ตอนที่ 2
ณ คอนโดสุดหรูที่อเมริกา
เฮ้อ ผ่านมา 5 ปี แล้วสินะ หึ ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับไปแล้วเหรอนี่ เฮ้อ เขาจะเป็นอย่างไรบ้างน้า ป่านนี้คงมั่วหญิงเป็นว่าเล่นเลยสิ
หึ พี่ไล่ฉันออกจากชีวิต ฉันก็ออกมาแล้ว แต่ทำไมนะ ทำไมกันฉันยังไม่ลืมพี่สักที่พี่มาร์ท
เฮ้อ ว้า บ่นมาตั้งนานแล้ว ยังไม่แนะนำตัวเลย
สวัสดีค่ะ ฉัน ลลิน ค่ะ ตอนนี้ฉันกำลังเก็บของเพื่อกลับประเทศไทยค่ะ ฉันมาเรียนต่อที่นี่และตอนนี้ก็จบแล้ว มันก็ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับไปเผชิญความจริงที่ฉันไม่อยากเจอแล้วสินะคะ
ทุกคนคงไม่เชื่อสิ่งที่ฉันจะพูดใช่ไหมคะ จริง ๆ แล้ว ฉันเป็นหัวหน้าขององค์กร fuck น่ะค่ะ 55 แค่ชื่อองค์กรทุกคนก็น่าจะรู้นะคะ ว่าไมใช่องค์กรที่ดีแน่ ๆ อิอิ
เราฆ่าแค่คนที่จะทำร้ายหรือขัดผลประโยชน์กับเราเท่านั้นแหละค่ะ
องค์กรนี้ก่อตั้งขึ้นโดยฉันและเพื่อนสองคนของฉัน ยัยปรางค์กับยัยมีน นั่นแหละค่ะ สองคนนี้ร้ายไม่เบาหรอก แต่ตอนนี้มันไม่ได้อยู่กับฉันหรอกค่ะ มันเพิ่งกลับประเทศไทยเมื่อเดือนที่แล้ว จริง ๆ ฉันต้องกลับพร้อมมันแต่พอดีมีคนอยากลองของ ฉันเลยขออยู่จัดการเองค่ะ
องค์กรเราเป็นองค์กรใหญ่นะคะ มีแต่คนเก่ง ๆ ทั้งนั้น ส่วนนิสัยของฉันเหรอคะ หึ เชื่อเถอะว่าทุกคนไม่อยากรู้หรอกค่ะ เพราะฉายาของฉัน คือนางมารในคราบนางฟ้า เฮ้ย แนะนำตัวมาเยอะแล้ว ขอตัวเก็บของก่อนนะคะ เดี๋ยวขึ้นเครื่องไม่ทัน
ตืด ตืด ตืด
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นใครมันโทรมาตอนนี้เนี่ย คนยิ่งรีบ ๆ นึกว่าใครเป็นยัยปรางค์นี่เอง
“โหล ว่าไงแก มีไร คนยิ่งรีบ ๆ อยู่” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก
“แหม นี่แกยัยลินเพิ่งจะมารีบ เพิ่งตื่นเหรอยะ ฮะ”
ปลายสายพูดมาด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก
“แล้วนี่มีไร รีบ ๆ พูดมา ฉันกำลังเก็บของ” ฉันพูดไปเก็บของไป
“ก็ยัยมีนน่ะสิ มันบอกให้ฉันโทรหาแกว่าจะมาถึงกี่โมง ให้ฉันออกไปรับไหม แล้วเรื่องที่แกจัดการเองเป็นยังไงบ้าง แล้วแกปลอดภัยไหม” ปรางค์ได้ทีก็บ่นเพื่อนสาวนามว่ามีนให้ฉันฟังทันที
“เฮ้อ พวกแกนี่นะ เรื่องที่ฉันจัดการ มือชั้นนี้ไม่มีพลาด หัวหน้าองค์กรนะโว้ย อิอิ อ้อ แล้วเรื่องที่ถามว่าให้มารับไหมนั้น ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับบ้านเอง จะไปเซอร์ไพรส์คุณพ่อกับคุณแม่สักหน่อย” ฉันสาธยายให้พวกมันฟัง
“อ๋อ เค ๆ เดินทางดี ๆ” ปรางค์พูด
“เออ แค่นี้นะ”
ฉันรับคำแล้วตัดสายทิ้งทันทีพร้อมทั้งออกจากคอนโดเพื่อไปสนามบินทันที แต่ก่อนที่ฉันจะขึ้นเครื่องฉันก็หันไปสั่งงานกับลูกน้องไม่สิเพื่อนฉันต่างหาก ปีเตอร์นั่นแหละ ไม่มีอะไรมากหรอก แค่จะบอกว่าคอยดูแลทางนี้ให้เท่านั้นเอง เพราะฉันรู้สึกเหมือนมีหนอนบ่อนไส้อยู่ในองค์กร หลังจากที่มันรับปากก็ได้เวลาเครื่องออก ฉันก็เดินไปขึ้นเครื่องทันที
ณ k ผับ
เหล่าผีเสื้อราตรีกำลังวาดลวดลายกันอย่างสนุกสนาน แต่ผมนี่สิกลับไม่รู้สึกว่ามันสนุกเลยสักนิด ไม่รู้ว่าผมเป็นไร ตั้งแต่ผมเห็นข่าวนั้นผมก็รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ขนาดมีผู้หญิงทอดสะพานมาหาผมยังไม่สนใจเลย ทั้งยังให้มือขวาคนสนิทของผมกันทุกคนออกจากบริเวณที่ผมอยู่อีก
อ้อ ผมลืมบอก ผับนี่อ่ะเป็นผับของไอ้คิมมัน ผมมีเพื่อนสองคนคือไอ้คิมกับไอ้ติน แต่มันสองตัวกำลังอ่อยสาวอยู่ พวกผมก็นิสัยไม่ต่างกันหรอก
เฮ้อ พูดมาตั้งนานและยังไม่แนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักเลย ครับ สวัสดีครับ ผมชื่อ คุณาวุฒิหรือมาร์ท แต่ชื่อมาร์ทนี่ผมให้แต่คนที่สนิทจริง ๆ เรียกนะครับ ลองไม่สนิทแล้วเรียกสิ หึ ได้ตายแน่
ผมเป็นมาเฟียครับ ส่วนนิสัยผมเชื่อว่าพวกคุณคงไม่อยากรู้จักผมหรอกจริงไหมครับก็ผมเป็นมาเฟียหนิ แถมยังได้ฉายาว่าปีศาจในคราบเทพบุตรอีกด้วย
หลังจากที่ผมให้มือขวาคนสนิทไล่ผู้หญิงที่ทอดสะพานมาให้ผมแล้ว ผมก็นั่งนึกถึงแต่ลลิน ผู้หญิงที่ผมเคยไล่เธอออกจากชีวิตในวันนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะครับ ผมก็แค่อารมณ์ไม่ดีแล้วเผลอพูดแบบนั้นออกไป ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่พูดแบบนั้นเลยจริง ๆ แต่ไม่เป็นไรเพราะยังไงเธอก็ต้องเป็นของผมอยู่ดี
หึหึ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเห็นใครสักคนกำลังเดินเข้ามาในผับ ผมจะไม่อะไรเลยถ้าคน ๆ นั้นไม่ใช่ลิน คู่หมั้นผม แถมยังเป็นจุดสนใจอีกต่างหาก ส่วนข้าง ๆ เธอน่าจะเป็นเพื่อนของเธอมั้งครับ คนหนึ่งดูเปรี้ยว คนหนึ่งดูหวาน ส่วนลินเธอดูทั้งเปรี้ยวทั้งหวานทั้งโหด ไม่รู้สิครับ แต่ตอนนี้ผมอยากรู้ว่าเธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมผมไม่รู้ วุ้ย หงุดหงิด
“เฮ้ยไอ้มาร์ท แกเป็นไรวะ หน้าบูดเป็นตูดเลย” เสียงไอ้คิมเองครับ
“พ่องมึง” ผมพูดพร้อมทั้งตวัดสายตาโหด ๆ ไปให้
“หึ มึงนี่ชอบกวนมัน สมน้ำหน้า”
เสียงนี้เสียงของไอ้ตินเองแหละครับมันใจเย็นที่สุดแล้วผมไม่พูดอะไรได้แต่มองว่าเธอจะทำอะไร และผมคิดว่าผมต้องลงโทษเธอที่กลับมาไม่บอกผม หึ
สวัสดีประเทศไทย!!! สวัสดีค่ะทุกคนตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าบ้านของฉันแล้วล่ะค่ะหลังจากที่นั่งอยู่บนเครื่องหลายชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงสักที เฮ้อ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเลย ไม่มีเปลี่ยนแปลง
ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง
ฉันรอไม่นานนักก็มีเด็กในบ้านออกมาเปิดประตู แต่ฉันมองไม่ค่อยชัด แต่ถ้าให้เดา ฉันคิดว่าร่างอวบ ๆ ที่เดินมาเปิดประตูให้ฉันนี้คงเป็นป้าอิ่มหรือนมอิ่ม แม่บ้านประจำตระกูลพ่วงด้วยหน้าที่แม่นมที่เลี้ยงฉันมาแต่เด็กแน่ ๆ เลย จะจำฉันได้ไหมนะ
“เอ่อ ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ OvO” นมอิ่มพูดขึ้นพร้อม เงยหน้าขึ้นมามองฉัน ด้วยสีหน้าและแววตาตกใจ
“อะไรกันคะนม ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วย จำลินไม่ได้เหรอคะ แล้วก็ไม่ต้องถามนะคะว่าทำไมลินไม่โทรบอกก่อน ลินแค่อยากมาเซอร์ไพรส์น่ะคะ แล้วคุณพ่อคุณแม่อยู่ในบ้านไหมคะ อ้อ ลินมีของมาฝากทุกคนด้วยนะคะ”
ฉันพูดรัว ๆ แล้วเดินเข้าไปกอดนมทันที
“อยู่ค่ะ ๆ ไปเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะคุณหนู เดี๋ยวนมให้เด็กมายกของไปเก็บให้” นมพูดจบพลางพาฉันเข้าบ้าน
“เซอร์ไพรส์”
เสียงของฉันตะโกนเองแหละค่ะทุกคน
ฮ่า ๆ ๆ ๆ ดูหน้าคุณพ่อกับคุณแม่สิคะ ขำอะ ทั้งสองท่านดูตกใจ ตอนนี้ผ่านไปประมาณสองนาทีแล้ว ยังไม่มีใครยอมขยับเลยคะ สงสัยจะอึ้งอยู่มั้งคะ
“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ เซอร์ไพรส์ไหมคะ อิอิ”
พูดจบฉันก็เข้าไปกอดคุณพ่อคุณแม่ทันที
“ลิน ลูกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกพ่อกับแม่” เสียงคุณพ่อของฉันเองละคะ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็ลินอยากมาเซอร์ไพรส์คุณพ่อกับคุณแม่นี่ค่ะ” ฉันพูดก่อนจะกอดท่านทั้งสองอีกครั้ง จากนั้นเราก็นั่งคุยกันหลาย ๆ เรื่อง
“ลิน แม่ดีใจมากเลยที่หนูกลับมาสักที แม่คิดถึงหนูมากเลยนะลูก ไป ๆ ไปอาบน้ำพักผ่อนนะลูกมาเหนื่อย ๆ”
หลังจากที่เราทั้งสามแสดงความรักความคิดถึงกันเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ก็บอกให้ฉันขึ้นมาพักผ่อนที่ห้องทันที โทรหายัยสองแสบนั่นดีกว่า
ตืด ตืด ตืด รอไม่นานก็มีคนกดรับ
“ฮัลโหล ว่าไงแก ถึงไหนแล้ว” เสียงยัยมีนค่ะ
“ฉันอยู่บ้านแล้ว คืนนี้ไปเที่ยวกัน ฉลองการกลับมาของฉัน” ฉันบอกมันไป
“แล้วไปที่ไหนละ K ผับไหม เห็นเขาพูดกันว่าดีมากเลยนะแก”
อันนี้เสียงยัยปรางค์ค่ะเรื่องเที่ยวต้องยกให้มัน
“ได้ แล้วแต่พวกแก สองทุ่มครึ่งเจอกันนะ”
หลังจากพูดสายจบ ฉันก็ล้มตัวลงนอนที่เตียงพลางคิดถึงเขาคนนั้น คนที่ไล่ฉันออกจากชีวิต ไม่รู้สิคะ ฉันมีลางสังหรณ์แปลก ๆ เหมือนจะเจอเขายังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ ช่างเถอะ พักผ่อนก่อนดีกว่า
ณ เวลา สองทุ่มครึ่งที่ k ผับ
ตอนนี้เหล่าผีเสื้อราตรีทั้งหลายกำลังเต้นอยู่ด้วยความเมามัน แต่ทุกการกระทำก็หยุดทันทีหลังจากที่ฉัน ยัยมีน ยัยปรางค์เดินเข้ามาที่ทางเข้าผับ จะมองอะไรกันก็ไม่รู้ ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไงนะ หึ
วันนี้ฉันเลือกใส่เสื้อเอวลอยสีเลือดหมูพร้อมกางเกงขาสั้นสีเดียวกันและใส่แจ็กเกตหนังสีดำเท่ใช่ไหมล่ะ ชุดของฉันนะซอร์ฟ ส่วนยัยมีนมันใส่เดรสสั้นหวาน มันใส่มาไม่เหมาะเลยอะ พอถามมันก็บอกว่าอยากใส่ชุดนี้ ส่วนคนที่จัดหนักจัดเต็มเหมาะกับการมาเที่ยวครั้งนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นยัยปรางค์ สาวแซ่บประจำกลุ่ม ก็มันเลือกใส่ชุดเดรสสีแดงโชว์น่าอกน่าใจของมันนะสิคะ มันก็คงไม่แปลกที่จะไม่มีใครมองพวกเรา
แต่สายตาคู่อื่นจะไม่เท่ากับสายตาคู่หนึ่งที่กำลังมองฉันอยู่ตอนนี้หรอกค่ะ สายตาคู่นี้ที่มองมามันทำให้ฉันสตันทันทีแต่ก็แค่แป๊บเดียว ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ทำไมใจฉันยังเต้นแรงอยู่นะ เฮ้อ
อยากรู้ใช่ไหมคะว่าใครกันที่มองมา ก็คนที่ไล่ฉันออกจากชีวิตนั่นแหละค่ะ พี่มาร์ทไง มองมาอย่างกับฉันทำอะไรผิด มองอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนที่สายตาเขาจะเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ ฉันยังคิดอะไรได้ไม่มากก็ถูกยัยปรางค์เรียกซะแล้ว
“นี่ ยัยลินแกมองใครวะ ไปหาโต๊ะนั่งกันเถอะ” ยัยปรางค์
“เออ ไปสิ ยืนเมื่อยละ”
ฉันเองแหละ หลังจากนั้นเราก็มานั่งโต๊ะโซนวีไอพีที่อยู่ชั้นสาม มันดูเป็นส่วนตัวดี สมองของฉันมันเอาแต่คิดว่าทำไมเขาต้องมองแบบนั้น และสุดท้ายทำไมเราต้องเจอกันที่นี่
“ยัยลิน ฉันเห็นนะ เมื่อกี้ที่แกยืนเฉย ๆ อะ แกเห็นพี่มาร์ทใช่ไหม” ยัยมีนพูดพลางทำหน้าจับผิด
“เออ ฉันเห็น” ฉันพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“แล้วแกจะทำไงวะ” ยัยปรางค์พูดขึ้นพลางทำหน้าสงสัย
“หึ ไม่รู้สิ ก็แค่เจอ” ฉับตอบมันไปแค่นั้นพร้อมสีหน้าที่เรียบเฉยมองไปที่ยัยปรางค์
“เออ ๆ จะยังไงก็ช่าง ฉันว่าสั่งไรมากินกันเถอะ”
เสียงยัยมีนพูดขึ้นพร้อมเรียกเด็กเสิร์ฟมาสั่งอาหาร เราทั้งสามต่างพากันนั่งทานไปสักพักพร้อมพูดคุยเรื่องไร้สาระกันไป แต่ฉันไม่ค่อยสนใจหรอกเพราะสมองของฉันน่ะมันเอาแต่คิดว่า ในเมื่อเราเจอกันแล้วถ้าอย่างนั้นก็เผชิญหน้ากันเลยแล้วกัน หึ