๑.๔ กรงสวาทมาเฟีย
“ฉะ...ฉัน…” เป็นอีกครั้งที่ฟ้าลดาพูดไม่ออก คำว่าการตัดสินใจของเธอก็คือการยอมเป็นภรรยาเขาอย่างสมบูรณ์ เพื่อที่ริชาร์ดจะได้ไม่สามารถทักท้วงใดๆ ได้อีก
“ไปเถอะ เดี๋ยวจะลงไปส่ง”
ไบรอันฉวยโอกาสที่ฟ้าลดายืนอึ้งจับมือเล็กแล้วจูงออกไปนอกห้องทำ งานด้วยกัน ฟ้าลดาได้แต่เดินตามอย่างไม่กล้าขัดขืน เธอหลุบตามองมือใหญ่ที่กำลังเกาะกุมมือเล็กของตัวเองด้วยความรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจ ครั้งสุดท้ายที่เขาสัมผัสเธออย่างใกล้ชิดแบบนี้ ก็ตอนที่เขาเข้าไปจูบเธอในห้องหลังจากที่รู้ว่าเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ก่อนจะบังคับให้เธอไปจดทะเบียนสมรสด้วย ซึ่งฟ้าลดาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนนั้นถึงยอมให้เขาบังคับไปง่ายๆ และนั่นเป็นชนวนเหตุของการทะเลาะกันใหญ่โตระหว่างไบรอันกับพ่อของเขา ถึงขนาดไบรอันต้องระเห็จตัวเองออกจากบ้านพร้อมกับตัดขาดจากทุกคน
ฟ้าลดามัวแต่หมกมุ่นอยู่แต่ความคิดของตัวเอง จึงไม่ได้สนใจฟังว่าไบรอันคุยอะไรกับเลขานุการหน้าห้องของเขา มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ประตูลิฟต์เปิดออกแล้วเขาพาเธอก้าวเข้าไปในนั้น ความเงียบของลิฟต์ทำให้สาวน้อยเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเป็นอัตโนมัติและไบรอันเองก็มองมายังเธอเช่นกัน ตาสีฟ้าอมเทาหลุบมองที่ปากอิ่มสีชมพูระเรื่อเตือนให้ฟ้าลดาคิดถึงสัมผัสอันแสนวาบหวามยามที่ปากอุ่นร้อนของเขาบดคลึงบนเรียวปากของเธอ
“คิดอะไรอยู่”
“เปล่านี่” ฟ้าลดามองค้อนๆ ดูตาวาวๆ ของเขาเธอก็รู้แล้วว่าเขาอ่านความคิดของเธอออก
“อยากจูบ อนุญาตหรือเปล่า” ไบรอันพูดเหมือนขอ ทั้งๆ ที่ท่าทีของเขาเหมือนกำลังเตรียมจะรุกรานเต็มที่ แถมถ้อยคำของเขาก็โฉ่งฉ่างขอแทะโลมแบบดื้อๆ จนใบหน้าหวานใสต้องแดงซ่าน
“ไม่ได้ค่ะ”
“ไม่คิดถึงบ้างเหรอ เราไม่ได้จูบกันตั้งสี่ปีแล้วนะ”
“ถึงไม่ได้จูบฉัน คุณก็จูบกับคนอื่นอยู่เรื่อยๆ นั่นแหละ และคงจะไม่ทำแค่จูบอย่างเดียวหรอก” สาวน้อยเผลอประชดอีกจนได้
“ทำไงได้ก็พ่อไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้คุณนี่ ส่วนคุณเองก็เอาแต่หนีผมตลอด” เจ้าของดวงตาสีฟ้าอมเทาย้อนคนประชดบ้าง ฟ้าลดาเลยเป็นฝ่ายจนคำพูดอีกเช่นเคย
“เปล่าหนีซะหน่อย ก็แค่...”
“แค่หาทางเลี่ยง” ไบรอันพูดดักคอก่อนที่ฟ้าลดาจะพูดจบ ก่อนจะใช้นิ้วเรียวยาวจับปลายคางของเธอตรึงไว้ แล้วก้มลงไปใกล้จนปากแทบชิดกับปากของเธอ “จะบอกให้นะฟ้าลดา ถ้าผมเอาจริงคุณไปไหนไม่รอดหรอก”
“อย่าค่ะไบรอัน...” ฟ้าลดาเอ่ยห้ามเสียงเบาหวิวพร้อมกับกลั้นหายใจอย่างรอคอยสัมผัสที่ลึกๆ เธอเองก็โหยหามันตลอดเวลา แต่ทว่าไบรอันกลับไม่ทำอะไร เขาแค่ไล้นิ้วโป้งไปบนริมฝีปากของเธอเหมือนยั่วเย้าเท่านั้น
“ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าไม่เต็มใจก็จะไม่จูบ”
ประโยคนั้นทำให้ฟ้าลดาขมวดคิ้วพลางเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความรู้สึกผิดหวังไม่น้อย ทั้งโกรธทั้งอายที่เขาทำเหมือนหมาหยอกไก่ หลอกให้อยากแล้วจากไปดื้อๆ
“ก็ดี...รักษาระยะห่างของคุณเอาไว้ก็แล้วกัน”
“ฟังดูเหมือนคุณผิดหวังนะที่ผมไม่จูบ” คิ้วเข้มเลิกขึ้น ดวงตาสีฟ้าอมเทาซึ่งนิ่งเฉยเย็นชาอยู่เป็นเนืองนิตย์ไหวระริกขึ้นอย่างล้อเลียน
“ฉันไม่มีวันคิดแบบนั้น” ฟ้าลดาสะบัดเสียงด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยทิฐิ
“เรามารอดูต่อไปยาวๆ ดีกว่าไหม ผมไม่อยากเห็นคนกลืนน้ำลายตัวเอง” ไบรอันบอกภรรยาสาวเสียงเรียบๆ แต่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง ก่อนจะขยับมาสอดมือมาโอบเอวเล็กอีกครั้ง แล้วพาเดินออกไปจากลิฟต์ หลังจากที่ประตูลิฟต์เปิดออก เขาก็พาเธอออกประตูหน้าแล้วก้าวลงบันไดไปอีกห้าขั้น
ตอนนี้หน้าสกายไฮท์ทาวเวอร์มีรถยุโรปยี่ห้อหรูจอดรออยู่ ทีมรักษาความปลอดภัยของไบรอันโค้งคำนับ ก่อนจะขยับไปเปิดประตูหลังให้สาวน้อยที่เดินมากับเจ้านายอย่างรู้งาน
“รถฉันจอดอยู่ที่ลานจอดใต้ดินค่ะ” ฟ้าลดาหันมาบอกคนข้างๆ อย่างไม่พอใจที่เขาทำเหมือนมัดมือชก
“จอดไว้นั่นแหละ จะให้ช่างมาเอาไปเช็คสภาพให้ ไม่ได้เช็คมาเกือบปีแล้วไม่ใช่หรือไง ถ้ามันอยู่ในสภาพดีเดี๋ยวให้คนขับไปส่ง”
ฟ้าลดาตวัดตามองคนบ้าเผด็จการอย่างเคืองๆ นี่เขาติดตามพฤติกรรม ของเธอทุกฝีก้าว ถึงขนาดรู้ว่าเธอเอารถไปเช็คครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เลยหรือ
“นี่ถ้ามีบริษัทเรียกฉันสัมภาษณ์ ต่อให้ฉันผ่านการพิจารณา ฉันก็คงจะไม่ได้เข้าทำงานหรอก คุณคงจะใช้อำนาจเข้าแทรกแซงจนไม่มีคนรับฉันเข้าทำงาน เพื่อบีบให้เธอมาทำงานกับคุณใช่ไหม” สาวน้อยพูดอย่างโมโห
“เพราะฉะนั้นคุณควรมาเขียนใบสมัครที่บริษัทของเรา ขอรับรองว่าทุกอย่างจะตรงไปตรงมา”
เขาใช้คำว่า ‘บริษัทของเรา’ ทำให้ฟ้าลดารู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาในใจ ความ เคืองขุ่นเกือบจะถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกอย่างอื่นแต่เธอก็ข่มกลั้นมันเอาไว้
“คุณรู้จักคำว่าตรงไปตรงมาด้วยเหรอ ฉันนึกว่าคุณรู้จักแต่คำว่าเผด็จการเสียอีก”
“รู้จักสิ อย่างน้อยผมก็ตรงไปตรงมากับความรู้สึกของตัวเองเสมอ”
เอาอีกแล้ว เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่ฟ้าลดาถูกเขาต้อนด้วยคำพูดจนหาอะไรมาตอบโต้เขาไม่ได้ นอกจากขยับตัวออกจากการโอบประคองของเขาและเตรียมก้าวจะขึ้นรถ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้ทำตามที่ตัวเองต้องการ ก็ถูกมือใหญ่ฉุดแขนเอาไว้เสียก่อน
“มีอะไรอีกคะ” เธอหันมาถามเขาอย่างรวนๆ
“เรายังไม่ลากันตามทำเนียมเลย”
ไบรอันบอกสั้นๆ ก่อนจะรวบร่างบางเข้ามากอด แล้วก้มลงจูบแก้มเธอต่อหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ยืนล้อมรถอยู่ ฟ้าลดาถึงกับหน้าแดงแปร๊ด ท้องไส้ปั่นป่วนพานทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ ไหนบอกว่าจะไม่จูบถ้าเธอไม่เต็มใจ แล้วที่ทำเมื่อครู่นี้คืออะไร แถมยังทำต่อหน้าลูกน้องของเขาอีก ไม่รู้หรือไงว่าเธอขายหน้าแค่ไหน... แต่สาวน้อยก็คร้านจะต่อว่าเขา ถึงยังไงเธอเองก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ คิดได้เช่นนั้นฟ้าลดาจึงรีบก้าวขึ้นรถหลังจากที่เขาปล่อยให้เป็นอิสระ จากนั้นไม่นานรถคันหรูก็เคลื่อนตัวออกจากหน้าสกายไฮท์ทาวเวอร์อย่างนุ่มนวล