ตอนที่ 3
ตอนนี้ฉันกำลังเต้นอยู่กลางฟลอร์ที่ชั้นล่างของผับ เหล่าผีเสื้อราตรีก็โยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างเมามัน ยัยปรางค์กับยัยมีนก็เต้นอย่างไม่สนใจใครเลยค่ะ ปกติฉันก็ไม่ค่อยชอบหรอกนะคะที่มาเต้นอะไรแบบนี้ แต่ถูกยัยปรางค์มันบังคับมา เหนือสิ่งอื่นใดเลยฉันก็แค่อยากคลายเครียดบ้าง
อิอิ เต้นอยู่สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาเต้นกับฉัน หน้าตาก็ดีอยู่นะคะ เห็นว่าชื่อเต
แต่ฉันไม่สนใจหรอกคะเพราะหมอนี่ไม่ใช่สเปกฉัน ฉันก็แค่คุยกับเขาตามมารยาทเท่านั้นเอง และตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเหมือนนายเตอะไรเนี่ยมือไม้ของมันเริ่มจะอยู่ไม่สุขแล้วล่ะ มันลวนลามฉัน!
ฉันสงบสติอารมณ์สักพักก็ตวาดมันกลับไปแข่งกับเสียงเพลง จากตอนแรกที่สนุก ตอนนี้บอกเลยค่ะว่าไม่ ฉันโกรธมาก ๆ เลยล่ะ จนฉันทนไม่ไหวฉันต้องบอกเพื่อนฉันก่อน
“มึง ยัยปรางค์ ยัยมีน เต้นกันไปก่อนนะ ฉันหมดอารมณ์แล้วว่ะ เข้าห้องน้ำก่อน เดี๋ยวฉันมา” ฉันพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
“เฮ้ย เป็นไรวะ เมื่อกี้ยังสนุกอยู่เลย หรือว่าไอ้นั่นมันจะลวนลามแก”
ยัยปรางค์พูดด้วยสีหน้าตกใจ
“ก็เออนะสิ แม่งอารมณ์เสียฉิบ” ฉันพูดอย่างโกรธ ๆ
“แล้วนี่จะไปเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม” ยัยมีนว่า
“ไม่ต้อง ฉันไปเอง” ฉันพูดจบก็เดินผ่านผู้คนออกไปทันที
“เฮ้ย ไอ้มาร์ท มึงเป็นอะไรวะ นั่งหน้าบูดเป็นตูดนานแล้วนะเว้ย”
เสียงนี่เป็นเสียงของคิมเองครับผมไม่ตอบมัน แล้วผมก็ลุกขึ้นพร้อมกับเดินออกมา
“เฮ้ย ไอ้นี่จะไปไหนวะ ถามก็ไม่ตอบ ไอ้มาร์ท มาร์ท” เสียงของไอ้คิม ตะโกนไล่หลังมา
“มึงจะเรียกมันทำไม โน่นไป ไปเต้นกัน สาวเด็ด”
ผมได้ยินเสียงของไอ้ตินแว่ว ๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักตอนนี้ สิ่งเดียวที่ผมสนใจก็คือ ผู้หญิงที่ผมแอบเดินตามมานี่ไงล่ะ
มีอย่างที่ไหนตัวเองมีคู่หมั้นอยู่แล้วยังแต่งตัวแบบนี้มาเที่ยวอีก ถึงจะไม่ได้โป๊มากก็เถอะ แต่ผมก็หวงอยู่ดี
ยัง ยังไม่พอ ยังมีหน้ายืนคุยกับไอ้หน้าอ่อนจนมันจะลวนลามอยู่แล้ว ผมโมโหครับ ฮึ่ย แต่ในที่สุดโอกาสของผมก็มาถึง เมื่อผมเห็นเธอกำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ และตอนนี้เธอก็เข้าห้องน้ำไปแล้ว ผมก็ไล่พวกผู้หญิงที่เข้าห้องน้ำอยู่นั้นให้ออกมาแล้วผมก็จัดการล็อกประตูห้องน้ำทันที ผมยืนรอสักพัก ไม่นานนักก็
แอ๊ดดดด
ลลินก็เปิดประตูออกมาพร้อมมองหน้าผมด้วยสีหน้าตกใจ แต่ก็แค่แป๊บเดียวก่อนที่เธอจะปรับสีหน้าเย็นชาใส่ผม พร้อมเดินไปที่อ่างล้างหน้าโดยไม่สนใจผมเลย พอเธอล้างมือเสร็จกำลังจะเดินออกไป
แต่หมับ ผมจับเข้าที่ข้อแขนเธอ เธอมองหน้าผมด้วยสีหน้าไม่พอใจ พร้อมไล่สายตามาที่มือที่ผมจับอยู่แล้วไล่สายตากลับขึ้นมา แล้วบอกผมผ่านในตาว่าปล่อย ผมก็ปล่อยครับ
“ทำไม คู่หมั้นจับนิดจับหน่อยทำเป็นหวง ทีไอ้หน้าอ่อนนั่นยังยื่นให้มันลวนลามตั้งนานสองนาน” ผมพูดกวน ๆ ใส่เธอ
“มันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ลินเธอพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ใส่ผมครับ
“ทำไมจะไม่เกี่ยว เกี่ยวเต็ม ๆ เลยล่ะ เพราะฉันคือคู่หมั้นเธอ แล้วเดี๋ยวเราก็แต่งงานกัน พอแต่งงานกันเธอก็เป็นเมียฉัน นี่ไง เกี่ยวเต็ม ๆ ไม่เกี่ยวตรงไหน”
ผมพูดเย้ยใส่เธอ แต่ดูเธอตอนนี้สิมองผมอย่างโกรธ ๆ
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันยกเลิกแน่” ลินเธอพูดใส่ผมอย่างท้าทาย
“หึ หายไปตั้ง 5 ปี เธอเป็นของฉันลิน ไม่ว่าอย่างไงเธอก็เป็นของฉัน ไอ้ตัวผู้หน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ แล้วไอ้คำว่ายกเลิกอะไรนั่นลืมไปได้เลย เพราะมันไม่มีทางเกิดขึ้น” ผมโกรธแล้วครับ ผมจับไหล่ของเธอพร้อมตะคอก
“คุณไล่ฉันออกจากชีวิตคุณแล้ว คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีกฮะ! และฉันขอย้ำอีกครั้ง ว่าฉันยกเลิกแน่”
เธอพูดใส่ผมอย่างโกรธ ๆ แต่แปลก เธอเป็นคนแรกเลยที่กล้าพูดใส่ผมแบบนี้ นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงวิ่งหนีไปแล้วแต่เธอกลับไม่
แต่ช่างเถอะผมเริ่มรู้สึกโมโหคนตัวเล็กแล้วล่ะจะดื้ออะไรนักหนา เราจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ผมไล่สายตากวาดมองไปทั่วดวงหน้าของเธอ ไม่ไหวแล้วเว้ยแค่เห็นหน้าก็อยากแล้ว จุ๊บ
“อื้อ ไอ้บ้า หยุดนะ ไอ้....”
จ๊วบ
ผมแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากอันหอมหวานของเธอ พร้อมดูดดึงเรียวลิ้นเล็กที่พยายามหนีผมตลอดเวลา หวาน หวานมากเลยครับ ไม่เคยจูบใครแล้วรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย
อ๊ะ อื้ม
ผมครางในลำคอ แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยคนตัวเล็กไปไหน ตุบ ตุบ เธอทุบมือเล็ก ๆ ลงบนหน้าอกผม ผมจึงผละปากออกมาเพื่อให้คนตัวเล็กหายใจได้สะดวกยิ่งขึ้น พอเธอตั้งสติได้ เธอก็ยกมือขึ้นจะตบผม
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อย่านะ ถ้าเธอตบรับรองไม่หยุดแค่จูบแน่”
ผมบอกเธอพร้อมหน้าหื่น ๆ ของผม ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลยนะครับ เธอคนแรกเลยที่ผมอยากแกล้ง คนอื่นมักพูดกับผมว่า ผมเย็นชา แต่กับคนสนิทไม่นะครับ
“ไอ้” เธอได้แต่กำมือตัวเองแน่นแล้วมองหน้าผมอย่างโกรธ ๆ แต่หน้าเธอแดงแฮะ น่ารักอะ ผมหัวเราะพร้อมเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี
ตอนนี้ฉันรู้สึกโมโหอีตาพี่มาร์ทมาก ๆ เลย มันขโมยจูบแรกของฉันอะ ฮือ โกรธ ฉันทำอะไรไม่ได้เลย เพราะฉันอึ้งอยู่แล้วก็สับสนด้วย ตอนมันบีบไหล่ฉันเจ็บมากเลย แต่ฉันต้องทำหน้านิ่ง ๆ ออกไป เพราะฉันไม่อยากเจ็บอีก
แต่ดูเขาสิ เขาทำแบบนี้ มันยิ่งทำให้ฉันสับสนนะ ฉันจะไม่ยอมกลับไปเจ็บอีก ถ้าเจ็บก็ต้องเจ็บด้วยกัน เตรียมตัวไว้เลยพี่มาร์ท แสบแน่ ๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันก็เดินออกจากห้องน้ำไปที่โต๊ะที่พวกฉันเคยนั่งทันที แต่พอมาถึงฉันเห็นยัยปรางค์กับยัยมีนนั่งหน้าบูดอยู่ ฉันก็สงสัยนะสิ
“นี่ พวกแกเป็นไร นั่งหน้าบูดเชียว” ฉันถามพวกมันพร้อมทำหน้าสงสัย
“หืม ก็อีตาบ้าที่ไหนไม่รู้ เข้ามาหาฉันกับยัยมีนพร้อมถามฉันกับยัยมีนว่าเท่าไหร่ โมโหมากเลยแก หมดอารมณ์จะเต้นละ” ยัยปรางค์พูดออกมาด้วยสีหน้าโกรธ ๆ
“เออ งั้นก็ไป กลับกัน” ฉันชวนพวกมันกลับ
“ค่ะ นายใหญ่”
มันสองตัวรับคำพร้อมกัน ฉันก็ตวัดสายตาไปหาพวกมันทันที พวกมันได้แต่ยิ้มแหย ๆ และส่งสายตาขอโทษมาให้
ใช่แล้วค่ะ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเราเป็นใคร เราต้องปิดตัวตนด้านมืดของเราไว้ค่ะ จากนั้นฉันทั้งสองก็เดินออกมาจากโต๊ะ แต่ยังไม่ไปถึงไหนเลยฉันก็มาสะดุดตากับภาพที่ได้เห็น คือยัยนมโตที่ไหนไม่รู้มันกำลังนั่งอ่อยคู่หมั้นของฉันอยู่ อีตาพี่มาร์ทนี่ก็กระไรนั่งให้มันยั่วอยู่ได้ ตอนแรกฉันกะว่าจะเดินออกไปเฉย ๆ แต่อยู่ดี ๆ ฉันก็นึกอะไรสนุก ๆ ขึ้นมาได้ พร้อมกับหันไปยิ้มให้ยัยสองตัวแล้วเดินไปที่โต๊ะอีพี่บ้าทันที
“ว้าววววว”
เสียงผู้ชายนิสัยน่าจะกะล่อนส่งเสียงทักฉัน แต่ฉันไม่สนใจ สายตาฉันตอนนี้คือมองยัยนมโตกับพี่มาร์ท ก่อนที่ฉันจะไปกระชากยัยนมโตนั่นออกแล้วเข้าไปนั่งตักพร้อมกอดคอไว้เลย แล้วมองยัยนมโตอย่างเย้ย ๆ แต่อีตาพี่บ้านี่กลับกอดเอวฉันแน่นขนาดฉันแอบหยิกหลังมันมันยังไม่ปล่อยเลย ยัยสองตัวก็มองหน้าฉันยิ้ม ๆ ส่วนผู้ชายสองคนก็มองอย่างตะลึง
“อ๊ายยยยยยย อีบ้า แกเป็นใครฮะ! ผลักฉันทำไม คุณมาร์ทขา ช่วยลิลลี่ด้วยนะคะ อีบ้านี่มันผลักลิลลี่”
“หึ เป็นใครฉันว่าเธอคงไม่อยากรู้จักฉันหรอก ใช่ไหมคะพี่มาร์ทขา”
ฉันพูดกับยัยลิลลี่แล้วหันไปคุยกับอีพี่บ้าด้วยสายตายั่วยวน อีตาพี่บ้านี่ก็มองฉันอย่างตะลึงพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก
“อ๊ายยยย นี่แกออกมาจากมาร์ทของฉันเดี๋ยวนี้นะ” ยัยนั่นพูดก่อนจะเดินเข้ามากระชากฉันออกจากตักอีพี่บ้า พร้อมกับอ้าแขนจะตบฉัน
หมับ
ยัยมีนเข้ามาจับแขนยัยลิลลี่ไว้ ฉันก็ยิ้มก่อนจะมองด้วยสายตาท้าทาย
“ใครบอกเธอ ผู้ชายคนนี้เขาเป็นของฉันต่างหากล่ะ” ฉันพูดยิ้ม ๆ
“อ๊ายไม่จริง หึ ถึงเขาจะเป็นของแกจริงฉันก็จะเอา เธอจะทำไรได้”
ยัยนั่นท้าท้ายฉันพร้อมยิ้มยั่ว ๆ
“อยากได้ คันมาก ว้อนมากเหรอ ถ้าอยากได้ฉันก็จะจัดให้ รับรองว่าเธอจะหายคันไปนานเลยละ หึ”
ฉันพูดแต่สายตามองพวกนั้นนิ่ง ฉันหันไปมองยัยปรางค์เล็กน้อย ไม่นานก็มีผู้ชายเข้ามาสองคนพร้อมลากยัยป้านั่นไปทันที ฉันไม่สนใจเสียงร้องของมันหรอก และตอนนี้เพลงในผับหยุดลงแล้ว
“มองไรกัน สนุกกันต่อสิคะ วันนี้คุณมาร์ท คุณาวุฒิ เขาเลี้ยงค่ะ”
พอฉันพูดจบทุกคนเฮลั่นแล้วฉันก็หันไปมองเขายิ้ม ๆ ก่อนจะเดินออกมาจากผับอย่างสะใจ