บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 มอง

ตอนที่ 4

มอง

ทางด้านเพื่อนสนิทของโซ่ก็รีบเดินมาหาเพื่อนที่ยืนนิ่งอยู่ แต่เมื่อมาถึงแล้วเห็นโซ่มองไปทางหนึ่งแล้วยิ้มอยู่ พายัพก็เอ่ยถามขึ้นทันที

“มองอะไรวะ?”

“เออ แล้วยิ้มด้วย มีอะไรดี ๆ บอกพวกกูมานะ?”

ไลอ้อนเองก็สงสัยเช่นกัน เขาเดินไปสอดส่องหาสิ่งที่โซ่มองแล้วยิ้มทันที

“ปัญญาอ่อน” โซ่หันหน้าหนีแล้วพูดขึ้นอย่างเอือมระอา

“แล้วเป็นไงวะ?” เรย์ถามถึงสิ่งที่เพื่อนมาทำที่นี่แทน เป็นงานเป็นการมากกว่าสองคนแรกเป็นไหน ๆ

“เดี๋ยวท่านจัดการให้” โซ่ตอบแล้วทำหน้าตาย ตามแบบฉบับของเขา

“เออดี เล่นกับใครไม่เล่น”

“กูไปทำงานต่อแล้ว” โซ่พูดขึ้นแล้วก็เดินออกไป เพื่อจะไปทำงานต่อให้เสร็จ โดยมีลีออนและเรย์เดินตามไป

“ไอ้อ้อน มีอะไรวะ?” พายัพหันมาถามไลอ้อนที่ยังคงสอดส่องหาสิ่งผิดปกติอยู่

“เปล่า กูแค่สงสัยว่ามันมองอะไร”

ไลอ้อนมองไปทั่วแล้วไม่เจออะไรก็หันมาตอบเพื่อนอย่างเซ็ง ๆ นึกว่าจะมีอะไรดี ๆ เสียอีก

“ไปเถอะ” พายัพจึงชวนเพื่อนตามไปทันที

“อื้ม”

เช้าวันต่อมา

โซ่มาทำงานแต่เช้า เนื่องจากว่าเมื่อวานนี้ มีการเปลี่ยนแปลงในคณะ จึงทำให้อาเขยของเขาโยนงานมาให้มากมายเลย

แกรก

เสียงประตูที่เปิดออกตามด้วยร่างของสองแฝดที่เดินเข้ามา

“มาเช้าจังวะ?” ไลอ้อนเอ่ยทักเพื่อนสนิททันทีทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าทำไมโซ่ถึงมาเช้า เพราะที่น้องชายฝาแฝดลากเขามาแต่เช้าก็เพราะสาเหตุเดียวกันนี่แหละ

“เอานี่ไป” โซ่ไม่ตอบ แต่ยื่นซองเอกสารไปให้ไลอ้อนแทน

“อะไร?” ไลอ้อนรับเอกสารที่มีชื่อด้านหน้าเป็นคณะต่าง ๆ มาด้วยความงงงัน

“เอกสารรายงาน และแจ้งงบประมาณ ไปส่งให้แต่ละคณะด้วย”

“หมดนี่เลยเหรอวะ?” เมื่อได้ยินคำตอบของโซ่แล้ว ไลอ้อนก็ถามขึ้นแล้วทำหน้าเซ็งทันที

“อื้ม”

“แบ่ง ๆ กันไปดิ ให้พวกกูไปสองคนเหนื่อยหอบพอดี” จากนั้นเขาก็เริ่มโวยวาย เพราะให้เขากับน้องชายไปทุกคณะก็คงเหนื่อยแย่

“ใครบอกว่ากูจะไปด้วย " แต่คำถามของน้องชายก็ทำให้เขานิ่งค้างทันที

ลีออนถามขึ้นด้วยไปหน้านิ่ง ๆ แล้วก็เดินไปนั่งโต๊ะประจำของตนเอง จากนั้นก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ปิดสัญญาณรับรู้จากโลกภายนอก

“อ้าว อะไรวะ?”

ไลอ้อนถามขึ้นงง ๆ และก็รู้แล้วว่าที่ลีออนลากเขามาแต่เช้า ไม่ใช่เพราะน้องชายมีงาน แต่น้องชายลากเขามาให้โซ่ใช้งานนี่เอง

แกรก

แล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น ทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูไลอ้อนก็หันไปมองทันที

“ไอ้พาย มาพอดีเลยมึง มานี่!” เมื่อเห็นว่าเป็นคู่หูของตนเองก็รีบพูดขึ้นทันที

“มีอะไรวะ?” พายัพถามขึ้นและมองไลอ้อนที่ยิ้มร่าด้วยสายตาแปลก ๆ

“ก็ไอ้พวกนี้มันโยนงานมาให้กูนี่”

“งานอะไร?”

“ส่งเอกสาร” ไลอ้อนตอบแล้วกรอกตามองบนเล็กน้อย ที่งานของเขานี่มันช่างสำคัญจริง ๆ?

“ไหนมาดูซิ” พายัพจึงหยิบเอกสารในมือเพื่อนขึ้นมาดู

“เอาไปให้พวกเฮดว้ากเหรอ?” หลังจากที่ดูแล้วก็หันไปถามโซ่ทันที

“ประธานรุ่นปีสาม” โซ่ตอบกลับแล้วปิดเอกสารของคณะตัวเองที่เขาอ่านเสร็จแล้วลง

เพราะเมื่อวานที่เขาไปหาอธิการบดี ท่านก็จัดการให้ทักอย่างและทำเอกสารงบประมาณมาใหม่ รอบนี้จะต้องรับรู้ทั้งอาจารย์และนักศึกษาที่รับผิดชอบของคณะนั้น ๆ เพื่อความโปร่งใส แต่อาเขยกลับโยนงานส่งเอกสารนี้มาให้เขาด้วยซะอย่างนั้น

“อ๋อ”

“ถ้าอย่างนั้นกูเอาคณะบัญชี มนุษย์ นิเทศน์แล้วก็แพทย์” พายัพพยักหน้ารับรู้แล้วหันไปพูดกับไลอ้อน มือก็เลือกหาคณะที่ตนเองพูดอยู่

“อะไรวะ?” ไลอ้อนทำหน้างง ไม่เข้าใจ เพราะปกติพายัพไม่ใช่คนที่ง่ายขนาดนี้ นี่ถูกใช้งานนะ ทำเหมือนได้เงินเสียอย่างนั้น

“โหหห ไอ้สัส กูนึกไม่ถึงเลย ไม่ได้ เดี๋ยวกูไปเอง” แต่พอคิดดี ๆ นึกถึงคณะที่เพื่อนเลือกแล้วไลอ้อนก็เบิกตากว้าง ที่พายัพยอมง่าย ๆ ก็เพราะจะไปส่องสาว ๆ นี่เอง

ไลอ้อนแย่งเอกสารในมือเพื่อนไปทันที

จากนั้นก็เป็นสงครามของสองคนที่เป็นคู่หูกัน ทั้งสองคนยื้อแย่งเอกสารกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

“เฮ้อออ” ลีออนเงยหน้าขึ้นมองแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

“เอามาไอ้อ้อน!”

“ไม่!”

โซ่ส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืน เดินไปหาทั้งสองคนที่ยื้อแย่งกันอยู่

พรึบ

โซ่ยื่นมือไปดึงเอกสารในมือของไลอ้อนมาแล้วทำการเลือกหาคณะที่เขาจะไปทำธุระ

“อ้าว ไอ้โซ่!!” ทั้งพายัพและไลอ้อนก็หันมามองเขาอย่างงงัน

“ที่เหลือก็แบ่ง ๆ กันก็แล้วกัน” โซ่เลือกเอกสารมาฉบับหนึ่งแล้วยื่นคืนไปให้ไลอ้อนเหมือนเดิม จากนั้นเขาก็เดินหนีออกไปทันที

“เดี๋ยวสิ เห้ย!!” ทั้งพายัพและไลอ้อนต่างก็ร้องห้าม เพราะไม่รู้ว่าโซ่เลือกคณะไหนไป แต่โซ่ไม่ได้สนใจหันกลับมา

ทิ้งให้เพื่อนทั้งสองยื้อแย่งกันต่อ

คณะเภสัชศาสตร์

ร่างสูงของโซ่เดินเข้ามาในอาคาร ท่ามกลางสายตาของคนที่มองมา โดยเฉพาะสาว ๆ ที่จ้องเขาตาเป็นมัน และหันไปกรี๊ดใส่กันเบา ๆ

“พี่โซ่!” และในระหว่างที่กำลังจะเดินไปทิศทางของห้องกิจการนักศึกษา ก็มีคนมาดักหน้าเขาก่อน

“สวัสดีค่ะ” สาวสวยในชุดนักศึกษารัดรูป เอ่ยทักทายเขาแล้วบิดตัวด้วยความเขินอาย

โซ่พยักหน้ารับนิ่ง ๆ และไม่ได้พูดอะไร

“เอ่อ จำแพมได้ไหมคะ? ที่เคยถือป้ายกับพี่โซ่ปีที่แล้ว”

สาวสวยที่มีนามว่าแพม ดาวคณะของปีที่แล้ว ที่มีโอกาสได้ไปยืนถือป้ายมหา’ลัยกับโซ่ถามขึ้นทันที ในใจก็มีความคาดหวังว่าเขาจะจำเธอได้ เพราะครั้งนั้นที่เธอได้ถือป้ายกับโซ่นั้น เป็นเหตุฉุกเฉิน เนื่องจากตัวแทนจากวิศวะ ซึ่งก็คือเรย์ไม่สะดวกทำกิจกรรม

โซ่จึงจำต้องมาถือป้ายแทนเพื่อน และครั้งนั้นก็ทำให้เธอเป็นที่รู้จักและเป็นที่อิจฉาอย่างมาก ที่ได้ใกล้ชิดกับคนดังวิศวะ

“จำไม่ได้ ขอตัวนะ” แต่คำตอบของโซ่ก็ทำให้เธอนิ่งค้างไปทันที

โซ่ตอบกลับมาด้วยใบหน้านิ่ง ๆ จากนั้นก็เดินหนีออกไป ทิ้งให้สาวสวยได้แต่ยืนหน้าชาทำตัวไม่ถูกอยู่คนเดียว

“คิก คิก แกเห็นไหม หน้าแตกเลย”

“เออ มั่นกับใครไม่มั่น ไปมั่นทักพี่โซ่”

คนที่อยู่บริเวณนั้นที่เห็นเหตุการณ์ ก็พากันหัวเราะคิกคัก ทำเอาแพมไม่กล้าสู้หน้า เดินหนีไปทันทีด้วยความอับอาย

สามสาวที่กำลังจะเดินผ่านกลุ่มคนที่ยืนคุยกันอยู่ ได้ยินก็ขาชะงักทันที

กึก

“หยุดทำไมอ่ะ?” เจ้าแก้มที่เดินตามหลังเพื่อนสนิททั้งสองคนถามขึ้น เพราะจู่ ๆ ชิงชิงและหนูดีก็หยุดเดินไม่บอกไม่กล่าว นี่ถ้าเธอเดินเร็วกว่านี้คงชนเข้ากับทั้งคู่ไปแล้ว

“มีอะไรเหรอ?”

“แกได้ยินเหมือนฉันไหม? B1” ชิงชิงไม่ตอบคำถามของเจ้าแก้ม แต่หันไปสบตากับหนูดีแทน

“ได้ยิน” ซึ่งหนูดีก็พยักหน้ารับด้วยแววตาเปล่งประกาย

“กรี๊ดดดด” จากนั้นทั้งคู่ก็จับมือกันแล้วร้องกรี๊ดเบา ๆ

“ว่าแต่ใช่โซ่เดียวกันไหม?”

“โซ่ที่ฮอต ๆ ก็มีแค่คนเดียวนี่แหละ” หนูดีตอบแล้วผละออกไป

“ ไหน ๆ” เธอเดินไปพูดคุยกับกลุ่มคนที่ยังคุยกันอยู่ โดยมีชิงชิงเดินตามไปติด ๆ

“อะไรอ่ะ?” เจ้าแก้มได้แต่ยืนเกาหัวแกรก ๆ ด้วยความงงงัน

“กรี๊ดดด” ไม่นานเพื่อนสนิททั้งสองก็เดินกลับมาหาเธอพร้อมกับร้องกรี๊ดด้วยความดีใจ

“มีอะไร พวกแกเป็นอะไรนี่?” เจ้าแก้มถามขึ้นด้วยความสงสัย

“เป็นคนสวยที่จะเจอผู้ชายหล่อ” หนูดีตอบแล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่ง ๆ

“ไปนั่งก่อน” ชิงชิงทำการลากเพื่อนทั้งสองให้เดินตามไป

“อ้าว ไม่เรียนแล้วเหรอ?”

“ยังไม่ถึงเวลาเลย ไปนั่งก่อน”

หนูดีตอบแล้วบังคับให้เจ้าแก้มนั่งลงก่อน เพราะนี่ยังไม่ถึงเวลาเรียนเลย ทั้งที่ตอนแรกพวกเธอตั้งใจจะขึ้นไปบนห้องเรียนก่อน แต่พอได้ยินคนพูดว่าคนดังวิศวะมาที่คณะพวกเธอก็เปลี่ยนใจทันที

“จะนั่งตรงนี้เหรอ?”

“ใช่” ทั้งหนูดีและชิงชิงตอบพร้อมกันเสียงดัง

“ถ้าอย่างนั้นแก้มไปห้องกิจการนะ” เจ้าแก้มจึงพยักหน้ารับรู้และเอ่ยขอตัวไปทำธุระ

“ไปทำไม?” หนูดีถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ก็เพื่อนฝากให้ไปเอาเอกสารรับน้องน่ะ” เจ้าแก้มจึงพูดขึ้น เพราะเมื่อคืนมีเพื่อนทักมาบอกเธอให้ไปเอาเอกสารรับน้องกับพี่รหัสของเธอ

“อ๋อ ไปเถอะ ๆ”

เจ้าแก้มเดินแยกออกมาแล้วมุ่งตรงไปที่ห้องกิจการนักศึกษาทันที

ก๊อก ๆ ๆ

มือเล็กยกขึ้นเคาะประตูอย่างมีมารยาท

“เชิญครับ”

เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจากคนด้านใน เจ้าแก้มก็เปิดประตูเข้าไปทันที

แกรก

“อ้าว เจ้าแก้ม?”

จิน เฮดว้ากปีสามของคณะเภสัชศาสตร์หันมาเห็นรุ่นน้องคนสวยเปิดประตูเข้ามาก็ร้องทักด้วยความแปลกใจ

และคนที่กำลังนั่งคุยกับเขาก็หันไปมองเช่นกัน

“พี่จินสวัสดีค่ะ แก้มมาเอาเอกสารรับน้องค่ะ พี่ฟีนยังไม่มาเหรอคะ?”

เจ้าแก้มยกมือไหว้เพื่อนสนิทของพี่รหัสตนเองด้วยความนอบน้อม แล้วถามหาพี่รหัสของตนเองทันที เพราะด้านในห้องนี้มีแค่จิน และคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจิน ซึ่งตอนนี้เขาก็มองมาที่เธอเขม็ง

“อ๋อ ฟีนฝากไว้กับพี่น่ะ” จินพยักหน้ารับแล้วก้มลงหาเอกสารที่จะให้ปีสองไปจัดการ

“อ่ะนี่” หาไม่นานก็เจอ เขายื่นไปหาเจ้าแก้ม

เจ้าแก้มจึงค่อย ๆ เดินมารับเอกสารนั้นไป โดยมีสายตาของโซ่ที่มองมาจนเธอทำตัวไม่ถูก

“นี่ไอ้โซ่ เพื่อนพี่เอง” จินเห็นเพื่อนมองรุ่นน้องจนอีกฝ่ายทำตัวไม่ถูกจึงเอ่ยแนะนำ

“สวัสดีค่ะพี่โซ่” เจ้าแก้มเอ่ยขึ้นแล้วก้มหน้าหลบสายตา

“ครับ” ซึ่งโซ่ก็ตอบรับอย่างนุ่มนวล

ทำเอาจินที่นั่งอยู่ตรงนั้นชะงักทันที เพราะเพื่อนของเขาไม่เคยใช้โทนเสียงนี้ให้เขาได้ยินเลยสักครั้ง

“อันนี้ต้องเซ็นก่อนไหมคะ?” เจ้าแก้มพยายามตั้งสติแล้วก้มหน้างุดอ่านเอกสาร จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาถามรุ่นพี่ของตนทันที

“ไม่ต้อง เอาไปให้ประธานรุ่นเราเลย”

“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นแก้มขอตัวนะคะ”

“ครับ”

เจ้าแก้มเดินออกไป โดยมีสายตาคมกริบมองตามไปไม่ละสายตา

“เห้ย!!” จินมองพฤติกรรมของโซ่สักพัก จากนั้นก็ตะโกนขึ้น

โซ่จึงได้สติหันมามองหน้าเขานิ่ง

“มองอะไรขนาดนั้น?” จินเอ่ยขึ้นลอย ๆ

“ปีสองคณะมึงเหรอ?” แต่โซ่เข้าใจว่าเพื่อนคงสงสัย เพราะแม้ว่าจินจะไม่ใช่เพื่อนสนิท แต่ก็รู้จักนิสัยเขาดี อยู่ด้วยกันตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว

“ใคร? เจ้าแก้มอ่ะนะ” จินเงยหน้าขึ้นแล้วเลิกคิ้วใส่โซ่เล็กน้อย

ส่วนโซ่ก็ไม่ตอบแต่มองหน้าจินด้วยความจริงจัง

“เออ ปีสองคณะกู เป็นน้องรหัสฟีน ชื่อเจ้าแก้ม” จินจึงเข้าใจแล้วตอบขึ้น

“ถามทำไมวะ?”

“นี่มึงสนใจเหรอ?” และก็มีเสียงดังขึ้นจากโซฟาใกล้ ๆ ที่มีร่างสูงยาวของคนคนหนึ่งนอนอยู่ โดยมีผ้าห่มคลุมโปงไว้

แต่ตอนนี้คนคนนั้นลุกขึ้นนั่งแล้วจ้องมาที่โซ่เขม็ง

“ทีเรื่องอย่างนี้เสือกจริงนะมึง” จินปรายตามองเพื่อนของตนด้วยความเอือมระอา

“นี่ไอ้โซ่ มึงชอบน้องเจ้าแก้มของกูเหรอ?” เซ็นไม่สนใจจินที่แขวะเขา แต่เอ่ยถามโซ่ด้วยความสนใจ

“ของมึง?” โซ่ได้ยินเพื่อนต่างคณะอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ จากนั้นก็เอ่ยถามเสียงเข้ม มองด้วยสายตาจริงจัง

“เอ่อ มะ ไม่ใช่” ทำเอาเซ็นทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที จากนั้นก็หันไปหาจินเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะสายตาของโซ่ตอนนี้มันจริงจังมาก จนเขากลัวว่าเพื่อนจะลุกขึ้นมาต่อยเขา

“หึ สม”

“ฝากด้วยก็แล้วกัน” โซ่ละสายตาจากเซ็นแล้วหันมาพูดกับจินต่อ

“ฝากอะไร ฝากงาน หรือฝากน้องเจ้าแก้ม?” แต่เหมือนว่าเซ็นจะไม่สำนึก เขาถามขึ้นแล้วพยายามเอ่ยแซวโซ่ เพราะมั่นใจแล้วว่าโซ่คงจะสนใจรุ่นน้องของเขาจริง ๆ

“เสือก” โซ่ปรายตามองเซ็นแล้วเอ่ยขึ้นเสียงนิ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปทันที

“อ้าว ไอ้นี่!”

“ตื่นก็ดี เอานี่ไปจัดการ!” จินจึงได้โอกาสใช้งานเซ็นทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel