาแจกจ่ายยาดมให้น้อง ๆ ต่อ

ไม่นานโซ่ก็เดินกลับมาพร้อมกับเสื้อแขนยาวที่แดงเลือดหมู ที่บ่งบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำของคณะวิศวะ เขายื่นเสื้อนั่นไปตรงหน้าเจ้าแก้ม ท่ามกลางสายตาของรุ่นน้องปีหนึ่งที่แอบเหลือบมองมา

“???” เจ้าแก้มมองโซ่ด้วยความไม่เข้าใจ

“ใส่”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

เมื่ออีกฝ่ายพูดบึ้นเธอจึงเข้าใจ ตอนแรกเธอคิดว่าน่าจะได้ไปประจำในที่ร่ม จึงไม่ได้เอาเสื้อแขนยาวมาด้วย แต่ถ้าจะให้ใส่ของเขาก็คงไม่ดีเท่าไร

“ใส่” แต่โซ่กลับยยัดเสื้อใส่มือเจ้าแก้มแล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างจริงจัง

“ค่ะ” เจ้าแก้มจึงต้องจำยอมใส่อย่างเสียไม่ได้

“เอามานี่” โซ่ยื่นมือไปหยิบเอากระเป๋าปฐมพยาบาลมาถือไว้เอง

“อ๊ะ ขอบคุณค่ะ”

“เดี๋ยวถือให้ เดินไปเถอะ” โซ่เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้านิ่ง ๆ

จากนั้นทั้งสองก็เดินแจกจ่ายยาดม ยาหอม และช่วยเหลือรุ่นน้องที่จะเป็นลมกัน ท่ามกลางสายตาของคนในคณะวิศวะและรอบข้างที่หันมามองด้วยความแปลกใจ

แต่คนที่ตกใจที่สุดก็คงจะเป็นเพื่อนของเขานั่นเอง

“กูว่ากูรู้แล้วว่าทำไมมันถึงมองมึงแปลก ๆ” พายัพเอ่ยขึ้นในขณะที่มองเพื่อนสนิทเดินตามหลังสาวน้อยที่ไลอ้อนเอ่ยชมไปต้อย ๆ

“เออ ไอ้สัส มุมนี้ของมันทำกูขนลุกนะ” ไลอ้อนพูดขึ้นแล้วทำท่าทางขนลุก

“บรึ้ยยยยย” สองหนุ่มหันมามองหน้ากันแล้วยกมือขึ้นมาลูบแขนตัวเองไปมา

โซ่เดินตามหลังเจ้าแก้มไปไม่ห่าง

“ไอ้โซ่” จนลีออนจ้องมาตามเพราะใกล้เวลาที่ต้องขึ้นว้ากแล้ว

“อื้ม” โซ่หันไปมองเพื่อนแล้วพยักหน้าให้

“อ่ะ เดี๋ยวมา ไปหานั่งพักไป” จากนั้นก็หันมายื่นกระเป๋าให้เจ้าแก้ม พร้อมสั่งให้เธอไปพัก เนื่องจากเดินมานานแล้ว หน้าของเจ้าแก้มก็แดงมากด้วย

“ได้ค่ะ” เจ้าแก้มรับกระเป๋าไปแล้วพยักหน้า

เมื่อเดินแยกกันออกมา เจ้าแก้มก็เดินกลับเต้นท์ ส่วนโซ่ก็เดินไปที่จุดด้านหน้ารุ่นน้องที่รวมกันอยู่

“เงียบบบบบ”

“หมอบลงไป!!!”

เสียงตะคอกที่ดังขึ้นจากกลางสนามทำให้เจ้าแก้มสะดุ้งขึ้น เธอหยุดเดินแล้วหันหลังไปมอง เมื่อเห็นคนที่ร้องตะโกนนั้นคือใครเธอกลืนน้ำลายลงคอทันที

“อึก”

“นะ นี่สินะ ชิงชิงและหนูดีถึงบอกว่าเขาโหด” เธอพูดขึ้นกับตัวเองแล้วก็หันหลังเดินต่อ

“อ้าวนั่นไง มานั่นพอดี "

เมื่อเดินเข้ามาก็เห็นเพื่อนสนิทกำลังนั่งพัดวีให้กันอยู่ เจ้าแก้มจึงเดินไปหา

“รอตั้งนาน” ชิงชิงพูดขึ้นแล้วยื่นขวดน้ำให้เจ้าแก้ม

“แล้วนี่เสื้อใครอ่ะ?”

