ตอนที่ 9
ร่างสูงกำยำยืนจ้องมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากโรงแรมหรูระดับห้าดาว ดวงตาคมกริบแข็งกร้าวเมื่อทุกอย่างที่เขาหวังกลับพังทลายตระกูลเวชชวศิลป์กล้าเล่นตลกกับเขา เอกสารสำคัญที่เวชชวศิลป์ถือไว้ในมือทำให้เขาหัวเสียอยู่ในเวลานี้ พวกมันพากันหนีไปที่อเมริกายิ่งสร้างความลำบากยิ่งขึ้นไปอีก ดีที่สืบได้ว่ารณเทพส่งบุตรสาวคนสุดท้องไปที่อิตาลี เขาจะไม่มีวันปล่อยให้ลูกสาวมันลอยนวลเด็ดขาด จะทวงทุกอย่างคืนให้สาสมเลยทีเดียว
เสียงโทรศัพท์ปลุกเขาออกจากภวังค์ รีออนยกโทรศัพท์ขึ้นดูพร้อมกระตุกยิ้มที่ริมฝีปาก ราวกับว่าตนเองกำลังได้รับข่าวดีจากลูกน้องคนสนิท
“ว่ายังไง?” เขากรอกเสียงตามสาย
“คุณชายครับผมทำพลาด มีคนมาช่วยเธอไปได้ครับ” ลูกน้องรายงาน
รีออนขบกรามแน่น ใบหน้าเคร่งขรึมลง แทบอยากเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งด้วยความเดือดดาล
“ใครกันที่ยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้!”
“ตระกูลอัลเล็นโซ่ครับ”
ชายหนุ่มชะงักก่อนทอดกายนั่งลงบนโซฟาสีขาวพร้อมถอนใจหนักออกมา อัลเล็นโซ่อีกแล้ว... หากได้ตัวลูกสาวมาคงเอาไปต่อรองกับรณเทพได้ ยังไงก็ต้องชิงตัวกลับมา เอกสารพวกนั้นมันสำคัญมาก ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องตายด้วยน้ำมือของพ่อแน่ๆ
“คอยตามสืบอยู่เงียบๆ ก็แล้วกัน อย่าเพิ่งลงมือทำอะไร” รีออนสั่งลูกน้อง
“ครับคุณชาย”
กิตติหนุ่มไทยแท้ตัดสายจากเจ้านายตนเองแล้วถอนหายใจ เขารู้ดี กำลังเดินในเส้นทางที่ผิด แต่รีออนคือผู้มีพระคุณ แม้ใจไม่อยากทำร้ายคนไทยด้วยกันก็ตาม แต่ทุกอย่างมันก็คืองาน ตอนนี้เขาได้แต่หวังว่าจะพบกับน้องสาวที่พลัดพรากจากกันโดยเร็วที่สุด ไม่อยากรู้สึกผิดอีกแล้ว
แสงแดดแห่งวันใหม่สาดส่องเข้ามาร่างบางขยับกายพร้อมลืมตาตื่น พลางชันกายลุกจากเตียงกว้าง เมื่อกวาดตามองไปรอบๆ ห้อง เธอนั่งน้ำตารื้น ยามค่ำคืนที่เธอหลับมันรู้สึกราวกับอยู่ที่บ้านอันแสนอบอุ่น แต่พอตื่นมากลับพบว่าทุกอย่างเป็นเพียงแค่ความฝัน
ร่างบางลุกยืนคว้าผ้าขนหนูพร้อมสาวเท้าเดินไปที่ห้องน้ำ มือเอื้อมเปิดฝักบัวให้สายน้ำพัดพาความเศร้าในใจให้ลดทอนลงไป แต่มันกลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย หญิงสาวมองดูตนเองหน้ากระจกหลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เวลานี้เธอเหมือนนักแสดงที่กำลังสวมบทบาทเป็นชายหนุ่ม โชคดีก่อนมาเยือนอิตาลีเธอกำลังเล่นบทนี้อยู่ได้ฝึกซ้อมมาพอสมควรกับกิริยาท่าทางของผู้ชาย ไม่รู้ว่าจะตบตาเขาได้นานสักเท่าไหร่ หวาดหวั่นใจไม่น้อย แต่เขาเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของเธอเท่านั้น
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น หญิงสาวรีบสาวเท้าเดินไปเปิด เห็นพ่อบ้านประจำคฤหาสน์ยืนอยู่
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“คุณไซน์ให้มาเชิญคุณไปทานอาหารด้านล่างครับ”
“ได้ครับ”
เอลี่เดินตามบ่าวรับใช้ไปเงียบๆ เมื่อถึงชั้นล่าง เธอเห็นเขากำลังนั่งทานอาหารอยู่คนเดียว พ่อบ้านประจำคฤหาสน์เชิญเธอนั่งลงตรงข้ามเขา หญิงสาวกล่าวขอบคุณเบาๆ แล้วนั่งลง
ไซน์ช้อนสายตามองเอส ทุกอย่างมันขัดใจไปเสียหมด เขาไม่นิยมเพศเดียวกัน แต่นิยมชมชอบผู้หญิงอย่างที่สุด ยิ่งสาวสวยน่าตาจิ้มลิ้มเขายิ่งอยากได้มานอนกอดทั้งคืน แต่เมื่อคืน... แค่เห็นเรียวขาที่โผล่พ้นเสื้อตัวโคร่งออกมา ก็แทบคุมสติไม่อยู่ ไม่อยากจะเชื่อนี่เขาบ้าไปแล้วหรือไงกัน
“วันนี้คุณต้องการไปซื้อของใช้ส่วนตัวใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยปากถาม
“ใช่ครับ” เธอตอบเก่อนเมินหน้าหนี เพราะไม่อยากเห็นสายตาแปลกๆ ที่ส่งมาให้ มันทำให้ใจเธอรู้สึกสั่นอย่างประหลาด
“วันนี้ผมว่างพอดี เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อนก็แล้วกัน”
“ไม่เป็นไรครับ!” หญิงสาวโพลงออกมาสีหน้าเต็มไปด้วยความตระหนก
คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน จ้องมองเจ้าของน้ำเสียงเมื่อครู่ด้วยความงุนงง ทำไมต้องทำท่าตกใจมากขนาดนี้ แค่เขาต้องการไปดูแลคุ้มกันเท่านั้น
“มีอะไรหรือเปล่าครับ ถึงไม่อยากให้ผมไปด้วย ผมแค่ต้องการไปดูแลความปลอดภัยของคุณ เพราะพี่ชายผมสั่งไว้ครับคุณเอส” เขาบอกสีหน้าเรียบเฉย
“ปะ...เปล่าครับ ผมแค่กลัวว่าคุณจะเสียงานเพราะมาดูแลผม” เธอรีบแก้ตัว
“การดูแลคุณให้ปลอดภัยก็คืองานผมครับ”
มือบางเอื้อมตักอาหารทานอย่างฝืดคอ แล้วจะหาโอกาสไปซื้อของใช้จำเป็นได้ยังไงกัน หากมีเขาตามมาด้วย ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ความจริงแค่ส่งคนไปดูแลเธอก็พอแล้ว