บทย่อ
ยักษ์ของผมมันอยู่ในกางเกง มันชอบเหยียดแข้งเหยียดขา วันไหนเกเรขึ้นมา เดี๋ยวคงได้ฟาดงวงฟาดงา พร้อมพ่นน้ำยาใส่...คุณ!! นิยายเรื่องนี้เน้นความแซ่บและความฟินเป็นที่ตั้ง ดังนั้นจึงโปรดตั้งสติก่อนอ่าน เพราะความหื่นจัดถูกอัดอยู่ในเล่ม ทุกคำพูด การแสดงออกของตัวละคร ล้วนสมยอมกันทั้งสิ้น ชวนมาร่วมลุ้นระทึกกันว่า ใครจะอยู่บน ใครจะอยู่ล่าง หรือควบขี่อยู่ตรงกลาง...ระหว่างคู่พี่ยักษ์ใหญ่ใจดี!! ป.ล. ก่อนจบ ยักษ์ในกางเกง อุดมไปด้วยจังหวะและลีลา กวักมือเรียกเพื่อนๆ เข้ามา คนมีสามขา...จะฟาดฟันกัน ขอบคุณครับ...มิตรรักแฟนเพลง ฝากติดตามผลงานของสำนักพิมพ์บ้านหมี **เหมาะสำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน ซึ่งตัวละครในเรื่องมีฉาก 3p
1.บทนำ
บทนำ
ข่าวของ โดนัท ชิตพล นักศึกษาชายของมหาวิทยาลัยปิดที่พลัดตกสะพานสูงข้ามแม่น้ำกลางเมืองหลวงดังกระฉ่อนในโลกออนไลน์ พอมีกระแสสืบหาต้นตอที่ทำให้เขาคิดสั้น ชื่อของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งก็ปรากฏขึ้น สาเหตุหลักนั้นเป็นเพราะเขาเคยเรียนที่นี่
สมัยก่อนชิตพลเป็นคนเด่นชอบทำกิจกรรม กระนั้นยังมีมุมที่น่าสงสัยมากๆ ด้วยสองปีก่อน เขามีเรื่องเสียหายกับอาจารย์หนุ่มพร้อมภาพลับสุดสยิว แต่เรื่องทั้งหมดกลับจบลงอย่างรวดเร็ว ด้วยญาติผู้ตายไม่อยากให้ชื่อเสียงฉาวโฉ่ ข่าวนี้จึงหายไป และปิดฉากเรื่องของหนุ่มหน้าตาดีที่รักสนุกเกินขอบเขตอย่างเงียบๆ
และหลังจากช่วงปีใหม่ผ่านพ้นไปไม่กี่วัน โรงเรียนเอกชนในข่าวได้ต้อนรับนักเรียนชายคนหนึ่ง เขาเข้ามาศึกษาในช่วงเทอมสุดท้าย เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอยู่เสมอ บ้างก็มีเสียงซุบซิบว่า ลูกใครไปเรียนไฮสคูลที่ต่างประเทศแล้วไม่รอด เมื่อกลับมาเมืองไทยให้มาเรียนที่นี่ โยนเงินให้ฝ่ายบริหารสักนิดก็จะได้วุฒิการศึกษาด้วยเกรดงามๆ อย่างสบาย และเรื่องนี้กำลังเกิดขึ้นกับ ภานุ หยาง ลูกครึ่งหนุ่มหล่อไทย-ไต้หวัน
ตั้งแต่เช้ามีเรื่องซุบซิบหน้าห้องเรียนชั้น ม.6A03 ทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับเด็กใหม่ที่ชื่อเป่าเปาหรือภานุ เขามีใบหน้าที่หล่อจัด ผิวขาวอมชมพู และโดดเด่นเห็นแต่ไกล
หลังจากเขาลงจากรถ ใครบางคนที่อยู่แถวนั้นก็หูดี เพราะดันไปได้ยินบทสนทนาของเขากับคนขับรถ
ชายวัยกลางคนผมสีดอกเลายืนเอามือกุมเป้าคุยกับภานุ ท่าทางของเขานอบน้อมต่อคุณชายน้อย จนดูเหมือนการแสดงในละครหลังข่าวมากกว่าจะเป็นเรื่องจริง!
“ให้ผมมารับตอนเย็นไหมครับคุณหนู”
ภานุยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ หน้าตาเขาดูเบื่อโลกที่ต้องทำตัวเป็นคุณหนูโดยมีคนมารับใช้
“ฉันอยากกลับเอง จะได้รู้จักที่นี่มากขึ้น ไม่ได้มาเหยียบบ้านเกิดนานแล้ว ต่อไปทั้งเช้าและเย็นลุงไม่ต้องดูแลเรื่องนี้อีก เข้าใจตามนี้”
“ถ้าอย่างนั้นผมต้องรายงานเจ้านายให้ทราบ”
หัวคิ้วเข้มๆ ของภานุขมวดเข้าหากัน แสดงให้รู้ว่าเขาไม่โอเค
“ไม่ต้องบอกแด๊ดดี้ ลุงมีอะไรทำก็รีบไปทำเถอะ อ้อ อาหารเย็นไม่ต้องเตรียม เดี๋ยวหากินเอง”
จากนั้นร่างสูงราวร้อยเจ็ดสิบแปดเซนติเมตรก็เหมือนมีแสงสว่างทาบทับ เมื่อเขาก้าวไปทางไหนก็มีแต่คนสนใจ กระทั่งเขามายืนหน้าชั้นเรียน ก็ยิ่งเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากเพื่อนร่วมชั้น
ภานุแจกยิ้มสดใสให้กับทุกคน รอยยิ้มกว้างกับดวงตาสีดำขลับมีประกายวิบวับ ดึงดูดสายตาเพื่อนร่วมห้องให้มองเขาเป็นจุดเดียว
“แนะนำตัวเลยค่ะ น้องภานุ”
คนหน้าตาดีจัดอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ดวงตาคู่นั้นกวาดมองรอบห้อง เพียงเท่านี้คนที่อยู่ในชั้นเรียนต่างแทบลืมหายใจ
“เรา...ชื่อเป่าเปา เพิ่งย้ายมาจากไต้หวัน ฝากตัวกับเพื่อนๆ ด้วย” เสียงภานุทุ้มหากนุ่มนวล มันเจือด้วยความเป็นกันเอง ทั้งที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้อง หากกลิ่นสะอาดผสมกลิ่นน้ำหอมแบบผู้ดีทำให้ทั้งห้องเรียนสดชื่นขึ้นเป็นกอง
“นั่งตรงไหนดีน้า...” ครูประจำชั้นเอ่ยแล้วมองหาที่นั่งให้ภานุ และเขาดูตื่นเต้นด้วยตรงแถวติดหน้าต่างมีที่ว่างพอดี
“ภานุ ดูเหมือนจะมีที่พิเศษสำหรับเธออยู่นะ”
เด็กใหม่ยิ้มหวานกว่าเดิม ถ้ามองให้ดีๆ เขามีลักยิ้มที่ข้างแก้มซ้าย เขาเดินไปยังโต๊ะตัวนั้น แต่ก้าวยังไม่ถึงจุดหมาย ใบหน้าใครคนหนึ่งพลันยื่นมาใกล้ๆ เพื่อทักทาย อีกฝ่ายมีผิวสองสี ดูคมเข้ม หล่อพื้นๆ ไม่ถึงกับสะดุดตา แต่น่าสนใจทีเดียว
“เฮ้ยเด็กใหม่ กูชื่อเหนือเมฆ เรียกหล่อๆ ว่าคอปเตอร์ก็ได้”
ไม่มีคำตอบ แต่เป็นการยกยิ้มตรงมุมปาก เพียงเท่านั้นก็มัดใจคนที่เสนอหน้ามาเซย์ฮัลโหลเด็กใหม่จนตาค้างเลยทีเดียว
“มีอะไรสงสัย หรืออยากได้ไกด์ส่วนตัว แบบใกล้ชิดเนื้อแนบเนื้อ เรียกหาคอปเตอร์ได้เลย กูยินดีดูแลมึง”
เมื่อได้ยินอะไรที่แสนจั๊กจี้ ภานุจึงนึกขำ เพื่อนร่วมห้องเขา เป็นเด็กหนุ่มตัวสูง หุ่นกำยำ แต่ท่าทางคงมีดีแค่รูปร่างกับหน้าตา หากศีรษะสวยๆ คงไม่ค่อยมีมันสมองอยู่ข้างใน แน่ละ เขาทำการบ้านมาดี การเจาะจงเข้าเรียนห้องนี้ และได้พบเป้าหมายที่ชื่อ ‘เหนือเมฆ’ ทุกอย่างล้วนเป็นแผนที่วางเอาไว้ ไม่ต่างจากบทในนิยายที่เขาคลั่งไคล้เหลือเกิน
ดวงตาอีกฝ่ายที่มองภานุอยู่ ดูเหมือนลูกหมาน้อยที่พบของเล่นถูกใจ เห็นแล้วพาภานุเลยนึกสงสาร
“อือฮึ เอาไว้ผมคิดอีกที ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในรั้วโรงเรียน บอกตรงๆ มีคนอยากดูแลผมเพียบ และคุณคงเป็นคนที่สิบแล้วมั้ง”
เมื่อภานุเอ่ยอย่างไม่ไว้หน้ากัน ท่าทางหื่นๆ ของเหนือเมฆพลันหายไป ยามนี้เขาเลยดูเหมือนหมาน้อยหงอยๆ แสนน่าสงสาร
“แต่ยังไง มึงช่วยจัดคิวไว้ให้กูบ้างเหอะ รับรองถึงเวลาของกูเมื่อไหร่ มึงต้องติดใจ จนไม่ร้องหาใครอีกทั้งชีวิตเลย”
ภานุลากเก้าอี้แล้วนั่งลง เขาไม่ทันตอบ เหนือเมฆรีบไถลเก้าอี้ของตนเพื่อมานั่งชิดกัน ตอนนั้นภานุสัมผัสได้ถึงลมหายใจผะผ่าวร้อนที่รินรดใบหูและต้นคอ ดูเหมือนว่าเหนือเมฆอยากจูบ อยากปล้ำเขากลางวันแสกๆ ในห้องเรียน แต่ภานุไม่ได้ถือสา ด้วยรู้ว่าฮอร์โมนอีกฝ่ายคงพลุ่งพล่าน รวมถึงกล้วยในกางเกงนักเรียนขาสั้น พอเขามองเป้าอีกฝ่ายเขาเห็นว่ามันตุงจนแทบโผล่หัวออกมาสูดอากาศข้างนอก
“ใจเย็นๆ ซี คุณทำเหมือนกับว่าผมเป็นขนมหวาน อยากกินจนน้ำลายจะไหลแล้วมั้ง” ภานุแซว
“เอ่อ ขอโทษ ใครใช้ให้มึงน่ารักขนาดนี้” เหนือเมฆตอบ และทำตาเยิ้มให้คนน่ารัก
“ปากหวานจังแฮะ คุณทำอย่างกับว่าชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยเจอคนหล่อแบบผมอย่างงั้นแหละ”
เหนือเมฆหยุดชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนเอ่ยขึ้น
“มันก็มีบ้าง แต่คนที่กูเห็นแล้วน้ำเยิ้มจนแทบจะหลั่งเนี่ย เพิ่งมีมึงเป็นคนแรก” เป็นตอนนั้นที่เหนือเมฆรู้สึกแปลกๆ เขามองใบหน้าภานุ และดูเหมือนมีเงาใครบางคนซ้อนทับ เป็นคนที่เขาคุ้นเคยเป็นบ้า
หัวไหล่ของภานุไหวน้อยๆ พร้อมส่งเสียงหัวเราะหึๆ จากนั้นเขาเอ่ยเสียงเข้มประหนึ่งเป็นการข่มขวัญ
“ถ้าผมจับได้ว่าคุณพูดโกหกแม้แต่คำเดียว รู้ไหมว่าโทษฐานของคนขี้จุ๊จะต้องโดนกับอะไร!?”