หนูดีถามขึ้นแล้วมองเสื้อที่เพื่อนใส่ด้วยความแปลกใจ เพราะตอนออกไป เจ้าแก้มไม่ได้ใส่เสื้อแขนยาวนี่นา

“เอ๊ะ ศิรวิทย์เหรอ? คุ้น ๆ นะชื่อนี้”

ชิงชิงลุกขึ้นแล้วเดินมาดูชื่อที่ปักอยู่ตรงอก และมีปีที่เรียนด้วย

“เสื้อวิศวะ!!” หนูดีจับเจ้าแก้มให้หันหลังแล้วเห็นเฟืองเกียร์ก็พูดขึ้นทันที

สองสาวยกมือขึ้นปิดปากตัวเองอย่างตกตะลึง

“นะ นี่เสื้อพี่โซ่เหรอ?” ชิงชิงถามขึ้นแล้วจ้องหน้าเจ้าแก้มจนตาถลน

“เจ้าแก้ม” แต่ยังไม่ทันที่เจ้าแก้มจะได้ตอบอะไรก็มีคนเรียกเธอเสียก่อน

“ค่ะพี่แพร เดี๋ยวมานะ” เจ้าแก้มหันไปมองคนเรียกแล้วเดินไปหาทันที

“แกคิดว่าไง B1” หนูดีหันไปถามชิงชิงแล้วยิ้มแหย

“ฉันว่าไม่รอด” ชิงชิงส่ายหน้าปลง ๆ

“จะไหวเหรอ?” หนูดีถามขึ้น

“ต้องไหวสิ พี่โซ่ก็ไม่ใช่คนเจ้าชู้สักหน่อย พี่กราฟกับพี่กลูมคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง”

ชิงชิงขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น เพราะเธอคิดว่าหนูดีคงจะหมายถึงครอบครัวเจ้าแก้มที่หวงน้องสาวมาก

แต่ว่าเท่าที่เธอได้ยินมา โซ่ก็ไม่ใช่คนไม่ดี พี่ชายทั้งสองคงไม่กีดกันอะไรถ้าหากทั้งคู่จะคบกันจริง ๆ

“ไม่ พี่ชายเจ้าแก้มก็ส่วนหนึ่ง แต่พี่โซ่น่ะจะรับมือกับเพื่อนเราไหวไหม?”

หนูดีส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นในสิ่งที่ตัวเองเป็นกังวล พี่ชายของเจ้าแก้มก็ส่วนหนึ่งที่เป็นห่วง แต่ที่ห่วงมากกว่าคืออีกฝ่ายจะรับมือกับเพื่อนสนิทที่แสนจะซื่อบื้อของเธอได้ไหมนี่สิ

“เออ คิดแล้วก็ขอดมยาแป๊บ” ชิงชิงจึงพยักหน้าเห็นด้วยแล้วยกยาดมขึ้นมาดมอย่างปลง ๆ

“นี่ค่ะพี่แพร” เจ้าแก้มยื่นกระเป๋าพยาบาลให้รุ่นพี่ต่างคณะไป

แพรวารับกระเป๋าไปแล้วเหลือบมองเสื้อของเจ้าแก้มเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้ถามอะไรไป

“เอ… เสื้อใครน่ะน้องแก้ม?”

แต่คนที่ถามเพื่อนของเธอนั่นเอง เพราะเภสัชและแพทย์อยู่ข้างกัน รับน้องก็เคยรับด้วยกัน ทำให้ค่อนข้างคุ้นเคยกันดี อีกอย่างที่คณะแพทย์ ไม่มีใครไม่รู้จักพี่ชายของเจ้าแก้ม แล้วคนเป็นน้องสาวมีหรือที่คนอื่นจะไม่รู้จัก

“เอ่อ” เจ้าแก้มอึกอักเล็กน้อยเพราะไม่รู้จะตอบยังไง

“เสื้อใครก็ช่างเถอะน่า แกรีบจัดยาให้น้องเร็ว น้องจะได้ลงไปที่สนามต่อ” เป็นแพรวาที่พูดขัดขึ้นแล้วเร่งเพื่อนให้รีบจัดยา

ทำให้รุ่นพี่คนนั้นหันไปสนใจงานต่อ ไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไร

“ขอบคุณค่ะ” เจ้าแก้มรับกระเป๋ายามาแล้วเดินไปหาเพื่อนสักพักก็แยกย้ายกันลงไปที่สนามอีกครั้ง

พรึบ

แต่ในขณะที่กำลังเดินไปก็มีคนมาดักหน้าเธอไว้เสียก่อน

เจ้าแก้มมองสองคนที่จู่ ๆ ก็มาดักหน้าตัวเองไว้ด้วยความตกใจ

“สวัสดีครับ” ซึ่งหนึ่งในนั้นยิ้มแหยเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น

“เอ่อ สวัสดีค่ะ”

“พี่ชื่อไลอ้อนนะครับ ส่วนนี่พายัพ เพื่อนพี่เอง”

“ค่ะ เจ้าแก้มนะคะ” เจ้าแก้มแนะนำตัวเองแล้วก้มหัวเล็กน้อย

“ครับ”

“มีอะไรหรือเปล่าคะ? หรือว่าอยากได้ยาดมหรือยากิน” เธอถามขึ้นถึงความต้องการของอีกฝ่ายที่มาดักหน้าเธอในตอนนี้

“เปล่าครับ คือพี่มีอะไรจะถามน้องนิดหน่อย” ไลอ้อนพูดขึ้นแล้วหันไปมองหน้าพายัพ

“คะ?”

“ถามสิไอ้พาย” เขาคะยั้นคะยอให้พายัพเป็นฝ่ายถาม เพราะเขาอยากรู้ว่าสาวน้อยตรงหน้าเป็นอะไรกับเพื่อนตัวเอง

“อะไร? มึงอยากรู้ก็ถามสิ” แต่พายัพปฏิเสธและโยนกลับไปให้ไลอ้อน

“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เจ้าแก้มเห็นทั้งสองคนเถียงกันไปมาก็ถามขึ้นอีกครั้ง

“คือพี่จะถามว่านะ” ไลอ้อนจึงตัดสินใจหันมาถามเอง

“ไอ้อ้อน ไอ้พาย!!” แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไร ก็เสียงเรียกดังขึ้นเสียก่อน

“อุ๊ย พ่อมา” ทั้งสองคนหันไปมองแล้วเห็นว่าเป็นโซ่ที่ยืนจ้องมาที่พวกเขาเขม็งก็สะดุ้งกันทันที

“ไม่มีอะไรแล้วครับ ขอตัวก่อนนะ” ไลอ้อนหันมาพูดกับเจ้าแก้มแล้วลากพายัพออกไป

“อ้าว?” เจ้าแก้มได้แต่มองตามหลังด้วยความงง

“พวกมันมาคุยอะไรด้วย?” โซ่เดินมาหาเจ้าแก้มแล้วถามขึ้นเสียงนิ่ง

“ยังไม่ได้คุยอะไรเลยค่ะ พี่โซ่รู้จักเหรอคะ?” เจ้าแก้มส่ายหน้าแล้วถามขึ้นบ้าง

“อื้ม เพื่อนพี่เอง”

“อ๋อ”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าแก้มไปตรงนั้นก่อนนะคะ” เข้าแก้มเอ่ยขอตัวแล้วชี้ไปกลางสนามเพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ

“เดี๋ยว!” แต่โซ่กลับเรียกเธอไว้เสียก่อนที่เธอจะเดินเลี่ยงออกไป

“คะ?” เจ้าแก้มหันมามองเขาด้วยความสงสัย

พรึบ

โซ่ไม่ตอบ แต่หยิบผ้าเย็นที่ถือมาด้วยขึ้นไปเช็ดตามกรอบหน้าหวานของเจ้าแก้ม

“เหงื่อออกเต็มเลย” เขาพูดขึ้นแล้วค่อย ๆ ซับเหงื่อให้เธอ

เจ้าแก้มตัวแข็งทื่อด้วยความตะลึงและใจก็เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ

ตึก ตึก ตึก

โซ่เห็นอีกฝ่ายยืนตัวแข็งอยู่ก็ยิ้มเอ็นดู

“หึ ตั้งใจล่ะ” เขายกมือขึ้นมาลูบหัวเล็กเบา ๆ จากนั้นก็เดินหนีไป

ทิ้งให้เจ้าแก้มได้แต่ยืนนิ่งหน้าแดงอยู่ตรงนั้นนานนับนาที

จนตั้งสติได้แล้วเธอก็รีบวิ่งไปทำหน้าที่ต่อด้วยใบหน้าที่แดงก่ำเพราะความเขิน ไม่ใช่เพราะแดดแต่อย่างใด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel