บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ขอทานดักปล้น

อวิ๋นจื่อเหยาปรายตาขึ้นมองไป๋ชิงหลางที่กำลังยืนตกตะลึงอยู่ เดิมทีอวิ๋นจื่อเหยาก็คิดว่านางจะเอ่ยขอโทษตนออกมา แต่นางคงคาดหวังจากคนประเภทนี้มากเกินไปจึงรู้สึกผิดหวังอยู่เล็กน้อย

"คุณหนูไป๋คนเราต่อให้รีบร้อนมากเพียงใดหากทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็ต้องมีไม่ใช่หรือ?"

"คุณหนูอวิ๋นเจ้าก็กล่าวเกินไป วันนั้นท่านปู่ของข้าล้มป่วยข้าร้อนใจเร่งให้คนขับรถม้ารีบกลับจวน ในเมื่อเจ้าเห็นรถม้าวิ่งมาเร็วขนาดนั้นเหตุใดเจ้าถึงไม่หลบออกไปเล่า 

ชาวบ้านคนอื่นๆพวกเขาก็หลีกทางกันทั้งนั้นเหตุใดถึงเป็นเจ้าที่ยังไม่หลบ?"

"คุณหนูไป๋เจ้าจะบอกว่าเป็นข้าที่ผิดเองที่ไม่หลบออกไปจากทางที่รถม้าของเจ้าวิ่งผ่านมาอย่างนั้นหรือ? 

คุณหนูไป๋ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้อย่างหนึ่งนะ ผู้ที่เขาเจริญแล้ว ข้าหมายถึงว่าผู้ที่เขามีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี รู้เคารพผู้อื่น ระมัดระวังความปลอดภัยร่วมกับผู้อื่นเขาจะรู้ว่า การขับขี่ในที่ชุมชน หรือที่ ที่มีผู้คนพลุกพล่านเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินไม่สมควรขับขี่ยานพหนะเกินสามสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง

ข้าพูดเช่นนี้คุณหนูไป๋คงจะไม่เข้าใจเพราะเจ้ายังเป็นคนที่ยังไม่พัฒนา ดังนั้นข้าจะบอกเจ้าว่า ผิดก็ควรสำนึกผิด และกล่าวคำขอโทษออกมาอย่างจริงใจ ไม่ใช่จะมายืนแถแล้วโยนความผิดให้ผู้อื่นเช่นนี้

ท่านปู่ของเจ้าล้มป่วยแต่เจ้าชนผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสแล้วไม่ใส่ใจลงมาดู ชีวิตท่านปู่ของเจ้าสำคัญแต่ชีวิตของผู้อื่นไม่สำคัญหรือ? 

ชีวิตผู้อื่นก็สำคัญต่อคนในครอบครัวของผู้อื่นเช่นเดียวกับท่านปู่ของเจ้าก็สำคัญต่อครอบครัวของเจ้านั่นแหล่ะ 

อีกอย่างเท่าที่ข้าจำได้จวนแม่ทัพของข้าก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับจวนไป๋ของเจ้า ตัวข้าก็ไม่เคยคบค้าพูดคุยกับเจ้า คุณหนูไป๋เจ้ามีความแค้นอะไรกับข้าอย่างนั้นหรือ?"

"เจ้า..." ไป๋ชิงหลางตกตะลึงซ้ำยังฟังสิ่งที่อวิ๋นจื่อเหยาพูดออกมานั้นรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างทำให้นางนั้นชะงักและพูดไม่ออก

หยวนโหวน้อยยกคิ้วมองขึ้นไปยังชั้นสามของหอไห่สือ จากนั้นเขาก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเสียงดังจนคนที่มาเที่ยวงานต่างหันมามอง

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า....."

อวิ๋นจื่อเหยาขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่าไม่มีใครแย้งอะไรนางก็คร้านจะสนใจนางก็พูดว่า "ข้าขอตัว" พร้อมกับหมุนกายก้าวเดินจากไป 

ด้านบนหอไห่สืออ๋องสามเซียวรั่วเฟิงยกคิ้วขึ้นมองตามแผ่นหลังอันบอบบางของเด็กสาวที่ก้าวเดินไกลออกไปแล้วริมฝีปากบางก็ขบเม้มครู่เดียวเขาก็หันไปหาถังหลงที่ยืนตกตะลึงอยู่แล้วเอ่ยถาม

"เจ้าว่าหากข้ายกเลิกการสมรสครานี้นางจะตกลงหรือไม่?"

ถังหลงตื่นจากภวังค์แล้วก็หันกลับมาชะงัก "ท่านอ๋องเรื่องนี้ข้าน้อยไม่สามารถพูดได้พะย่ะค่ะ"

"ข้าก็ไม่ได้จะให้เจ้าพูดข้าแค่เพียงถาม"

"____"

ไม่นานหยวนอี้เจ๋อก็เดินถือพัดหัวเราะร่าเข้ามา "ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าชื่นชมว่าที่พระชายาของเจ้าจริงๆ เดิมทีตระกูลไป๋ก็ยิ่งใหญ่อยู่แล้วจนพวกเขาไม่เห็นหัวผู้ใด เจ้าดูคุณหนูไป๋นั่นสิป่านนี้แล้วยังตะลึงอยู่เลย" 

ที่ด้านล่างไป๋ชิงหลางมองตามอวิ๋นจื่อเหยาด้วยดวงตาแดงก่ำ สองมือของนางในแขนเสื้อกำลังกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ สาวใช้ทั้งสามที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

หลังจากที่อวิ๋นจื่อเหยาปล่อยโคมไฟเสร็จนางก็เดินกินถังหูลู่เคียงข้างไปกับชิงชิง ชิงชิงนั้นเมื่อสักครู่นางเองก็ยังคงตกตะลึงไม่หาย

หลายปีมานี้เดิมทีคุณหนูของนางจะเป็นคนเก็บตัวเงียบมาตลอด และทุกครั้งที่ออกจากจวนจะใช้ผ้าบางปิดบังใบหน้าครึ่งหนึ่งเอาไว้เสมอ 

ตั้งแต่ฟื้นจากอุบัติเหตุครานั้นคุณหนูของนางก็ดูเหม่อลอยและนั่งถอนหายใจ ดูไม่ออกเลยว่าคุณหนูของตนนั้นเป็นอะไรจนกระทั่งวันนี้ 

คุณหนูของนางตอบโต้คนตระกูลไป๋นั่นจนคุณหนูไป๋คนนั้นพูดไม่ออกเลย ถึงแม้ว่าตนจะตกใจอยู่บ้างแต่ก็คิดว่า คุณหนูไป๋ผู้นั้นสมควรแล้วที่โดนคุณหนูของตนต่อว่าเช่นนั้นออกไป เพราะช่างเป็นสตรีที่ไร้ยางอายจริงๆ

"คุณหนูเจ้าคะ วันนี้คุณหนูตอกกลับคุณหนูไป๋นั่นจนนางตะลึงไปเลยนะเจ้าคะ!" ชิงชิงกินถังหูลู่พลางพูดไปพลางอย่างสนุกสนาน

อวิ๋นจื่อเหยายกคิ้วหันมามองนางแล้วถาม "ทำไมหล่ะ? หรือว่าข้าไม่ควรโต้แย้งกับนาง?" 

ชิงชิงส่ายหน้ารัวๆ "ไม่ใช่เจ้าค่ะ แต่เมื่อก่อนคุณหนูแค่จะเงยหน้าพูดคุยกับคนยังไม่กล้าเลยเจ้าค่ะ วันนี้คุณหนูเก่งจริงๆนะเจ้าคะยังได้เงินตำลึงกลับบ้านอีกด้วย!"

"สุดยอดไปเลยใช่มั้ยหล่ะ?" อวิ๋นจื่อเหยาเชิดหน้าอย่างภูมิใจ

ในขณะนั้นเองเมื่อทั้งสองเดินไปใกล้จะถึงจวนแม่ทัพแล้วอยู่ห่างแค่หุวมุมหนึ่งเท่านั้นจู่ๆก็มีชายเร่ร่อนสามคนเดินมุ่งตรงเข้ามา

อวิ๋นจื่อเหยาที่เคยเป็นถึงหัวหน้าแกงส์อันธพาลในยุคสมัยใหม่นางจะไม่รับรู้ได้อย่างไรว่าคนสามคนที่มานี้ตั้งใจจะมาหาเรื่องพวกนาง

อวิ๋นจื่อเหยากินถึงหูลู่ก้อนสุดท้ายหมดนางก็ถือได้เสียบถังหูลู่เอาไว้ในมือแน่นก่อนจะพูดกับชิงชิงที่ไม่รู้เรื่องราวที่อยู่ข้างๆว่า

"ชิงชิงเจ้าหลบไปอยู่ด้านหลังของข้าก่อน"

ชิงชิงงุนงง "ทำไมหรือเจ้าคะคุณหนู?..." ทันทีที่นางถามจบก็เห็นชายร่างใหญ่สามคนสวมใส่เสื้อผ้ามอมแมมก้าวเดินตรงเข้ามาด้วยความมาดร้าย

"หลบไปก่อนเร็ว!" อวิ๋นจื่อเหยาพูด

ชิงชิงนั้นส่ายหน้า "ไม่เจ้าค่ะข้าจะปกป้องคุณหนูเอง" ชิงชิงพูดจบนางก็ออกมายืนขวางหน้าของอวิ๋นจื่อเหยาเอาไว้ อวิ๋นจื่อเหยาถอนหายใจอดที่จะรู้สึกเอ็นดูเด็กสาวคนนี้ขึ้นมาไม่ได้

"พวกเจ้าดูสินี่ไม่ใช่คุณหนูสูงศักดิ์จากจวนไหนสักจวนหรอกหรือ?" หนึ่งในขอทานสามคนที่เดินเข้ามาพูดขึ้นเสียงดัง

คนที่พูดเมื่อครู่เป็นคนปากแหลมหน้าตอบ และขอทานคนสุดท้ายที่เดินออกมากลับเป็นคนร่างใหญ่กำยำ

พวกเขาพอเดินเข้ามาใกล้แล้วเห็นหน้าของอวิ๋นจื่อเหยาก็ล้วนมีสีหน้าตะลึงในความงาม

"หญิงสาวคนนี้หน้าตาดีเสียเหลือเกิน พี่ใหญ่อาสะใภ้ไม่ใช่เอาแต่เร่งให้ท่านหาลูกสะใภ้หรอกหรือ? จับนางกลับไป ท่านก็มีภรรยาแล้ว อาสะใภ้จะได้ตายตาหลับ"

ชายขอทานรูปร่างดำเตี้ยคนหนึ่งเอ่ยขึ้นกับชายร่างกำยำ ชายร่างกำยำพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

"ข้าก็ว่าได้อยู่!"

"เอาตามนี้เลยพี่ใหญ่!"

อวิ๋นจื่อเหยารู้สึกน่าขัน นางมือไพล่หลังแล้วเอ่ยขึ้นตัดบทพวกเขา "พวกเจ้ากำลังพูดถึงข้าหรือ?"

"โอ๊ว....แม่นางคนนี้กล้าไม่เลวเลย เห็นพวกเราแต่กลับไม่กลัว ซ้ำยังกล้าพูดกับพวกเราด้วย!" ชายปากแหลมหน้าตอบรู้สึกแปลกใจมาก

"ข้าง่วงแล้วจะกลับจวนไปนอนพวกเจ้าถ้าหากคิดจะทะเลาะหล่ะก็ไวไวหน่อย ถ้าไม่อยากทะเลาะก็รีบๆไสหัวไป" อวิ๋นจื่อเหยาเชิดคางขึ้น

ขอทานสามคนนั้นเดือดขึ้นมาทันที ทยอยกันถกแขนเสื้อขึ้น

"ข้าทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ขนาดพวกผู้หญิงก็ยังกล้ามาต่อปากต่อคำกับพวกเราแล้วหรือ?"

"พี่ใหญ่ก่อนที่นางจะมาเป็นสะใภ้ใหญ่ของพวกเรา ข้าจะต้องสั่งสอนนางเสียหน่อย!" พูดจบขอทานคนนั้นสาวเท้าเข้ามาหา

"เหล่าถงเจ้าดูแม่นางคนนี้หน้าตาสะสวยเหลือเกิน หากไม่ได้นางไปเป็นพี่สะใภ้คงเสียดายแย่ " 

ขอทานที่เป็นลูกพี่ใหญ่มองมาทางนางน้ำลายแทบจะไหลออกมาแล้ว

"ข้าว่าได้อยู่ พวกเจ้าจับนางแล้วพานางไปที่บ้านข้าส่วนข้าจะไปเอาเงินรางวัลจากผู้ว่าจ้างก่อน" ลูกพี่ใหญ่ตอนนี้มองอวิ๋นจื่อเหยาก็รู้สึกใจคันยุบยิบ 

ผู้ว่าจ้าง? 

อวิ๋นจื่อเหยาหรี่ตาลง นางกระแอม"พวกเจ้าสามคนเลยหากยอมบอกข้าว่าผู้ว่าจ้างของพวกเจ้าเป็นใครวันนี้ข้าจะไม่ฆ่าพวกเจ้าเป็นอย่างไร?"

ขอทานทั้งสามตกตะลึง แต่เพียงครู่เดียวพวกเขาก็ตะเบ็งเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง "ฮ่าๆฮ่าๆฮ่าๆ...."

"แม่นางผู้นี้ช่างอารมณ์ขันดีจริงๆ ไปไปกับพวกข้าอย่ามาเสียเวลาพูดอยู่เลย" ขอทานที่ถูกเรียกว่าเหล่าถงก้าวเข้ามาจู่โจมหมายกระชากแขนนาง

อวิ๋นจื่อเหยายิ้มเย็นชา "ดี..พวกเจ้าเลือกเองนะ" ก่อนที่ขอทานจะสัมผัสแขนของนางอวิ๋นจื่อเหยาก็พลิกมือกลับมาจับข้อมือเขา ออกแรงสะบัดเขาไปทางขอทานที่อยู่ไม่ไกลทั้งสองคน

"อ๊ากๆๆ!"

....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel