3.มึงจะสิงกูหรือไง
มึงจะสิงกูหรือไง
เหนือเมฆ : เล่าเรื่อง
เจ็บมาก แม่งเจ็บเชี่ยๆ ผมไม่รู้ว่าภานุไปเอาแรงมาจากไหน มันถึงได้ฟาดหมัดใส่ปากผมสองหมัดเต็มๆ แบบสายฟ้าฟาด โดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ดูเหมือนไอ้เชี่ยนี่ไม่ใช่คนธรรมดา แหงละ ผมโกรธสุดตีน และรู้สึกเสียหน้าฉิบหาย กระนั้นยังพยายามระงับอารมณ์ไม่สวนกลับ แต่ผมไม่ยอมเจ็บตัวฝ่ายเดียวแน่ ยังไงคงต้องหาวิธีเอาคืนเขาในแบบฉบับของผม
หลังจากต่อยปากผมแล้ว ภานุก็ทำท่าจะหนี หน็อยแน่ ไอ้ผู้ร้ายนมเด้ง มึงคิดจะชิ่งผัวสุดหล่อเหรอ!
“ไอ้เป่าเปา มึงจะไปไหน หา!” ผมตวาดใส่ภานุ และเขายิ้มแหย คงเริ่มสำนึกถึงความผิดที่ตนเองก่อไว้ได้ในตอนนั้น
“เปล๊า!” ว่าเสียงสูง ท่าทางเลิ่กลั่กจนน่าขำ
ผมหรี่ตามองเขา มองอย่างสำรวจเนื้อตัวขาวอมชมพู
สัสเอ๊ย ให้ตายเถอะ เพราะหุ่นและหน้าตาจิ้มลิ้ม อีกทั้งดวงตากลมโตแป๋วแหววนี่ไงที่ทำให้ผมใจอ่อนจนได้ ผมยอมรับอย่างหน้าไม่อายว่าผมหลงภานุตั้งแต่แรกพบ ทั้งที่ผมควรเจียมตัวกว่านี้ ด้วยเส้นทางชีวิตของผมกับมันต่างกัน ภานุบอกทุกคนว่า มีแด๊ดดี้เป็นชาวไต้หวัน อีกฝ่ายย้ายมาทำงานเมืองนี้จากผลกระทบเรื่องการประท้วง และนั่นทำให้เขาต้องหาที่เรียนใหม่ ดังนั้นเทอมสุดท้ายก่อนจบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย เขาเลยหอบชีวิตแสนน่ารักเยี่ยงคุณหนูผู้ร่ำรวยมาใช้ช่วงเวลาดีๆ กับผม หลังจากเห็นหน้าเขาแวบแรก ผมเกิดไอเดียในสมองเร็วจี๋ และบอกตัวเองว่า ถ้าไม่ได้กินภานุ ผมจะไม่ปล่อยภานุให้คลาดสายตา
“ปากมึงบอกว่าเปล่า แต่ตูดกลมๆ ของมึงกำลังจะสะบัดหนีจากกู”
ภานุขมวดหัวคิ้วสวยๆ เข้าหากัน ก่อนตอบผมอย่างคนแสนแง่งอน “กูไม่ได้หนี แค่จะกลับบ้าน เย็นแล้ว กูอยากงีบ”
ผมยิ้มหล่อๆ ให้เขา ก่อนอ้อมแอ้มเอ่ยว่า “เดี๋ยวซี มึงช่วยอะไรกูสักอย่างได้ไหม”
“ช่วยอะไร!?” เขาถามผม ดวงตากลมโตสีดำขลับเวลานี้เต็มไปด้วยความสงสัย
ผมขยับไปยืนชิดเขาอย่างถือวิสาสะ ถ้าบอกว่าหื่นคงใช่ ก็ใครใช้ให้เขาตัวหอม หอมสะอาด และน่าขย้ำ ผมโคตรอยากจับเขาหันหน้าเข้ากำแพง แล้วเข้าไปปล้ำให้แข้งขาอ่อน หรือไม่คงฉุดขึ้นไปบนดาดฟ้าโรงเรียน จากนั้นก็แก้ผ้านอนเล่นชักกล้วยกัน ฮ่าๆๆ อย่าเพิ่งด่าผมเลย ทำไงได้ ในหัวมันคิดออกแต่เรื่องระยำสุดหื่นนี่นา
“ไอ้สัส มึงมายืนใกล้ขนาดนี้ จะสิงกูหรือยังไงไอ้คอปเตอร์”
นี่คงเป็นครั้งแรกที่มันเรียกผมด้วยชื่อเล่น ปกติเขาจะเรียกผมเสียเต็มยศว่า เหนือเมฆ ใช่แล้ว ผู้ชายที่แมนเต็มร้อย ทั้งหล่อจัด เรียนพอใช้ได้อย่างผม ชื่อ นายเหนือเมฆ ศิริถากูล ชื่อคูลๆ แบบนี้ย่อมเหมาะสมกับคนอย่างผม ตัวสูงชะลูด ขายาว กล้ามท้องสวย หน้าคมเป๊ะ พ่วงด้วยเป้าแปดนิ้วบวกและอวบยาวตลอดลำ อ้อ ตอนนี้หลังจากผมบริการกล้วยตามคลิปลับๆ มันก็เริ่มมีเส้นเลือดปูดนิดๆ พอให้สยิวใจด้วย!
“ถ้ากูสิงมึงได้ กูทำไปแล้ว” ผมว่าจบจึงเลียริมฝีปากล่าง เลียแบบยั่วๆ นั่นแหละ แถมเลียยังไม่พอ ผมยังลิ้นห่อเป็นรูปทองหยิบ! ลิ้นแบบนี้ไงล่ะที่ผมจะใช้ปรนเปรอทางสวาทของภานุให้ชุ่มฉ่ำ แค่คิดผมก็เจียนจะสำเสร็จความใคร่ แตกใส่หน้าภานุ
“อะ ไอ้ มะ มึงเป็นเชี่ยอะไรวะ กูขนลุก!”
เขาด่าผม ดวงตากลมโตคู่นั้นจ้องผมเขม็ง
“โทษฐานที่มึงเอาหมัดน้อยๆ มาฟาดปากกู มึงต้องแสดงความรับผิดชอบ”
“รับผิดชอบห่าอะไร มึงยั่วโมโหกูก่อนนี่นา”
“เอาน่า รับรองกูมีเรื่องสนุกให้มึงทำเยอะแยะ ถ้ามึงชอบเล่นจับกล้วยหอม กูมีอะไรเสียวๆ สนองความร่านของมึงให้หายด้วย”
ภานุเงื้อง่ากำปั้น ท่าทางเหมือนอยากต่อยผมลงไปนอนกองบนพื้นอีกสักครั้ง
“มึงต่อยอีกสิ ถ้าหนนี้กูไม่ล้ม ตัวกูนี่แหละจะจูบมึงให้ล้มทั้งยืนแทน”
ผมขู่กลับ ภานุเลยสบถคำหยาบคายออกมาชุดใหญ่
**************
เมียเถื่อนๆ ของผัว
เหนือเมฆ : ภานุ
การที่ภานุส่งหมัดใส่เหนือเมฆนั้นมันคือสัญชาต-ญาณที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจพูดได้ว่าเขาเผลอตัวก็เป็นได้ เพราะอีกฝ่ายแสดงอาการหื่นจนน่าขนลุก พอเหนือเมฆยั่วยวนเขาอีก ภานุจึงได้แต่ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
คนตาโตมองเหนือเมฆแล้วโกรธไม่ลง อีกฝ่ายมีผิวสีน้ำตาลอ่อน เวลาแสดงความเกรี้ยวกราดมันจะย้อมสีแดงทำให้เข้มขึ้นอีกนิด ซึ่งน่ามองเป็นบ้า กระนั้นเหนือเมฆก็เป็นคนทึ่มอยู่สักหน่อย อีกทั้งหัวร้อนง่าย มักจะใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล เลยทำให้เขาทำแสดงความฉลาดน้อยออกมาให้ผู้อื่นเห็นอยู่เสมอ
ตั้งแต่ได้พบหน้ากัน เหนือเมฆตามตอแยภานุไม่ห่าง ตัวเขาคิดว่าไม่ได้เสียหายอะไร ผิดแต่บางครั้งเขาขัดเขินนิดหน่อย แต่ทำให้ชีวิตมันมีสีสันดี และการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนแห่งนี้ ภานุต้องหัวหมุนอยู่ตลอด ทุกอย่างไม่ได้ลงตัวอย่างที่คิด แถมมีเรื่องให้ระวังเยอะแยะไปหมด
นอกจากนั้นสิ่งที่มุ่งหวังอยากให้มันสำเร็จ ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเขาเริ่มใจอ่อนต่อ เหนือเมฆ
แต่เรื่องดีๆ ยังมีอยู่ไม่น้อย ภานุยิ้มและหัวเราะได้บ่อยขึ้น เขาไม่อยากเชื่อว่า การตัดสินใจทำเรื่องบ้าๆ โดยการมาเป็นนักเรียนมัธยมปลายอีกครั้งได้คืนความสุขให้เขา ถึงแม้จะถูกเหนือเมฆตามตื๊อ ทว่ามันเป็นความรู้สึกที่เขาโหยหามานาน เพราะเมื่อก่อนเรื่องแบบนี้มันยากมากที่จะเกิดกับเขา
ภานุขยับเสื้อและกางเกงของตนเอง มันแน่นไปสักนิด แต่ก็นั่นแหละ เขาจงใจอยากให้เป็นเช่นนั้น การมาอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้เป้าหมายเขาไม่ใช่การศึกษา เขาอยากได้ข้อมูลซึ่งถูกปกปิดเอาไว้ แต่พอจะเข้าใกล้มันกลับกลายเป็นว่าก้นใหญ่ๆ ของเขา ก็มีเหนือเมฆตามติดไม่ห่าง
“มึงชอบผู้ชายเหรอ...” ภานุถามอีกฝ่ายตรงๆ ทั้งที่เขารู้อยู่เต็มอก
“อืม แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่มึง กล้วยของกูคงไม่แข็งโป๊ก และมีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มแบบนี้”
ภานุมองเป้ากางเกงเหนือเมฆ มองแล้วหัวเราะอย่างร้ายๆ คนหน้าด้านและปากกับใจตรงกันแบบนี้ เขาเพิ่งเคยพบเคยเจอ
“ตอบไม่ตรงคำถาม อีกอย่างคนหื่นแบบมึง เห็นอะไรก็เยิ้มไปหมดนั่นแหละ”
เหนือเมฆทำสีหน้าตึงจัด ดูเหมือนเขาโมโหสุดขีด
“แล้วมึงไม่รู้สึกอะไรกับกูสักนิดเลยเหรอ อยู่ด้วยกันทุกวัน กินข้าวด้วยกัน เนี่ยเหลือแต่เรื่องเย็บมึง ที่กูยังทำไม่สำเร็จสักที”
ภานุหัวเราะ เขามองคนที่ตัวสูงกว่า เหนือเมฆเนี่ยนะจะจับเขากด เรื่องนี้ช่างน่าขำ!
“ไอ้สัส ใครจะให้มึงเย็บ และกูรู้สึกว่ามึงโคตรโรคจิตไปสักหน่อย ที่สำคัญมึงเนี่ยเป็นตัวปัญหาใหญ่เลย”
เหนือเมฆหน้าบึ้งกว่าเดิม ก่อนเอ่ยเสียงแข็งกระด้างออกมา “แล้วตัวปัญหาอย่างกู มันไม่มีอะไรดีเลยเหรอวะ มึงถึงได้ทำท่ารังเกียจแบบนี้”
เมื่อรู้ตัวว่าแสดงออกไม่น่ารักเหมือนหน้าตาตัวเอง ภานุจึงปรับท่าทีใหม่ เขายิ้มสดใส ทำตาโตอย่างที่เหนือเมฆชอบมอง
“คิดมาก มีมึงอยู่ใกล้ๆ กูก็ได้ใช้ประโยชน์อยู่บ้าง อย่างน้อยมีเพื่อนคุย แถมมึงปลื้มกูสุดๆ เพื่อนที่ดีแบบนี้ ยังไงกูต้องเก็บเอาไว้ใกล้ตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าอยากมีมึงไว้เย็บกัน”
“เอาเถอะ ถึงมึงเห็นกูเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่ง แต่กูมันใจง่าย พอหลงรักใครแล้ว ถ้าไม่เจ็บเจียนตายกูคงไม่เข็ด”
ภานุสงสัยต่อคำพูดของเหนือเมฆ แต่เขาปล่อยผ่าน อีกฝ่ายมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ นอกจากนั้นยังช่วยทำให้เขาได้เข้าใกล้ใครบางคนที่เป็นต้นเหตุสำคัญ ซึ่งทำให้เขาตัดสินใจสวมชุดนักเรียนแนบเนื้อมาเดินอ่อยในสถานศึกษาแห่งนี้