ตอนที่ 6 บิดาข้าคือแม่ทัพอวิ๋น
ใจของเหล่าถงแทบจะตกใจจนระเบิดออกมา เขายังไม่ทันตั้งตัวร่างกายก็ถูกสะบัดปลิวไปเหมือนว่าวลอยว่อนไปกระแทกเข้ากับร่างของขอทานอีกสองคนอย่างแรง
อัก!
เหล่าถงล้มลงเจ็บจนจุกร่างทั้งร่างลอยมาทับพี่น้องทั้งสองอย่างแรง ขอทานทั้งสามนอนกองกันร้องโอดโอยออกมา พวกเขายังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกเหล่าถงกระแทกเข้าอย่างจังหงายหลังล้มทั้งยืนอย่างน่าเวทนา
ไม่คิดเลยว่าหญิงสาวที่เอวบางร่างน้อยแต่กลับมีพลังมหาศาลเช่นนี้!
"นังสารเลว รนหาที่ตายใช่ไหม!" พี่ใหญ่ของขอทานลุกขึ้นมาได้ก็ชี้หน้าอวิ๋นจื่อเหยาก้าวอาดๆเข้ามาด้วยความโมโหสุดขีด อวิ๋นจื่อเหยายิ้มเย็น นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า "ข้าหรือพวกเจ้ากันแน่ที่รนหาที่ตาย..."
"นางแพศยาพูดมากเสียจริง!" ลูกพี่ของขอทานพูดเสียงเย็นก่อนจะพุ่งตัวเข้ามา อวิ๋นจื่อเหยาที่ตั้งท่ารออยู่แล้วนางก็ยกเท้าขึ้นเตะอย่างแรงไปทางลูกพี่ขอทานคนนั้น
ได้ยินเพียงเสียงดังพลั่กก่อนที่ร่างของลูกพี่ขอทานจะล้มตัวลง สองมือกอบกุมเป้าตรงกลางร่างเอาไว้ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเจ็บปวด "อ๊ากๆ นางสตรีบ้าผู้นี้กล้าทำร้ายข้าพวกเจ้าฆ่านางเสีย อย่าให้นางมีชีวิต"
พวกเขาตอนนี้มีเพียงความคิดเดียวคือรีบๆสังหารนางแล้วกลับไปรับเงินรางวัลเสีย จากนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องกลับไปใช้ชีวิตอย่างยากจนข้นแค้นบนข้างถนนอีกต่อไปแล้ว
ขณะเดียวกันชายหน้าแหลมก็พุ่งเข้ามาอวิ๋นจื่อเหยาโน้มตัวหลบการจู่โจมของเขาจากนั้นนางก็หมุนตัวกระโดดถีบชายคนนั้นทางด้านหลังหัวคะมำลงพื้นไปในทันที
อวิ๋นจื่อเหยาชี้มือไปที่เหล่าถงนางก้มลงหยิบหินก้อนหนึ่งขึ้นมาแล้วโยนขึ้นลง "เจ้าก็เข้ามาเถอะ!"
เหล่าถงโบกมือ "ไม่ๆข้าไม่กล้าแล้วไม่ๆ"
ในขณะที่เหล่าถงปฏิเสธการต่อสู้ที่ด้านหลังของนางชายหน้าแหลมคนนั้นก็ซวนเซลุกขึ้นมาพร้อมกับในมือถือมีดดาบสั้นพุ่งเข้ามา "นางแพศยาตายเสียเถอะ!"
อวิ๋นจื่อเหยาเบี่ยงตัวหลบตามสัญชาตยานพรอมกับยกเท้าเตะสวนออกไป ดวงตาหงส์หรี่ลงในพริบตาก้อนหินในมือของนางก็ฟาดลงบนศรีษะของชายหน้าแหลมเลือดสดไหลรินชายหน้าแหลมกรีดร้องโอดโอยทันทีที่เห็นเลือดสดๆไหลรินเขาก็สลบลงไปบนพื้นในทันที
จากนั้นอวิ๋นจื่อเหยาก็เคลื่อนตัวหลบการลอบโจมตีของพี่ใหญ่ของพวกมันแต่เพราะนางไม่ได้ตั้งตัวจึงล้มลงแต่ในขณะที่นางล้มลงนั้นมือก็ตวัดไม้เสียบถึงหูลู่ที่ปลายแหลมคมออกไปเสียบเข้ากลางหน้าผากของพี่ใหญ่ของพวกเขา
พี่ใหญ่ตกตะลึงตาเบิกกว้างร่างใหญ่ของเขาหยุดจะชักความเจ็บแปลบพุ่งขึ้นมาตรงกลางศรีษะ เขาสัมผัสได้ถึงของเหลวอุ่นค่อยๆไหลลงมากลางใบหน้าของเขา
พี่ใหญ่ค่อยๆยกมือขึ้นลูบของเหลวอุ่นนั้นออกมาดู ร่างหนาก็ผงะตัวแข็งทื่อ "เลือด? นี่เลือด?เลือด...." เขาซวนเซถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะล้มตึงลงไปกับพื้นอย่างอ่อนแรง
อวิ๋นจื่อเหยาหยิบหินขึ้นมาก้าวเดินไปหาเหล่าถงอย่างช้าๆเวลานี้ใบหน้างามของนางมีเพียงความเย็นเยือก ไอสังหารแผ่ซ่านรอบกาย เหล่าถงกลืนน้ำลายเขาค่อยๆคลานถอยหลังอย่างตื่นกลัว
"มะ...มะ....แม่นาง....ข้ายอมแล้ว ข้ายอมแล้ว" เหล่าถงลนลานอย่างตื่นกลัว
อวิ๋นจื่อเหยาหรี่ตาลง นางก้าวเดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยถามเขาอย่างช้าๆว่า "บอกข้ามาใครจ้างวานพวกเจ้ามา?"
"ไม่ ไม่มี มีแค่พวกเรา...ทะ...ที่จะมาดักปล้นเอาเงินสองร้อยตำลึงจากเจ้า!"
"ถ้าไม่บอกเจ้าจะไม่โดนแค่เท่าพวกเขา ข้าจะทำให้เจ้าพิการไปตลอดชีวิต" อวิ๋นจื่อเหยาเอ่ยเสียงเย็นชาพร้อมกับตวัดดวงตาลงมองหว่างขาของเขา เหล่าถงมองตามสายตาและก้อนหินในมือของอวิ๋นจื่อเหยาแล้วเขาก็ผวาสองมือกุมเป้ากางเกงของตนเองเอาไว้ในทันที
เรื่องที่นางชนะรางวัลทายอักษรปริศนาโคมไฟได้เงินสองร้อยตำลึงมาก็มีคนมากมายในเวลานั้นที่รู้ แต่คนเหล่านี้ถ้าไม่ใช่มีคนส่งมาพวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่านางจะผ่านมาทางนี้ อีกอย่างหากจำไม่ผิดเจ้าของร่างเดิมทีก็เป็นคนเก็บตัวไม่เคยออกจากจวนไปร่วมงานหรือพบปะผู้ใด
ดังนั้นคนที่คิดจะทำร้ายนางและรู้จักนางในตอนนี้ก็คงมีไม่กี่คน อีกอย่างพวกเขาถึงกับหานักเลงหัวไม้ชั้นต่ำมาสร้างความอัปยศให้กับนางนับว่าคงมีความเกลียดชังนางไม่เบา
"ข้าบอก ข้าบอกแล้ว" เหล่าถงกลัวว่าชีวิตนี้ตัวเองจะพิการก็ลนลานขึ้นมา จริงอยู่พวกเขาเป็นขอทานเป็นคนเร่ร่อนที่ต้องการเงิน แต่เวลานี้ก็ต้องรักชีวิตของตัวเองก่อนไหมขนาดพี่ใหญ่กับพี่รองยังไม่รอดเลย นี่มันคุณหนูที่ไม่ได้เรื่องจากตระกูลอวิ๋นตรงไหนกัน นี่มันหญิงสาวดาวพิฆาตชัดๆ!
"มีหญิงสาวคนหนึ่งมาหาพวกข้า บอกให้พวกเราวันนี้มาถนนสายนี้มาหาเจ้า ถ้าเล่นงานเจ้าให้ตายจะได้เงินสองร้อยตำลึง ถ้าหากทำให้ตายไม่ได้ ก็...ก็ให้ทำลายความบริสุทธิ์ของเจ้า เอาชั้นในเจ้ากลับไปก็จะให้แปดสิบตำลึง!"
ดังนั้น ในตอนแรกเลยคิดจะเอาชีวิตนางสินะ ถึงอย่างไรทำนางตายก็ยังได้มากขึ้นร้อยยี่สิบตำลึง
"นางมาจากจวนไหนกัน?" อวิ๋นจื่อเหยาเอ่ยถามอย่างเยือกเย็น เหล่าถงไม่กล้าขยับเขาแค่เห็นไอสังหารจากสายตาของนางเขาก็เกรงกลัวแทบฉี่ราดอยู่แล้วเดิมทีเขาก็ไม่ใช่คนที่มีสุขภาพแข็งแรงอะไรไอทุกคืนจนไม่ได้หลับนอนมานานหลายเดือนแล้วนี่มาออกแรงได้สองสามกระบวนท่าเขาก็แทบขาดใจ
เหล่าถงรีบร้อนบอกขึ้นมา "ในตอนที่นางมาหาแล้วตกลงราคาพวกเราแอบติดตามนางไป และเห็นนางเข้าไปในจวนราชครู!"
จวนราชครูไป๋?
อวิ๋นจื่อเหยาพยักหน้านางเข้าใจขึ้นมาแล้ว นี่ไป๋ชิงหลางแค้นนางลึกขนาดนี้เลยหรือ?
"มะ แม่นางอย่าทำร้ายข้าเลยนะข้าไม่อยากพิการ.."
อวิ๋นจื่อเหยาหรี่ตามองเขาครู่หนึ่งจากนั้นนางก็พูด "เจ้าเป็นผู้ชายเสียเปล่ากลัวลนลานขนาดนี้ยังกล้ารับงานมารังแกข้าอีก!"
"นางผู้นั้นบอกว่าเจ้าเป็นเพียงสตรีอ่อนแอผู้หนึ่งหนำซ้ำในตัวเจ้ายังมีเงินตำลึงอีกสองร้อยตำลึงหากจัดการเจ้าได้เงินสองร้อยตำลึงค่าจ้างบวกกับสองร้อยตำลึงของเจ้าพวกข้าก็จะมีบ้านมีเงินไม่ต้องเร่ร่อนนอนข้างทางอีกแล้วไม่ใช่หรอ..." ชายคนนั้นค่อยๆเบิกตามองขึ้นมาที่อวิ๋นจื่อเหยา
นางมองดูเหล่าถงแวบหนึ่งจากนั้นก็พูด "เจ้าดูแล้วคงป่วยอยู่ด้วยกระมัง?"
เหล่าถงชะงัก ดวงตาของเขาเบิกโพลง "ข้า ข้า แม่นางเจ้า เจ้ารู้หรือ?"
อวิ๋นจื่อเหยาขบเม้มริมฝีปากนางหันไปหาชิงชิงที่ยืนตัวสั่นอยู่ไกลๆแล้วพูดว่า "เอาถุงเงินมาให้ข้าหน่อย"
ชิงชิงตัวสั่นค่อยๆก้าวเดินเข้ามาแม้ไม่รู้ว่าคุณหนูของนางจะทำอะไรนางก็ไม่ได้ถามส่งถุงเงินนั่นออกไปอย่างช้าๆ "คุ คุณหนูเจ้าคะ?"
อวิ๋นจื่อเหยาหยิบเงินออกมาสามตำลึง "พวกเจ้าสามคนเอาไปคนละหนึ่งตำลึง ข้าหน่ะเป็นคนใจกว้างเข้าใจคนเช่นพวกเจ้าเดิมทีข้าอยากจะหางานหาที่อยู่ให้พวกเจ้าแต่ดูแล้วก็ไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะซื่อสัตย์กับข้ามากแค่ไหน พวกเจ้าไปปรึกษากันดูหากอยากกลับตัวเป็นคนดีมีที่อยู่ก็มาพบข้าที่จวนแม่ทัพอวิ๋น"
"หา....." พี่ใหญ่ของขอทานตื่นขึ้นมาทันได้ยินที่อวิ๋นจื่อเหยาพูดเขาก็ถึงกับอุทานออกมา เขาลนลานคลานเข่ามาทั้งที่ไม้เสียบถังหูลู่ยังคาอยู่ที่กลางหน้าผาก
เขาเอ่ยถามอย่างตกตะลึงว่า "จะ เจ้า เจ้าคือ...คุณหนูจวนแม่ทัพอวิ๋นหรือ?"
อวิ๋นจื่อเหยาหันกลับไปมองเขา พี่ใหญ่คนนั้นผงะไปด้วยความตื่นกลัวพร้อมกับคลานหลบไปที่ด้านข้างของเหล่าถงอย่างตื่นตระหนก
"บิดาของข้าคืออดีตแม่ทัพอวิ๋น อวิ๋นจื่อหลง!" อวิ๋นจื่อเหยาพูดขึ้นช้าๆชัดชัด
ลูกพี่ของขอทานกลืนน้ำลาย"คุณหนูอวิ๋นหากข้ารู้ว่าเป็นท่านข้าจะไม่รับงานนี้ ข้า ข้าขออภัยจริงๆข้ามันเนรคุณ"
"___"
อวิ๋นจื่อเหยางุนงง นางยังไม่ทันเอ่ยถามลูกพี่คนนั้นก็พูด "ก่อนนี้ข้าเคยเป็นคนเลี้ยงม้าในค่ายทหารตระกูลอวิ๋นแต่หลังจากที่กองทัพตระกูลอวิ๋นสูญสิ้นข้าก็ไม่มีงาน มารดาที่บ้านล้มป่วยข้าจำเป็นต้องหาเงินไปรักษาขอทานทั้งวันคืนไม่ได้สักสลึงพอมีคนยื่นงานง่ายๆมาให้แม้จะผิดพวกข้าก็จำใจ"
อวิ๋นจื่อเหยาจึ๊ปากนางหรี่ตาสังเกตุพี่ใหญ่ของขอทานนั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน "ข้าจะเชื่อได้อย่างไรว่าเจ้าไม่โกหก?"
"ไม่ไม่ข้าไม่โกหกท่าน อดีตแม่ทัพอวิ๋นเคยช่วยชีวิตข้ากับมารดาหาบ้านให้อยู่หางานให้ทำแต่พอมารดาข้าล้มป่วยข้าไม่มีงานของในบ้านก็ขายรักษามารดาบ้านข้าก็นำไปขายเลยย้ายไปอยู่ที่วัดร้างนอกเมืองขอทานประทังชีวิต หากข้า หากข้าโกหกข้าขอให้ไม่ตายดี"
อวิ๋นจื่อเหยาหรุบตา "คนละหนึ่งตำลึงพวกเจ้าเอาไปรักษาตัวรอข้าตรวจสอบก่อนหากพบว่าที่เจ้าพูดมาเป็นเรื่องโกหกข้าจะทำให้เจ้าตายทั้งเป็น"
ลูกพี่กับเหล่าถงขนลุก ทั้งสองส่ายหน้าระรัว"ไม่ ไม่โกหกแน่ๆ ท่านผู้เฒ่าอวิ๋นรู้จักข้า ข้าคือหู่วจงคุณหนูอวิ๋นท่าน ท่านสอบถามดูได้"
อวิ๋นจื่อเหยาเห็นความหนักแน่นในดวงตาของเขานางก็พยักหน้า "อีกสามวันมาพบข้าที่จวนแม่ทัพอวิ๋น บอกเอาไว้ก่อนนะหากเล่นตุกติกข้ามีหลายวิธีที่จะเฉือนเจ้านั่นของพวกเจ้าให้พวกเจ้าตายทั้งเป็น!"
"ได้...ได้ขอรับคุณหนูอวิ๋นพวกข้าจะไปพบท่าน"
อวิ๋นจื่อเหยาให้ตำลึงแก่พวกเขาไปคนละหนึ่งตำลึง จากนั้นก็ดึงไม้เสียบถังหูลู่ออกจากหน้าผากของหู่วจงในตอนที่เขาเผลอ ใครจะคิดหู่วจงผู้ร่างกายกำยำจะกลัวเลือดมากขนาดนั้นทันทีที่เลือดไหลออกมาเขาก็สลบไป
"สำออยจริงๆไม้เสียบถังหูลู่ปักเข้าไปก็เจอกะโหลกแล้วแผลก็ไม่ได้ลึกขนาดนั้นไหม?"
อวิ๋นจื่อเหยาส่ายหน้า ก่อนจะพาชิงชิงที่ลนลานอย่างตื่นกลัวกลับจวน
ห่างไปไม่ไกลชายหนุ่มรูปงามในชุดสีขาวล้วนทั้งตัวสวมใส่หน้ากากเงินครึ่งหน้านั่งมองสถานการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบอย่างเงียบๆ ด้านข้างของเขาถังหลงยืนตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อเพราะไม่คิดว่าคุณหนูอวิ๋นรูปร่างผอมบางจะสามารถต่อสู้กับขอทานรูปร่างสูงใหญ่ทั้งสามคนได้
เขากลืนน้ำลายลงคอมองไปยังผู้เป็นนายที่นั่งบนรถเข็ญอย่างขมขื่น หากนางแต่งเข้ามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องนางจะไม่รังแกท่านอ๋องของเขาหรอกหรือ?
"ไปสืบดูทุกเรื่องที่ขอทานพูดเป็นความจริงไหม?" น้ำเสียงทุ้มเย็นชาดังขึ้นทำลายความคิดที่ไร้สาระของถังหลงให้หยุดลง เขาโค้งกาย "พะย่ะค่ะท่านอ๋อง"
.....