บท
ตั้งค่า

บทที่3 ทวีปชิวหลิง

ซินเยว่นั่งรอให้ฮุ่ยหลิงกลับมาเพื่อจะได้ถามไถ่เรื่องราวต่างๆ ที่นางได้เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ แต่ฮุ่ยหลิงยังไม่ทันได้กลับมานางก็ได้ยินเสียงโวยวายด้านนอกจึงเปิดประตูออกไปดู ด้านหน้าเรือนหลังเล็กที่ดูซอมซ่อแทบจะพังลงมาทับผู้อาศัยอยู่ด้านใน ทุกครั้งที่มีลมพัดจะมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดตามมา เด็กสาวหน้าตาน่ารักแต่งกายด้วยชุดฮั่นฝูสีแดงปักลายดอก เหมยฮวาดูสดใส ไว้ผมหน้าม้าถักเปียสองข้างแล้วมัดรวบคล้ายทรงนางเซียน อายุราวสิบสี่สิบห้าแต่ใบหน้ากลับบิดเบี้ยวเพราะความโกรธ นางคือ'หยางหลันฮวา' น้องสาวต่างมารดาของหยางซินเยว่

หยางหลันฮวายืนชี้นิ้วอย่างเกรี้ยวกราดสั่งการให้หญิงสาวอีกสองคนอายุราวยี่สิบปีจับฮุ่ยหลิงเอาไว้

"นางไพร่เป็นเเค่ขี้ข้าบังอาจมาขวางทางข้าอย่างนั้นหรือ จิงอี ลี่หลิน ตบปากสั่งสอนนางบ่าวไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนนี้ซะ"

จิงอีตบหน้าฮุ่ยหลิงสองทีอย่างเต็มแรงแต่จู่ๆ ก็มีน้ำเย็นสาดใส่พวกนางทั้งสามคนเสียงกรีดร้องโวยวายขึ้นทันทีเพราะความเย็น

"อ๊าย....ใครมันกล้าบังอาจสาดน้ำเย็นใส่ข้า"

เมื่อทั้งสี่คนหันมาก็พบกับซินเยว่ถือถังน้ำยืนพิงกรอบประตูด้วยใบหน้าซีดขาว มองพวกนางด้วยสายตาเฉยเมย

"หยางซินเยว่เจ้าบังอาจสาดน้ำใส่ข้า เจ้าอยากโดนเเส้ม้าเฆี่ยนจนตายมากใช่หรือไม่ วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสเเซ่ม้าอีกครั้งจะได้ไม่ลืมว่ารสชาติของมันเป็นเช่นไร"

หยางหลันฮวาด่าทอผรุสวาทใบหน้าบิดเบี้ยวไม่หลงเหลือความงามอีกต่อไป นางใช้สายตามองซินเยว่ด้วยความเกลียดชัง เมื่อซินเยว่ได้ยินเช่นนั้นนางก็รู้ทันทีว่าใครคือคนที่ทำให้ร่างของนางเจ็บระบมจนถึงตอนนี้ เรื่องแบบนี้ถ้านางไม่ตอบแทนจะเสียน้ำใจเอาได้

รอก่อนเถอะรอให้แข็งแรงมากกว่านี้นางจะสนองพระเดชพระคุณให้ถึงใจ ซินเยว่กระตุกยิ้มมุมปากเอ่ยขึ้นมาเรียบๆ อย่างไม่ใส่ใจในน้ำเสียงอันเกรี้ยวกราดของหยางหลันฮวา

"นึกว่าหมากัดกันเลยสาดน้ำให้เเยก โดนน้ำสาดไปแล้วก็แยกย้ายเสียทีหรืออยากโดนอีกถัง"

พูดจบซินเยว่ก็โยนถังน้ำไปที่เท้าของพวกนาง แล้วเดินหันหลังกลับเข้าเรือนพยักหน้าให้ฮุ่ยหลิงเดินตามมาโดยไม่สนใจพวกนางอีก ตอนนี้นางยังไม่เเข็งเเรงพอจะสู้กับใครได้ต้องขอชิ่งไปก่อน

"เจ้าสวะอย่าคิดว่าจะหนีไปได้นะ"

เด็กสาวจะตามเข้าไปเอาเรื่องซินเยว่ในเรือนแต่ถูกบ่าวทั้งสองห้ามเอาไว้

"คุณหนูรองเจ้าคะบ่าวว่าเรากลับกันก่อนเถอะเจ้าค่ะถ้ามีเรื่องอีกคราวนี้ท่านแม่ทัพต้องลงโทษคุณหนูแน่ๆ บ่าวว่าเราหาทางทำให้พวกนางถูกขับออกจากจวนตระกูลหยางไม่ดีกว่าหรือ ฮูหยินรองก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นฮูหยินใหญ่ส่วนคุณหนูเองก็จะได้เป็นคุณหนูใหญ่ของจวน แล้วการหมั้นหมายกับองค์ชายสามก็จะต้องตกเป็นของคุณหนูอย่างไรเล่าเจ้าคะ"

หยางหลันฮวาได้ยินดังนั้นก็รู้สึกอารมณ์เย็นลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงใบหน้าอันหล่อเหลาของชายที่นางหลงรักมานานหลายปี แต่เขากลับต้องกลายมาเป็นคู่หมายของคุณหนูใหญ่จวนแม่ทัพก็คือหยางซินเยว่หญิงอัปลักษณ์คนนั้น

"ถ้าไม่มีหยางซินเยว่กับแม่ของมันสักคนข้าก็คงไม่ต้องกลายมาเป็นลูกอนุเช่นทุกวันนี้ ข้าเหนือกว่ามันทุกอย่างเศษสวะอย่างมันมีสิ่งใดเทียบข้าได้เหตุใดมันถึงได้เป็นคู่หมั้นขององค์ชายสาม เพียงแค่เพราะมันเกิดก่อนไม่กี่เดือนอย่างนั้นหรือ"

หยางหลันฮวามองไปยังเรือนของซินเยว่ด้วยสายตาเกลียดชังนางสะบัดเเขนเสื้อแล้วหมุนตัวเดินจากไปอย่างหัวเสีย เมื่อเสียงด้านนอกเงียบลงฮุ่ยหลิงจึงเดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าของนางมีรอยบวมเเดงของฝ่ามือทั้งสองแก้ม ซินเยว่เห็นดังนั้นก็ถอนหายใจออกมายาวๆ

"ทำไมปลอยให้พวกนางทำร้ายเจ้าอยู่ฝ่ายเดียว"

ฮุ่ยหลิงน้ำตาคลอใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ

"บ่าวสู้พวกนางไม่ได้เจ้าค่ะพลังปราณของบ่าวเพียงแค่สีแดงขั้นกลางส่วนพวกนางสีแดงขั้นสูงอีกอย่างบ่าวเป็นเพียงทาสในเรือน จะอาจหาญต่อสู้กับเจ้านายได้อย่างไร แต่ไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะถึงแม้บ่าวจะสู้พวกนางไม่ได้แต่บ่าวจะปกป้องคุณหนูด้วยชีวิตของบ่าวเองจะไม่ยอมให้พวกนางมารังแกคุณหนูได้อีก"

ฮุ่ยหลิงมองซินเยว่ด้วยสายตารักเคารพและเทิดทูน นางจะไม่มีวันทรยศคุณหนูของนางเป็นอันขาด

หลังจากสลบไปคราวนั้นฮุ่ยหลิงก็รู้สึกได้ว่าคุณหนูของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อก่อนคุณหนูไม่เคยแม้แต่จะกล้าเงยหน้าต่อปากกับคุณหนูรองเลยเเม้เพียงครึ่งคำ ครั้งนี้กลับต่างออกไปแต่เป็นเช่นนี้ก็ดีนางอยากให้คุณหนูลุกขึ้นสู้กลับบ้าง ไม่อยากให้นางถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียว

ปลายยามซื่อ (09.00-10.59) เมื่อซินเยว่ได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับตัวนางและแผ่นดินที่นางอยู่ตอนนี้จากคำบอกเล่าของฮุ่ยหลิง ทำให้สมองน้อยๆ ที่อยู่ในหัวของนางทำงานอย่างหนัก

นี่แปลว่าที่นางถูกวางยาพิษในแชมเปญนางตายไปแล้วในโลกก่อนไม่ได้ถูกช่วยเเต่มาเกิดใหม่ในร่างหยางซินเยว่ เป็นแบบนี้ได้ยังไง หรือตอนนี้นางแค่มาสิงอยู่ในร่างนี้ชั่วคราวแล้วหยางซินเยว่อีกคนล่ะนางอยู่ที่ไหนนางจะกลับมาเอาร่างคืนหรือไม่ คำถามมากมายประเดประดังเข้ามา คิดยังไงก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ จากที่สรุปคร่าวๆ ที่นี่ก็คือแผ่นดินที่ใครๆ ต่างเรียกว่า 'ทวีปชิวหลิง'

ระดับพลังปราณแห่งทวีปชิวหลิงแบ่งออกเป็น เจ็ดระดับตามสีของพลังคือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม แดง ยิ่งมีพลังยุทธ์แก่กล้าสีของพลังก็จะเลื่อนขั้นขึ้น สีแดง คือระดับต่ำสุด สีม่วง คือระดับสูงสุด แต่ละระดับมีสามขั้นคือ ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง

แต่ยังมีระดับที่สูงขึ้นไปกว่าระดับพลังขั้นสีคือ ขั้นสร้างฐานราก ขั้นเจี๋ยตัน ขั้นหยวนหยิง ขั้นสร้างจิต วิญญาณ ขั้นแปลงจิต และถ้าหากฝึกถึงขั้นสร้างฐานราก

ผู้ที่ฝึกพลังปราณก็จะมีอายุที่ยืนขึ้นตามพลังปราณที่มี ที่ทวีปชิงหลิงมีผู้ที่ฝึกสำเร็จเพียงนับนิ้วได้ พวกเขาเหล่านั้นต่างเร้นกายและถูกเรียกขานว่าปรามาจารย์ยอดยุทธ

ซึ่งเรื่องเหล่านี้นางไม่รู้จักไม่เคยได้ยินชื่อในแม้หนังสือประวัติศาสตร์เล่มไหนเลย แถมคนที่นี่ยังมีพลังปราณ พลังยุทธ์ มีการฝึกวิชาตัวเบาเหาะเหินเดินอากาศ เหมือนในหนังแฟนตาซีมีสัตว์อสูรไว้เป็น สัตว์เลี้ยง ส่วนใครที่ไม่มีพลังปราณจะถูกตราหน้าว่าเป็นขยะเป็นสวะ ผู้คนดูถูกรังแกไร้ค่ายิ่งกว่าขอทาน ซึ่งทวีปนี้ยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครไม่มีพลังปราณจนกระทั่งหยางซินเยว่เกิดมา ซินเยว่ถอนหายใจออกมาเบาๆ

หยางซินเยว่เกิดในตระกูลนักรบแต่กลับไร้พลังปราณซึ่งไม่แปลกเลยที่จะโด่งดังขนาดนี้ ทุกคนเมื่ออายุครบเจ็ดปีก็ต้องเข้ารับการทดสอบพลังปราณ แต่นางที่เป็นถึงบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่ของแคว้น หยางจิ่งเทียนกับฮูหยินเอกเซวี่ยฟังเฟยแต่กลับไม่มีพลังปราณเหมือนบิดามารดา

'เรื่องนี้ชักจะแหม่งๆ แฮะ'

จะเป็นไปได้ยังไงขนาดบ่าวในเรือนยังมีพลังปราณบิดามารดาของหยางซินเยว่ก็มีพลังปราณแล้วทำไมหยางซินเยว่ถึงได้เกิดมาเป็นขยะเรื่องนี้คงต้องสืบดูอีกทีเพราะถึงยังไงเราก็ต้องอยู่ในร่างนี้ไม่ว่าจะชั่วคราวหรือตลอดไป คงจะปล่อยให้ร่างนี้เป็นอันตรายไม่ได้

บิดาของหยางซินเยว่หยางจิ่งเทียนเป็นแม่ทัพใหญ่ของ 'เเคว้นฉิง' มีฮูหยินเอกคือเซวี่ยฟังเฟยมารดาของหยางซินเยว่ ฮูหยินรอง มู่เซี่ยอี่ อนุสาม เหยียนเหมยฟาง อนุสี่ หลิวอี้หลิน หยางจิ่งเทียน มีลูกกับฮูหยินรองสองคนคือ หยางหลันฮวา อายุสิบห้าปีเกิดทีหลัง ซินเยว่ สองเดือน และหยางซีซวนอายุสิบปี อนุสามไม่มีลูกส่วนอนุสี่พึ่งรับเข้ามาเมื่อปลายปีที่แล้วคลอดแฝดชายหญิงชื่อหยางชิงหลงและหยางชิงชิงพึ่งจะอายุได้เพียงสองเดือน

ตอนนี้แม่ทัพหยางเห่อลูกแฝดทั้งสองมากส่วนฮูหยินรองมู่เซี่ยอี่นางพยายามจะขึ้นเป็นใหญ่ในจวนตะกูลหยางคอยจัดเเจงเรื่องต่างๆ เพราะถือว่าตนเป็นคนโปรดและมีบุตรชายสืบสกุลให้หยางจิ่งเทียน นางอยากปกครองเรือนหลังมานานแล้ว ตั้งแต่แต่งเข้าจวนสกุลหยางนางก็วางแผนมาโดยตลอด ต่อหน้าทำตัวอ่อนหวานลับหลังคอยหาเรื่องให้เซวี่ยฟังเฟยถูกลงโทษ

หยางซินเยว่ไม่มีพลังปราณจึงทำให้แม่ทัพหยางหมางเมินต่อเซวี่ยฟังเฟยและยังให้นางแม่ลูกย้ายมาอยู่เรือนเล็กท้ายจวน บ่าวในเรือนก็พลอยแบ่งพรรคแบ่งพวก บ่อยครั้งที่หยางซินเยว่ถูกบ่าวรังแก

แรกเริ่มก็ยังมีการลงโทษบ่าวที่รังแกหยางซินเยว่บ้าง แต่เมื่อนานวันเข้าหยางจิ่งเทียนก็เลิกสนใจ ทำปิดตาข้างหนึ่งสุดท้ายก็ลืมเลือนว่าเคยมีสองแม่ลูกอยู่ในจวน

"เยว่เอ๋อเจ้าบาดเจ็บหรือไม่ แม่ได้ยินเสียงหยางหลันฮวาอยู่ด้านนอกนางทำร้ายเจ้าอีกแล้วใช่หรือไม่"

พูดจบเซวี่ยฟังเฟยก็หมุนตัวซินเยว่ไปมาเพื่อสำรวจหาร่องรอยของบาดแผล

"ท่านแม่ข้าเวียนหัวไปหมดแล้วข้าบอกแล้วว่าข้ามิได้เป็นอะไรท่านไม่ต้องห่วงข้าเพียงนั้น ต่อไปข้าจะไม่ยอมให้นางมารังแกข้าอีกข้าสัญญา"

เซวี่ยฟังเฟยมองซินเยว่ด้วยสายตาเศร้าสร้อยและเจ็บปวด ถ้าหากนางไม่ไร้ความสามารถเช่นนี้นางคงสามารถปกป้องบุตรสาวของนางจากสองแม่ลูกมู่เซี่ยอี่และหยางหลันฮวาได้ เยว่เอ๋อของนางคงจะไม่ถูกรังแกแบบนี้ ตอนนี้แม้แต่บ้านเดิมของนางยังมาตัดขาดเมื่อรู้ว่าหยางซินเยว่ไร้พลังปราณ ถ้าหากท่านปู่ของเยว่เอ๋อยังอยู่ทุกคนคงไม่กล้าทำกับนางทำกับเยว่เอ๋อเช่นนี้ สินเดิมที่เคยติดตัวมาตอนแต่งเข้าตระกูลหยางก็นำออกมาขายเพื่อหาหมอมารักษาบุตรสาวจนหมดแล้ว

ตอนนี้นางอาศัยทำงานในร้านขายผ้าที่เป็นกิจการของตระกูล หยางที่อยู่ในความดูแลของฮูหยินรองมู่เซี่ยอี่แลกข้าว ซึ่งได้กินเพียงสองมื้อคือเช้ากับเย็นทั้งที่เป็นฮูหยินเอกแต่ถูกกระทำยิ่งกว่าทาสหากซินเยว่เเข็งแร็งมากกว่านี้นางคงพาบุตรสาวจากไปนานแล้ว

อาหารที่ได้มาคือข้าวต้มน้ำใสกับผักต้มจึงทำให้นางสองแม่ลูกตอนนี้ผอมแห้งเหมือนคนขาดสารอาหาร ไม่สวยงามอวบอิ่มเหมือนแต่ก่อ นผิวหนังหยาบกร้านจากการทำงานหนักมาหลายปี นางในตอนนี้ไม่สวยงามน่ามองเท่าใดนัก แต่ถึงจะเปลี่ยนไปมากเพียงใดนางก็ยังคงหลงเหลือเค้าความงามเมื่อตอนยังสาวอยู่ เซวี่ยฟังเฟยได้แต่ไว้อาลัยให้กับความขี้ขลาดของตน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel