บท
ตั้งค่า

Chapter 1

ไม่กี่วันก่อน...

โบสถ์เซนต์จอห์นในเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์

ตรงกลางแท่นพิธีคือบาทหลวงและเจ้าบ่าวที่กำลังยืนรอคอยเจ้าสาวอย่างใจจดจ่อ ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าบ่าวหันไปทางประตูโบสถ์ด้วยลักษณะกึ่งยิ้มกึ่งคาดหวัง

ไม่นานนัก เจ้าสาวร่างเล็กเชื้อสายไทยนอร์เวย์ในชุดสีขาวประดับลูกไม้เรียบๆ ทว่าหรูหราสมกับฐานะของเจ้าบ่าวเดินคล้องแขนคุณพ่อของเธอเข้ามาทางหน้าประตูโบสถ์ ริมฝีปากสีชมพูกลีบกุหลาบประดับรอยยิ้มน่ารักบริสุทธิ์ ด้านหลังของทั้งคู่คือเด็กหญิงและเด็กชายวัยหกเจ็ดขวบในมือถือตะกร้า และโปรยกลีบกุหลาบสีชมพูและสีขาวตลอดการเดินตามเจ้าสาวมาถึงแท่นพิธีการ

ลูเซียโน่ มอร์เกนเมื่อเห็นเจ้าสาวเดินเข้ามา เขาก็ฉีกยิ้มกว้างด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข เจ้าสาวของเขางดงามยิ่งกว่านางฟ้าใดๆ บนโลก และเขาต้องยอมรับกับตนเองในใจเงียบๆ ว่าวันนี้เขาทั้งดีใจทั้งเสียดาย เพราะนี่คืองานแต่งงานที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงระหว่างเขากับเธอ

มีเพียงครอบครัวเธอและตัวเขาเท่านั้นที่รู้ว่า พิธีแต่งงานนี้เป็นการจัดขึ้นแบบลวงโลก

อันที่จริง เขาก็ไม่ได้อยากหลอกลวงแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน หากมันคือความจำเป็น และเขามองไม่เห็นทางออกใดนอกจากวิธีนี้เท่านั้น

ชายหนุ่มหยุดความคิดเมื่อเจ้าสาวเดินขึ้นมายืนบนแท่นพิธีฝั่งตรงข้ามเขา คุณพ่อของเธอเดินกลับไปนั่งที่ของตนหลังจากส่งเจ้าสาวถึงที่หมายแล้ว

พิธีแต่งงานเริ่มขึ้นเมื่อบาทหลวงอ่านคัมภีร์คู่ชีวิต และให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวคำปฏิญาณ จากนั้นเด็กชายถือหมอนวางแหวนทองทรงเกลี้ยงเดินเข้ามา คู่บ่าวสาวแลกแหวนแต่งงานกัน กระทั่งถึงพิธีแลกจุมพิต...

ลูเซียโน่ยื่นหน้าเข้าใกล้ใบหน้าของเจ้าสาว เขาไม่ได้จูบเธอทันทีทั้งที่เขาถือสิทธิ์นี้จูบเธอเลยก็ได้ แต่ที่หยุดอยู่แค่นั้นเพราะเขารู้จักนิสัยของเจ้าสาวดี

“ขอบคุณมารีนมากนะครับ” เขากระซิบบอกเธอ

“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ลูเซียช่วยมารีนไว้เยอะเหมือนกัน” หญิงสาวพูดอย่างสุภาพพร้อมยิ้มเล็กน้อย

“แต่ครั้งนี้ มารีนช่วยผมเยอะกว่า ผมควรขอบคุณมารีนมากกว่าให้มารีนมาขอบคุณ” ลูเซียโน่บอกพร้อมกับมองหญิงสาว และไม่อยากเสียเวลากับพิธีแต่งงานนี้จึงเอ่ยถามเธอว่า “ผมขออนุญาตจูบมารีนได้ไหม”

หญิงสาวช้อนตาขึ้นมองเขา ตอบเสียงเบาว่า “ถ้ามันทำให้พิธีแต่งงานนี้สมบูรณ์ พี่ลูเซียจูบเถอะค่ะ”

ชายหนุ่มยิ้มโล่งใจ จากนั้นก้มหน้าลงต่ำ ระหว่างริมฝีปากของทั้งคู่ใกล้แตะกัน เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นหน้าประตูโบสถ์

“ลูเซียโน่จะแต่งงานไม่ได้เด็ดขาด!”

ทุกคนในโบสถ์หันมองตามเสียงนั้นทันที รวมถึงเจ้าบ่าวและเจ้าสาวด้วย

ที่หน้าประตูโบสถ์ หญิงสาวในชุดกระโปรงสั้นสีขาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น เธอมีใบหน้าที่สวย ริมฝีปากอวบอิ่มแดงปลั่ง เครื่องประดับที่สวมใส่เป็นชุดเพชรทั้งหมด ซึ่งดูไปแล้วเธอมีฐานะไม่ธรรมดา ทว่าสายตาที่มองเจ้าสาวเหมือนต้องการฆ่าให้ตายทั้งเป็นนั้นกลับสร้างเสียงฮือฮามากกว่าประโยคที่เธอตะโกนขึ้นก่อนหน้านั้น

“ใครก็อย่าหวังจะได้แตะต้องน้องสาวผม” คำพูดนั้นดังมาจากชายหนุ่มลูกครึ่งที่นั่งด้านข้างพ่อของเจ้าสาว ใบหน้าคมเข้ม และยิ่งดูดุดันขึ้นเมื่อเขาลุกยืน จ้องมองไปทางหญิงสาวที่หมายจะทำลายพิธีแต่งงานนี้ “แขกไม่ได้รับเชิญอย่างคุณออกไปซะ!”

“คนนอกอย่ายุ่ง!” หญิงสาวผู้มาใหม่พูด ดวงตาของเธอไม่หันมองชายหนุ่มที่ลุกขึ้นมาต่อต้านเธอสักนิด แต่ผละสายตาจากเจ้าสาวไปทางเจ้าบ่าว ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณลูเซียโน่ ฉันเห็นแก่ที่คุณหลงผิดไปชั่วขณะ ฉันจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง จะกลับมาหาฉันหรือยังยืนอยู่ตรงนั้น”

“ฮันนา โอดินสัน” เจ้าบ่าวเอ่ยชื่อของหญิงสาวผู้มาใหม่ด้วยเสียงเย็นชา “ผู้หญิงที่ผมต้องการแต่งงานด้วยคือมารีน หรือก็คือเจ้าสาวแสนหวานที่ยืนอยู่ข้างผมในตอนนี้ ไม่ใช่คุณ”

ฮันนา โอดินสันเชิดหน้าขึ้น สีหน้าไม่เปลี่ยนไปจากเดิมทั้งที่โดนชายหนุ่มตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า

“ขอโทษนะคะลูเซีย ฉันคิดว่าคุณกำลังมีปัญหาเพราะเราทะเลาะกัน คุณอยากประชดฉันหรืออะไรก็ได้ แต่อย่าดึงผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเธอจะกลายเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารที่สุดในที่นี้”

หากเธอหมายความว่าให้เขาทิ้งเจ้าสาวเพื่อไปหาเธอละก็ เธอคิดผิด เขาต้องรีบทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องเจ้าสาวของเขา!

“ฮันนา” ลูเซียโน่เรียกชื่อหญิงสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่คำพูดถัดมากลับเจ็บเสียยิ่งกว่าถูกมีดแทงหลายแผล “คุณเลิกหลงตัวเองซะทีเถอะ หากคุณยังได้ยินไม่ชัดพอผมจะบอกย้ำอีกครั้งว่า ผู้หญิงที่อยู่ในดวงใจของผมและผมต้องการแต่งงานด้วยก็คือมารีน ไม่ใช่คุณ”

แต่ถึงอย่างนั้น คำพูดนั้นกลับไม่ได้ทำให้ฮันนาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง หรือกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งเหมือนนางร้ายในละครหลังข่าว ถึงแม้จริงๆ แล้วเธอจะไม่พอใจลูเซียโน่และแม่สาวผมเข้มที่มีเชื้อชาติไทยคนนั้นมากก็ตาม

ฮันนาเบนสายตามองไปทางเจ้าสาว พูดแกมข่มขู่

“แล้วเธอจะรู้ว่าการแย่งของของคนอื่นไปก็เหมือนกับเอาตัวเองลงแช่ในลาวา หากเธอยังดึงดันจะครอบครองเขา เธอจะไม่มีทางสมหวังอย่างที่ฝัน” หยุดพูด หันไปมองเจ้าบ่าว “คุณจะต้องคลานกลับมาหาฉัน ลูเซียโน่ มอร์เกน ฉันจะล้วงความลับของคุณ ซึ่งฉันใกล้จะได้รู้อะไรดีๆ ขึ้นมาแล้ว”

ประโยคมากมายก่อนนั้นของฮันนาไม่ได้ทำให้ลูเซียโน่รู้สึกใดๆ แต่กับประโยคสุดท้าย เขาสะท้านในใจ ไม่รู้ว่าฮันนารู้ความลับของเขาถึงขั้นไหน แต่หากเธอรู้จริงๆ มันก็ต้องเป็นมีผลกระทบต่อหน้าตาของตระกูลมอร์เกน

ไม่ละ เขาจะไม่ยอมให้ฮันนาพูดอะไรต่อหน้าแขกมากมายในโบสถ์ เพื่อให้เป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ของวันพรุ่งนี้เช้าเด็ดขาด

เขาต้องไล่เธอ! และต้องรีบไล่โดยด่วน

ลูเซียโน่มองลูกน้องของเขาด้วยสายตาเป็นสัญญาณให้ขับไล่ฮันนาออกจากที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด

ชายสองคนวิ่งไปประกบฮันนาทันที ซึ่งเธอรู้ตัวเร็วอย่างยิ่ง หันไปถลึงตาพร้อมกับพูดขู่ฟ่อ “หากไม่อยากถูกฉันฟ้องก็อย่าเอามือสกปรกของพวกแกมาจับฉัน ฉันออกไปจากที่นี่เองได้” พูดจบ เธอหมุนตัวเดินออกจากโบสถ์ พร้อมกับยกมือโบกให้กับคู่บ่าวสาว

สำหรับฮันนา นั่นไม่ใช่การโบกมือลา แต่เป็นเหมือนการยกธงท้ารบ

มารีน่าหันมองลูเซียโน่ด้วยสายตาเป็นห่วง

เขาก็เช่นกัน ก้มมองเธอ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “มารีน ขอโทษนะที่ต้องทำให้พบเจอกับเรื่องแบบนี้”

“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนี้พี่ลูเซียบอกฉันก่อนหน้านั้นแล้ว และฉันก็เป็นคนยอมรับมันเอง” หญิงสาวบอกกับเขาอย่างเข้าใจ “แต่พี่ลูเซียไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”

“เรื่องเล็กน่ะ ขอบคุณนะครับ” แววตาของลูเซียโน่แสดงออกเช่นนั้นจริงๆ ถึงแม้ก่อนนั้นจะรู้สึกหวั่นใจว่าฮันนาจะป่าวประกาศความลับของเขาก็ตาม

“อะแฮ่ม!” บาทหลวงส่งเสียงกระแอม ก่อนจะพูดขึ้น “หากไม่มีปัญหาอะไรแล้ว พวกคุณยังมีทะเบียนสมรสที่ต้องจด”

“จริงด้วย” ลูเซียโน่พูดกับหญิงสาว “จดทะเบียนสมรสถึงจะเป็นการแต่งงานที่สมบูรณ์” ตอนนี้ไม่ใช่จูบอีกต่อไปแล้ว แต่สิ่งสำคัญของการแต่งงานครั้งนี้คือทะเบียนสมรส

เพื่อความสมจริงและเพื่อความเชื่อใจ

“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับ จากนั้นก็เดินตามเจ้าบ่าวที่จูงมือเธอให้เธอไปยืนต่อหน้าทะเบียนสมรส

...และแล้ว พิธีแต่งงานก็จบลงโดยที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวไม่ได้แลกจูบกัน จะมีก็แต่การแลกแหวนและจดทะเบียนสมรสอันซึ่งเป็นข้อตกลงสำคัญระหว่างทั้งสอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel